ผลของการให้ทาน

 
สารธรรม
วันที่  3 ธ.ค. 2565
หมายเลข  45280
อ่าน  447

เรื่องของทานไม่ใช่จำกัดอยู่เฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น คนที่ไม่ใช่พุทธบริษัทมีการให้ไหม มี และถ้าเป็นผลของการให้นั้น ย่อมได้รับผลอย่างนี้ ทั้งที่เป็นปัจจุบัน และหลังจากที่สิ้นชีวิตจากโลกนี้แล้ว ผลที่เกิดขึ้นก็ย่อมเป็นไปตามควรแก่เหตุ


สมัยนี้บางท่านอาจจะคิดว่า ถ้ามีเงินเสียอย่างหนึ่ง คงจะสำเร็จสมความปรารถนาทุกอย่าง แต่ข้อความในพระไตรปิฎก ถ้ามีบุญเสียอย่างหนึ่ง ย่อมมีแต่ผลที่ดี ที่เป็นสุขทั้งนั้น ซึ่งเป็นผลของบุญ

ไม่ควรที่จะถือภาษิตที่ว่า ถ้ามีเงินเสียอย่างหนึ่ง แต่ควรจะเป็น ถ้ามีบุญเสียอย่างหนึ่ง หรือ ถ้าได้กระทำบุญเสียอย่างหนึ่ง ก็ย่อมเป็นที่แน่นอนได้ว่า ท่านย่อมจะได้รับทั้งอายุ วรรณะ สุข พละ ทั้งที่เป็นของสวรรค์ และทั้งที่เป็นของมนุษย์ เพราะเหตุว่าผู้ที่ไม่ได้กระทำบุญไว้ ปรารถนาเท่าไร ย่อมจะไม่ได้สมความปรารถนา แต่ผู้ที่กระทำบุญไว้แล้ว กุศลกรรมที่ได้ทำนั้นเองจะเป็นเหตุนำมาซึ่งความสะดวกสบาย และความสุขสำราญทั้งปวง

พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงธรรมแก่สุมนาราชกุมารีเมื่อครั้งที่ท่านได้ไปเฝ้า ระหว่างทางที่พระผู้มีพระภาคเสด็จสู่พระนครสาวัตถีเป็นครั้งแรก เมื่อฟังธรรมจบ ท่านก็บรรลุเป็นพระโสดาบันบุคคลพร้อมบริวาร ๕๐๐ และที่ท่านได้มาเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลถามเรื่องผลของทาน ดังข้อความในสุมนสูตรนี้ ก็เป็นเพราะว่าในสมัยพระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะ มีภิกษุ ๒ รูป รูปหนึ่งประพฤติสาราณียะ เป็นธรรมที่เกื้อกูลกัน เป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ส่วนอีกรูปหนึ่งนั้น เป็นผู้ที่ทำกิจในโรงภัตร คือ เป็นผู้ที่ไม่แบ่งลาภให้บุคคลอื่น แต่เป็นผู้ที่บริโภคเอง ชื่อว่า ผู้บำเพ็ญวัตรในโรงภัตร คือ เป็นภัตตัคควัตร

ในสมัยพระผู้มีพระภาคพระสมณโคดมพระองค์นี้ ภิกษุ ๒ รูปนั้นได้เกิดในกรุงสาวัตถี ภิกษุรูปผู้เคยบำเพ็ญสาราณียธรรม เกิดเป็นโอรสของพระเจ้าปเสนทิโกศล ส่วนอีกรูปหนึ่ง คือ ผู้ที่ทำกิจในโรงภัตร ผู้ที่ไม่แบ่งลาภ แต่บริโภคเองในโรงภัตรนั้น เกิดเป็นลูกของอุปัฏฐากของพระเจ้าปเสนทิโกศล ทั้ง ๒ ท่านนี้เป็นสหชาติ คือ เกิดวันเดียวกัน และได้สนทนาธรรมกันด้วยข้อความที่น่าสนใจมาก เพราะว่าท่านทั้ง ๒ เป็นผู้ที่ได้เคยสะสมบุญบารมีมาแล้วในอดีต ตั้งแต่ครั้งพระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปะ ซึ่งข้อความธรรมที่ท่านสนทนากัน ก็เป็นเรื่องที่ท่านได้สะสมปัญญา ความรู้ในข้อธรรมนั้นๆ เมื่อท่านทั้ง ๒ นี้สนทนากัน สุมนราชกุมารีได้ฟัง ก็เกิดความสงสัยว่า ผู้ที่มีธรรมที่ได้สะสมอบรมมา ๒ ท่านนี้ จะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จึงได้ไปเฝ้า และกราบทูลให้พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ เรื่องของการเป็นผู้ที่มีศรัทธา มีศีล มีปัญญาเท่ากัน แต่ว่าผู้หนึ่งให้ อีกผู้หนึ่งไม่ให้

อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต สุมนวรรคที่ ๔ สุมนสูตร มีข้อความว่า

ขอเชิญรับฟัง

สุมนสูตร (ผลของทาน)


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