ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๙

 
khampan.a
วันที่  10 ก.ย. 2566
หมายเลข  46541
อ่าน  4,263

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจาก
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้


ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๙



~ พระพุทธศาสนา คือ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นคำสอนที่จะนำไปสู่การรู้ความจริงของทุกอย่างจนกระทั่งสามารถที่จะขัดเกลาความไม่รู้ตั้งแต่เกิดจนตายทุกชาติให้ค่อยๆ น้อยลง เพราะเหตุว่า ความไม่รู้ทำให้เกิดความไม่ดีทั้งหมด ความไม่รู้ความจริง จะนำไปสู่ความดีจนถึงที่สุดไม่ได้

~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นประโยชน์โดยตลอด ทำให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ไม่มีแม้บทเดียว ที่จะไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นความจริงจากการทรงตรัสรู้ของพระองค์ เป็นเรื่องของการขัดเกลาทั้งนั้น

~ เดี๋ยวนี้เป็นธรรม ถ้าไม่ได้ฟังธรรม ทุกขณะก็ผ่านไปด้วยความไม่รู้ เดี๋ยวนี้เป็นธรรม ไม่ต้องไปแสวงหา เกิดมาก็เป็นธรรม ตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกขณะเป็นธรรม จะรู้ไม่ใช่ไปรู้ที่อื่น แต่รู้ธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้

~ ถ้าไปปฏิบัติธรรม โดยที่ไม่รู้ว่า ปฏิบัติคืออะไร? นี่คือเริ่มผิด นี่คือเครื่องล่อให้พ้นจากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ มั่นคงว่าไม่ใช่เราแล้วจะหวั่นไหวไหม? ใครว่า ใครไม่ชอบ ใครจะว่าอย่างโน้นอย่างนี้ จะหวั่นไหวไหม? โรคร้ายจะมา จะไม่มา ก็มีเหตุปัจจัยที่จะเกิด เพราะฉะนั้น ก็ทำดีที่สุด

~ ถ้าเป็นผู้ที่มั่นคงจริงๆ ในเรื่องกรรมและผลของกรรม กุศลจิตย่อมเกิดมาก ไม่หวั่นไหว

~ ถ้าเป็นผู้ที่ไม่เห็นโทษของความไม่ดี จะละความไม่ดีได้ไหม? และความไม่ดีต่างหากที่เป็นเหตุนำมาซึ่งความทุกข์ต่างๆ เพราะฉะนั้น จะแก้ไขความทุกข์ยากและปัญหาทั้งหมด ก็ด้วยความเข้าใจความจริง

~ ถ้าจะพิจารณาในเรื่องของการขัดเกลากิเลสของตน พระธรรมทั้งหมดจะเกื้อกูลให้ท่านค่อยๆ น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติ ทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจ เป็นการทำให้กิเลสเบาบาง และสามารถที่จะอบรมเจริญกุศลให้ยิ่งขึ้น

~ ผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรมวินัย ก็ไม่หยุดที่จะกล่าวถึงพระธรรมวินัยที่ถูกต้อง เพื่อค่อยๆ พยุงคนที่สามารถเข้าใจได้ ให้มีความเข้าใจที่มั่นคงขึ้น

~ กุศลทั้งหมด ควรกระทำ ไม่ควรเว้น แล้วสำหรับวันนี้ มีกุศลอะไรที่ตนเองเว้นหรือเปล่า เล็กๆ น้อยๆ ขณะใดก็ตามที่กุศลไม่เกิด อกุศล ก็เกิด จะเห็นได้ว่า เพราะไม่รู้ จึงไม่บำเพ็ญกุศล

~ กิเลสสะสมมาประมาณไม่ได้เลย แล้วก็สะสมต่อไปอีกทุกๆ วันมากขึ้นๆ เพราะฉะนั้น ก็เห็นความละเอียด ความยากและความไม่ประมาทว่า ความเข้าใจเท่านั้นที่จะค่อยๆ รู้แล้วละ ไม่มีตัวตนที่จะไปทำอะไรได้เลยทั้งสิ้น

~ ความดี ไม่ใช่สิ่งที่ทำง่าย แต่เมื่อมีความเข้าใจถูกต้อง ปัญญาที่เข้าใจถูก ไม่เห็นว่าอย่างอื่นจะมีประโยชน์เท่ากับการสะสมคุณความดี เพื่อค่อยๆ ชำระล้างจิตให้บริสุทธิ์

~ ถ้าเห็นกำลังของอกุศล ก็จะรู้ว่า ขณะใดที่กุศลไม่เกิด ขณะนั้นเป็นอกุศล ถ้าเป็นผู้เห็นประโยชน์ของกุศลจริงๆ แม้กุศลเพียงเล็กน้อย นิดหน่อย ในชีวิตประจำวัน กำลังเผชิญหน้า ทำทันที ไม่ต้องคอยเลย

~ จะตายวันไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เกิดมาแล้ว ไม่พ้นความตาย วันนี้สนุกมาก หมดแล้วไม่เหลือเลย ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่เหลือเลย แต่ว่าสะสมความดีและความชั่วสืบต่อไปในจิตทุกขณะ

~ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ชั่วคราว มีแล้ว ไม่มี ไม่ใช่ใครเลยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ธรรมทั้งหมด เป็นอนัตตา นี่เป็นจุดเริ่มแรกของคำสอนทั้งหมดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ทุกคนย่อมเป็นไปตามกรรมของตน ถ้ามีเมตตา ก็น่าสงสารคนที่ทำอกุศลกรรม เพราะเขาย่อมได้รับผลของอกุศลกรรมนั้น แล้วท่านก็จะไม่เดือดร้อนใจ ไม่ใช้วาจาที่ไม่สมควรหรือวาจาที่รุนแรงแก่บุคคลนั้น เพราะขณะนั้นมีเมตตา รู้ว่าบุคคลนั้น ย่อมได้รับผลของอกุศลกรรม

~ ประโยชน์สูงสุด คือ ได้เกิดมาเป็นบุคคลนี้แล้ว ได้เข้าใจธรรมและได้ทำดี เพราะเหตุว่า ประมาทไม่ได้เลย ขณะไหนไม่ดี ขณะนั้นเป็นอกุศล

~ ใครก็ตามที่ไม่ชอบเรา ว่าเรา นั่นเป็นโทสะของเขา แล้วทำไมจะไปเดือดร้อน เห็นไหม? ความไม่รู้ทำให้เดือดร้อนว่าเขาว่าเรา เพราะไม่รู้ ใช่ไหม? แต่ถ้ารู้ตามความเป็นจริงว่าไม่มีเรา ขณะนั้นไม่เอาโทษมาใส่ตนเอง คือไม่เป็นปัจจัยให้กิเลสที่สะสมมาเพิ่มความเป็นตัวตนขึ้น เพราะมีความเข้าใจถูกต้องว่าไม่มีเรา เพราะฉะนั้น จากการที่เริ่มเข้าใจมั่นคงว่าไม่มีเรา กุศลทั้งหมด จะเจริญขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

~ กิเลสมีมาก ไม่ใช่เพียงแค่ในชาตินี้ ชาติที่ผ่านๆ มาสะสมมามากเท่าไหร่แล้ว และยังจะมากต่อไปอีก ซึ่งจะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว

~ ไม่เห็นโทษของความไม่ดี จนกว่าจะได้ฟังพระธรรมด้วยความเข้าใจที่ละเอียดจริงๆ

~ ถ้าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะจากโลกนี้ไป ยังจะโกรธคนอื่นอยู่หรือไม่? เป็นโทษสำหรับใครในขณะที่โกรธ?



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๘



... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
jaturong
วันที่ 10 ก.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
j.jim
วันที่ 10 ก.ย. 2566

ขอบคุณ​และ​อนุโมทนา​ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 10 ก.ย. 2566

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างยิ่ง
และยินดีในความดีของ อ.คำปั่น และของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 10 ก.ย. 2566

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างยิ่ง
และยินดีในความดีของ อ.คำปั่น และของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
swanjariya
วันที่ 10 ก.ย. 2566

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 10 ก.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
suporn71
วันที่ 10 ก.ย. 2566

กราบเท้าท่านอจ.สุจินต์ ในความเมตตาเป็นอย่างยิ่งค่ะ

กราบอนุโมทนาอจ.คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
shsso2551
วันที่ 10 ก.ย. 2566

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ก.ย. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Lai
วันที่ 10 ก.ย. 2566

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jans
วันที่ 10 ก.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
nattawan
วันที่ 11 ก.ย. 2566

ประโยชน์สูงสุด คือ ได้เกิดมาเป็นบุคคลนี้แล้ว ได้เข้าใจธรรมและได้ทำดี เพราะเหตุว่า ประมาทไม่ได้เลย ขณะไหนไม่ดี ขณะนั้นเป็นอกุศล

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ.คำปั่น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Selaruck
วันที่ 13 ก.ย. 2566

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ที่เคารพสูงยิ่ง

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตทุกประการของอาจารย์คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
มังกรทอง
วันที่ 13 ก.ย. 2566

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง
อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้
จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ
กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
มังกรทอง
วันที่ 13 ก.ย. 2566

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี
ฟังธรรมะในดิถี ถูกต้อง
อาจารย์สุจินต์ศรี เป็นหลัก
จิตเจตสิกเดินสอดคล้อง มั่นแฟ้นคำจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
สิริพรรณ
วันที่ 24 ต.ค. 2566

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

ทุกคนยังมีความติดข้องในรูปในเสียง ในรส ในโผฏฐัพพะ (สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย) สิ่งที่ได้มาคือลาภก็เป็นที่ติดข้องยินดีพอใจ

แต่ถ้ามีการฟังพระธรรมก็จะทำให้เรามีความเข้าใจว่า การที่เราติดในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ในสิ่งที่เป็นลาภ ยศ สรรเสริญอะไรก็ตามแต่ เพราะเหตุว่ายังไม่เข้าใจในความเป็นธรรมจริงๆ ว่าแท้ที่จริงแล้ว ไม่มีอะไรเลย นอกจากธรรม

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

กราบขอบพระคุณ อ.คำปั่นด้วยค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