การที่จะปรารถนาความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอกล่าวถึงข้อความใน ปรมัตถทีปนี อรรถกถา ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เพื่อแสดงให้เห็นบุคคลผู้มีฉันทะใหญ่ยิ่ง ใหญ่หลวง ในการที่จะปรารถนาความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้อความมีว่า
พึงทราบความที่ฉันทะเป็นความใหญ่หลวง ในบทว่า ฉนฺทตา นี้ โดยนัย มีอาทิดังต่อไปนี้
บุคคลได้ฟังมาว่า ผู้ใดสามารถข้ามท้องจักรวาลนี้ทั้งสิ้น อันมีน้ำท่วมนอง เป็นอันเดียวกัน ด้วยกำลังแขนของตนเท่านั้นแล้วจะถึงฝั่งได้ ผู้นั้นย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้า แล้วไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยาก กลับพอใจว่า เราจักข้ามถึงฝั่งได้ ไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในการนั้นเลย
อนึ่ง บุคคลได้ฟังมาว่า ผู้ใดเหยียบจักรวาลนี้ทั้งสิ้น อันเต็มไปด้วยถ่านเพลิง ปราศจากเปลวไฟ ปราศจากควันไฟ ด้วยเท้าทั้งสองสามารถก้าวเลยไปถึงฝั่งได้ ผู้นั้นย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้า แล้วไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยาก กลับพอใจว่า เราจักก้าวเลยไปถึงฝั่งได้ เขาไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในการนั้นเลย
ไม่ท้อถอย ไม่แสดงความไม่พอใจแม้เล็กน้อย แม้จะได้ฟังมาว่า การที่จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องข้ามท้องจักรวาลทั้งสิ้นที่มีน้ำท่วมนอง เป็นอันเดียวกันด้วยกำลังแขนของตนแล้วจะถึงฝั่งได้ เท่านั้นก็เป็นที่พอใจแล้ว ที่จะมีความเพียรถึงความเป็นพระพุทธเจ้า หรือผู้นั้นจะต้องเหยียบจักรวาลทั้งสิ้น ไม่ใช่โลกนี้โลกเดียว จักรวาลทั้งสิ้น อันเต็มไปด้วยถ่านเพลิงปราศจากเปลวไฟ ด้วยเท้าทั้งสองสามารถก้าวเลยไปถึงฝั่งได้ ผู้นั้นย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้า แล้วไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยาก กลับพอใจว่า เราจักก้าวเลยไปถึงฝั่งได้
ข้อความต่อไป
อนึ่ง บุคคลได้ฟังมาว่า ผู้ใดทะลุจักรวาลนี้ทั้งสิ้นปกคลุมด้วยพุ่มไม้ไผ่หนาทึบ รกรุงรังไปด้วยป่าหนามและเถาวัลย์ แล้วก้าวเลยไปถึงฝั่งได้ ผู้นั้นย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้า แล้วไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยาก กลับพอใจว่า เราจักถึงฝั่งได้ เขาไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในการนั้นเลย
อนึ่ง บุคคลได้ฟังมาว่า ผู้ใดที่หมกไหม้ในนรกตลอดอสงไขยแสนกัป จะพึงบรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า แล้วไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยาก กลับพอใจว่า เราจักหมกไหม้ในนรกนั้นแล้วบรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า เขาไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในการนั้นเลย
พร้อมไหม และถึงแม้จะคิดว่าทำได้ แต่ยังไม่มั่นคง ยังจะต้องสะสมด้วยปัญญาอย่างละเอียดต่อไปจนกว่าจะถึงคุณสมบัติที่พร้อม ซึ่งเมื่อได้เฝ้า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยคุณสมบัติครบที่จะตั้งปณิธานได้ จึงจะ เริ่มตั้งปณิธานที่จะบำเพ็ญบารมี
ถ. หมายความว่า แม้จะตกนรกก็ยอม
สุ. แสดงให้เห็นถึงความยาวนานที่กว่าจะได้บำเพ็ญบารมีพร้อม แสดงถึงความไม่ท้อถอย
พระ คุณสมบัติของผู้ที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ตามข้อความที่ว่า แม้ตกนรกหมกไหม้ตลอดเวลายาวนานก็ไม่หวั่นไหว แสดงว่าท่านจะต้องมีอภิญญา ท่านย่อมรู้ผลของกรรมว่า นรกนั้นร้อนขนาดไหน มีกำลังมากขนาดไหน ท่านรู้ ยิ่งกว่าเราว่านรกนั้นจะร้อนขนาดไหน และท่านยังเข้าใจว่า หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อได้ ทำกรรมที่จะไปนรกแล้ว เพราะฉะนั้น ในระยะเวลาก่อนที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งปรารถนาอยู่ ก็ต้องเป็นเวลาอันยาวนาน และท่านรู้ตามความเป็นจริงด้วย เพราะฉะนั้น ท่านย่อมไม่หวั่นไหวในขณะที่จะต้องไปนรกแน่ๆ แล้ว ซึ่งเป็นเวลา อันยาวนาน ถ้าเป็นเราเจอไฟร้อนๆ ในเตา แค่เอามือใส่ลงไป ก็คงจะไม่ยอมเป็นแล้ว อาตมาคิดว่า ประกอบด้วยเหตุและผลจริงๆ ตามที่ได้แสดงคุณสมบัติมา
