การเอาตัวรอดจากความทุกข์ จากกิเลสและความเร่าร้อน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สภาพธรรมที่เร่าร้อนมากกว่าและน่ากลัวกว่าความเร่าร้อนในนรก😈คือเวลาที่กิเลสเกิดก็เร่าร้อนตามลักษณะของกิเลสนั้นๆ 🔥ชีวิตประจำวันตามความเป็นจริง ไม่รู้ว่าความเร่าร้อนนั้นมาจากไหน เพราะเหตุว่าเกิดมาแล้วเร่าร้อน😠เพราะฉะนั้น ความเร่าร้อนนั้นมาจากไหน ถ้าไม่มีการเกิด ก็ไม่เร่าร้อน และถ้ายังมีกิเลสอยู่ ก็ยังต้องเกิด 😕ไม่ชอบเลยความเร่าร้อน เพราะฉะนั้น เอาตัวรอดดีไหม? เอาตัวรอดจากความเร่าร้อน เอาตัวรอดจากกิเลส😬ถ้าเรายังคงแสวงหาเหมือนเดิม เราไม่พ้นจากกิเลสและความเร่าร้อน😡ขณะกำลังฟังพระธรรมและเข้าใจ ขณะนั้นเป็นการเอาตัวรอดจากความทุกข์ จากกิเลสและความเร่าร้อน😇
บ้านธัมมะ ๒ พ.ย. ๕๔
www.dhammahome.com
👂👂👂ฟังไว้ ฟังไว้ ฟังไว้ เข้าใจไว้ เข้าใจไว้ เข้าใจไว้💡💡💡จนกระทั่งถึงวันหนึ่งซึ่งสามารถละความติดข้องได้ และสภาพธรรมก็ปรากฏตามความเป็นจริง❌ไม่ใช่ว่าฟังวันนี้ พรุ่งนี้ก็รู้แจ้งอริยสัจธรรม 🍃แต่ฟังไว้ เข้าใจไว้ สะสมไว้🍃เพื่อถึงกาลหรือเวลาที่สามารถจะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ🌻🌻🌻สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นความบกพร่องอย่างยิ่งของการฟังคือ ไม่ได้ฟังเพื่อความเข้าใจ👌แต่ฟังเพราะอยากรู้ อยากปฏิบัติ อยากทำ👉 อยากถึงสิ่งที่ได้ฟัง แต่ลืมสนิทเรื่องความเข้าใจ ซึ่งเป็นปัญญา😇เพราะฉะนั้น ไม่มีทางที่จะรู้ความจริงได้ เพราะไม่เข้าใจ มีแต่ความต้องการ
บ้านธะมมะ ๒๖ ต.ค. ๕๔
www.dhammahome.com
ทางรอด/เอาตัวรอด คือให้รอดจากอกุศล ถ้ามีปัญญาก็รอดจากอกุศลได้ แต่ถ้าไม่มีปัญญาจะรอดไหม
ก็พลอยเป็นไปด้วยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโลภะ โทสะและเรื่องใดๆ ก็ตาม
แต่เมื่อมีปัญญาแล้วก็สามารถรอดจากอกุศล เพราะมีความเข้าใจที่ถูกต้องในสภาพธรรมขณะนั้นว่า ไม่มีของใคร ไม่ใช่ใคร และไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร
ลืมอีกแล้วว่าทุกอย่างเกิดได้เมื่อมีเหตุปัจจัย จึงสามารถไม่เยื่อใย ไม่หมกมุ่นเกินเหตุ เพราะห้ามไม่ให้เป็นทุกข์ ห้ามไม่ได้ แต่เมื่อทุกข์เกิดแล้ว ปัญญาสามารถจะมีความเห็นถูก เข้าใจถูกว่าไม่ควรจะมีทุกข์ทับถมให้มากยิ่งขึ้นอีก เพราะฉะนั้น จะรอดจากอกุศลได้เพราะปัญญา
บ้านธัมมะ ๒๘ ก.ย.๕๔
www.dhammahome.com
เราชินกับความคิด แต่ไม่ได้ชินกับสภาพธรรมที่ปรากฏ เวลาที่รู้แข็งที่กาย ส่วนใหญ่ก็จะคิดต่อว่าเป็นแขน เป็นเล็บ เป็นผม ทั้งๆ ที่แข็งต้องเป็นแข็ง
นี่คือความรวดเร็วของธรรมะที่เกิดดับสืบต่อ ซึ่งทำให้ผู้ที่ไม่ได้อบรมปัญญา ไม่สามารถจะรู้ลักษณะตามความเป็นจริงได้
บ้านธัมมะ ๒๑ ก.ย. ๕๔
www.dhammahome.com
ขณะที่กำลังเห็น ไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นทุกข์ แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ว่า เห็นนี้แหละเป็นทุกข์🔥เพราะว่าเห็นเกิดขึ้น แล้วก็ดับไปอย่างเร็วที่สุด ประมาณไม่ได้เลย จนปรากฏเสมือนว่าไม่ได้ดับไปเลย💞เหมือนลูกข่างที่หมุนอย่างเร็วและตั้งอยู่ มีใครเห็นการหมุนอย่างเร็วจนกระทั่งทำให้ลูกข่างนั้นดูเสมือนว่าไม่ได้หมุน🍭ในขณะนี้ สภาพธรรมก็เป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ทุกข์ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และให้บุคคลอื่นสามารถที่จะดับทุกข์นั้นได้จริงๆ 🌱เช่นที่พระองค์ได้ทรงดับทุกข์โดยประการทั้งปวง คือ ต้องมีความเห็นถูกเจ้าใจถูก เพราะไม่มีใครสามารถดับทุกข์ได้ 🌺นอกจากปัญญา จะดับทุกข์ได้ต้องรู้ว่า ขณะนี้เป็นธรรมและเป็นทุกข์ด้วย
