เพียงปรากฏแล้วก็หมดไป
" ... เพราะฉะนั้น ขณะนี้ที่ได้ยินได้ฟัง พระผู้มีพระภาคฯ จะไม่ตรัสอย่างอื่น นอกจากสภาพธรรมะที่เกิด เกิดแล้วก็ดับ อนิจจัง ไม่เที่ยง สภาพที่ไม่เที่ยง เป็นสภาพธรรมะที่ควรจะยึดถือติดข้องไหม? เพียงปรากฏแล้วก็หมดไป ปรากฏแล้วก็หมดไป ปรากฏแล้วก็หมดไป แสนสั้นทุกขณะ ตามกาละ โดยความเป็นอนัตตา ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนเป็นธรรมะจริงๆ เกิดเพราะเหตุปัจจัย เป็นสภาพธรรมะ อย่างนั้น อย่างนั้น เพียงชั่วคราว แล้วก็หมดสิ้นไป ... ตลอดเวลา ... "
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติม
ณ กาลครั้งหนึ่ง ไปกราบสังเวชนียสถานทั้งสี่ที่อินเดีย [๔] สาวัตถี
Photo cr. Num Sitdhiraksa
ชีวิตในภพนี้ ชาตินี้ จะเหลืออีกเท่าใด ไม่มีใครสามารถทราบล่วงหน้าได้ แต่ที่แน่ๆ เหลือเวลาไม่มากจริงๆ ที่จะทำให้ตัวเองได้เข้าใจพระธรรม เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรประมาทในเวลา และไม่ควรประมาทในอกุศล แต่ละบุคคลสามารถที่จะดำเนินชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้ ให้เป็นไปกับด้วยประโยชน์ได้ โดยมีพระธรรม เป็นที่พึ่ง
เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ยากแสนยาก ก็ควรที่จะเป็นมนุษย์ที่แท้จริง แสวงหาประโยชน์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ แล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป
เราจากโลกก่อนมา โดยไม่รู้เลยว่าเราจะมาเป็นอย่างนี้ในโลกนี้ ฉันใด ถึงเวลาที่จะจากโลกนี้ไปก็ธรรมดา เพราะฉะนั้น ก็สะสมความดีสะสมปัญญาความเห็นถูกเพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรม ความดีก็แสนยากที่จะมากขึ้นเจริญขึ้นได้
ปันธรรมฯ ๒๖๕ www.dhammahome.com/webboard/topic/28200
ผู้ที่เป็นชาวพุทธ จะไม่มีการพึ่งวัดหนึ่งวัดใดทั้งสิ้น แต่พึ่งพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พึ่งพระรัตนตรัย
ปันธรรมฯ ๒๖๕
www.dhammahome.com