สุ. เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เป็นการคิดชั่วครั้งชั่วคราว หรือคิดเล่นๆ หรือคิดว่าการเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นได้โดยไม่ยาก แต่จะต้องเห็นจริงๆ ว่า ยากแสนยากกว่าจะได้บำเพ็ญบารมีที่จะได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประจักษ์แจ้งความจริงของสภาพธรรมที่กำลังเกิดดับในขณะนี้ตามปกติ สามารถที่จะละคลายดับอกุศลได้หมดเป็นสมุจเฉทถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
และสำหรับผู้ที่ปรารถนาจะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็น อภินิหารใหญ่ สำเร็จเพราะ ธรรมสโมธาน ๘ ประการ คือ ความเป็นมนุษย์ ๑ ลิงคสมบัติ ๑ เหตุ ๑ เห็นพระศาสดา ๑ บรรพชา ๑ คุณสมบัติ ๑ อธิการ ๑ ความพอใจ ๑
ความเป็นมนุษย์ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่เป็นมนุษย์ ปรารถนาไม่สำเร็จ
ลิงคสมบัติ ต้องไม่เป็นสตรีในชาติที่ปรารถนาเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เหตุ คือ ต้องถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย ไม่ใช่เพียงแต่อยากนิดๆ หน่อยๆ แต่ต้องถึงพร้อมจริงๆ
เห็นพระศาสดา คือ มีพระศาสดา พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เฉพาะหน้า และความปรารถนาย่อมสำเร็จแก่ผู้ปรารถนาในสำนักของพระพุทธเจ้าซึ่งยังทรง พระชนม์อยู่ ไม่ใช่เมื่อปรินิพพานแล้ว ซึ่งข้อความในอรรถกถามีว่า
เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ความปรารถนาย่อมไม่สำเร็จในสำนักของ พระเจดีย์ ที่โคนโพธิ์ ที่พระปฏิมา หรือที่สำนักของพระปัจเจกพุทธเจ้าและสาวก ของพระพุทธเจ้า เพราะเหตุไร เพราะไม่มีอธิการ คือ วิสัยที่ทำยิ่ง มีกำลัง ความปรารถนาจะสำเร็จในสำนักของพระพุทธเจ้าเท่านั้น เพราะอธิการนั้นยังไม่ถึงความมีกำลังโดยความเป็นอัธยาศัยอันยิ่ง
แสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่ได้พบพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ความคิด ความปรารถนาก็ยังไม่มีกำลังพอ
ประการต่อไป บรรพชา คือ ต้องเป็น ผู้บวชในสำนักของดาบสหรือ ในสำนักของภิกษุทั้งหลาย ผู้เป็นกรรมวิริยวาที คือ ผู้เชื่อกรรมและผลของกรรม ไม่สำเร็จแก่ผู้ตั้งอยู่ในเพศคฤหัสถ์
แม้แต่ในเวลาที่ตั้งปณิธานเพื่อจะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ระหว่างเพศคฤหัสถ์กับบรรพชิต เพศบรรพชิตต้องมีความมั่นคงมากกว่า ด้วยเหตุนี้ถ้าไม่เป็น ผู้ที่บรรพชา ความปรารถนานั้นก็ไม่สำเร็จ
ประการต่อไป คุณสมบัติ
บทว่า คุณสมฺปตฺติ คือ ถึงพร้อมด้วยคุณ มีอภิญญาเป็นต้น
ไม่ใช่อยากเท่านั้น
เพราะความปรารถนาย่อมสำเร็จแก่บรรพชิตผู้ได้สมาบัติ ๘ มีอภิญญา ๕ เท่านั้น ไม่สำเร็จแก่ผู้ปราศจากคุณสมบัติตามที่กล่าวแล้ว เพราะเหตุไร เพราะสามารถค้นคว้าบารมีได้ พระมหาบุรุษบำเพ็ญอภินิหาร เป็นผู้สามารถค้นคว้าบารมีได้ด้วยตนเอง เพราะประกอบด้วยอุปนิสัยสมบัติและอภิญญาสมบัติ
ประการต่อไป อธิการ
บทว่า อธิกาโร คือ มีอุปการะยิ่ง ผู้ใดแม้ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติตามที่ กล่าวแล้ว แม้ชีวิตของตนก็สละแด่พระพุทธเจ้าได้ ย่อมทำอุปการะอันยิ่งในกาลนั้น อภินิหารย่อมสำเร็จแก่ผู้นั้น ไม่สำเร็จแก่คนนอกนี้
อย่างตอนที่ท่านสุเมธดาบสได้ทอดกายลงระหว่างทางที่พระพุทธเจ้าจะ เสด็จผ่านซึ่งยังทำไม่เสร็จ
ที่มา ...
ประการต่อไป ความพอใจ
บทว่า ฉนฺทตา คือ พอใจในกุศลด้วยความใคร่ที่จะทำ
ต้องมีความปรารถนามาก พอใจมากในธรรมทั้งหลายที่จะทำให้ถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น จะเห็นพระมหากรุณาคุณที่พวกเรา ได้มีโอกาสฟังพระธรรม
ข้อความต่อไปมีว่า
พึงเห็นว่า บุญวิเศษอันเป็นมูลแห่งธรรมอันทำให้เป็นพระพุทธเจ้าทั้งปวง เป็นความเจริญอย่างยิ่ง เป็นความงามอย่างยิ่ง เป็นความสง่าหาประมาณมิได้ โดยความเป็นไปปรารภพุทธภูมิอันเป็นอจินไตย และประโยชน์ของสัตว์โลก อันหาประมาณไม่ได้
อนึ่ง พระมหาบุรุษพร้อมด้วยการบรรลุนั้นแล เป็นผู้ชื่อว่าหยั่งลงสู่การปฏิบัติเพื่อบรรลุมหาโพธิญาณ ย่อมได้สมัญญาว่า พระโพธิสัตว์ เพราะมีสภาพไม่กลับจากนั้น เพราะบรรลุความเป็นของแน่นอน
ที่มา ...