บ้านธัมมะ ๒๑ ก.ย. ๕๔
www.dhammahome.com
มิตรแท้คือผู้ที่หวังดี พร้อมทำประโยชน์เกื้อกูลทุกสถานทั้งต่อหน้าและลับหลัง และทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจ นั่นคือมิตรผู้ที่หวังดี ในสังสารวัฏฏ์ก็คงจะมีทั้งมิตรและศัตรูแน่นอน แม้ในปัจจุบันชาตินี้หรือชาติต่อๆ ไป ก็จะมีทั้งคนที่หวังดีและหวังร้าย ถ้าเป็นศัตรูก็ตรงกันข้ามทุกประการ ทั้งกายวาจาก็เป็นไปในทางทำลายและทำร้าย นั่นคือศัตรู
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๐๙
Photo cr. Amazing World
ฟังให้เข้าใจ เพื่อละความหวัง ปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แค่ไหน ปัญญาของเราเพิ่งเริ่มฟัง แค่ไหน
ต้องไม่ขาดการฟัง เพราะปัญญาขั้นการฟังยังไม่สามารถดับกิเลสได้ เพราะฉะนั้น ต้องฟังต่อไป
ประโยชน์ของการฟังธรรม คือ ไม่ใช่ให้เราหมดกิเลสวันนี้ หรือให้รู้ความจริงเดี๋ยวนี้ เพราะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ฟังเพื่อเข้าใจ เริ่มเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ถูกต้องขึ้น
เป็นการสะสมความเห็นถูกที่จะทำให้ค่อยๆ คลายความไม่รู้ ความทุกข์ทั้งหมดเกิดจากความไม่รู้ ผู้ที่หมดกิเลสไม่มีทุกข์ เพราะฉะนั้น ทุกข์เกิดเมื่อไหร่ ให้รู้ว่าเพราะยังมีกิเลสอยู่
บ้านธัมมะ ๗ ก.ย. ๕๔
www.dhammahome.com
ธรรมะวันนี้ สี่คำ
# มงคล เหตุแห่งความเจริญ หรือสิ่งที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายเข้าถึงความเจริญ
# สันโดษ ความยินดีพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ หรือแสวงหาตามสมควรโดยสุจริต
# สัมปทา ความถึงพร้อมด้วยศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา
# โสตปสาท รูปพิเศษที่อยู่กลางหู สามารถรับกระทบกับเสียงเป็นปัจจัยให้จิตได้ยินเกิดขึ้น
บ้านธัมมะ
www.dhammahome.com
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
ขอบพระคุณ และยินดีในความดีคุณณัฐวรรณ ค่ะ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า นรกเร่าร้อนมาก
ภิกษุรูปหนึ่งกราบทูลถามว่า ความเร่าร้อนอื่นที่มากกว่าและน่ากลัวกว่าความเร่าร้อนนี้มีอยู่หรือไม่ และ เป็นฉไน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสตอบว่า ความเร่าร้อนที่มากกว่าและน่ากลัวกว่า นี้ คือ ความเร่าร้อนเพราะความเกิด ความแก่ความตาย ความเร่าร้อนเพราะความเศร้าโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์ ความโทมนัส ความคับแค้นใจ ซึ่งผู้ที่ไม่รู้อริยสัจจ์ ๔ (ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับ-ทุกข์ หนทางที่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์) ย่อมจะประสบกับความเร่าร้อนดังกล่าวนี้ ยังไม่พ้นไปจากทุกข์ ...
ปริฬาหสูตร ... วันเสาร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งที่ท่านได้ถ่ายทอดคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจความจริงของสภาพที่มีจริงในชีวิตประจำวัน เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และอื่นๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม
ขอบพระคุณและยินดีในความดีคุณณัฐวรรณ ค่ะ