อินทรีย์ 5 กับ พละ 5
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
อินทรีย์ ๕ และ พละ ๕ ประกอบด้วย ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา
อินทรีย์ คือความเป็นใหญ่ พละ คือ ความไม่หวั่นไหว
อินทรีย์ ๕ ศรัทธา คือสัทธินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ ในสภาพธัมมะของตนคือ น้อมใจเชื่อ วิริยะ คือวิริยินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ในการประคองไว้ สติ คือสตินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ในการระลึก สมาธิ คือสมาธินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ในการไม่ฟุ้งซ่าน ปัญญา คือปัญญินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ในการเห็นตามความเป็นจริง
พละ ๕ สัทธาพละ มีความไม่หวั่นไหวในความไม่มีศรัทธา วิริยะพละ มีความไม่หวั่นไหวในความไม่เกียจคร้าน สติพละ มีความไม่หวั่นไหวในความไม่ประมาท สมาธิพละ มีความไม่หวั่นไหวไปเพราะความฟุ้งซ่าน ปัญญาพละ มีความไม่หวั่นไหวไปในความไม่รู้
พละ ๕ และอินทรีย์ ๕ เหมือนกันโดยองค์ธรรม เพียงแต่อธิบายคนละนัย คือ ความเป็นใหญ่และความไม่หวั่นไหว เปรียบเหมือนแม่น้ำ มีเกาะอยู่ตรงกลาง พึงทราบว่าแม่น้ำสองสาย ที่แบ่งโดยเกาะตรงกลางก็เป็นสายน้ำเดียวกันและก็ย่อมบรรจบกัน ดังเช่น อินทรีย์ ๕ และพละ ๕ ครับ ประการที่สำคัญ ที่ลืมไม่ได้ คือ อินทรีย์ ๕ และพละ ๕ ก็คือการอบรมเจริญปัญญาเพื่อบรรลุมรรคผล ในขณะที่อบรมสติปัฏฐาน ก็ชื่อว่าอบรม อินทรีย์ ๕ และพละ ๕ ด้วยครับ ดังนั้น กิจที่สำคัญคือ เข้าใจเรื่องการอบรมปัญญาคือ การเจริญสติปัฏฐาน ว่าคืออย่างไรครับ
โพชฌงค์ ๗ เป็นธรรมเครื่องตรัสรู้ หมายความว่า ถ้าจะบรรลุธรรม ก็ต้องประกอบด้วยธรรมเจ็ดประการนี้ครับ ซึ่งการอบรมสติปัฏฐาน ที่บริบูรณ์ก็ย่อมทำให้ โพชฌงค์ ๗ บริบูรณ์ครับ ดังนั้น สิ่งที่ควรตระหนักคือ เข้าใจหนทางคือ การเจริญสติปัฏฐานที่ถูกต้อง
ขออนุโมทนา
อินทรีย์ 5 กับพละ 5 โดยสภาพธรรมไม่ต่างกัน แต่ต่างกันโดยกำลัง เช่น มีศรัทธาน้อย หรือมีศรัทธามาก ฯลฯ ต่างกันโดยความเป็นใหญ่ เช่น ปัญญาเป็นใหญ่ในขณะนั้น หรือศรัทธาเป็นใหญ๋ในขณะนั้น