นางฟ้า : เป็นผลแห่งกรรมอะไร?

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  12 พ.ย. 2566
หมายเลข  46948
อ่าน  390

"...การเกิดในภพภูมิต่างๆ เป็นผลของกรรม ผลของกรรมดีก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา แต่ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

ทุกคนที่ยังเป็นผู้มีกิเลส กำลังเดินทางอยู่ในสังสารวัฏฏ์ จากชาตินี้ไปสู่ชาติหน้า จากชาติหน้าก็ไปสู่ชาติต่อๆ ไปอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เนื่องจากว่าเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน แล้วเมื่อใดจักเป็นผู้สิ้นสุดของการเดินทางในสังสารวัฏฏ์? และ จะไม่ถึงที่สุดของการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ได้ ถ้าไม่ได้อบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง ขัดเกลากิเลสจนกว่ากิเลสทั้งปวงจะหมดสิ้น ถึงความเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่ต้องเดินทางในสังสารวัฏฏ์อีกต่อไป

ขณะนี้แต่ละคนได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ควรอย่างยิ่งที่จะได้พิจารณาว่า เมื่อเกิดมาแล้ว ในที่สุดก็จะต้องตายอย่างแน่นอน แต่จะตายไปพร้อมกับความไม่รู้ หรือ จะตายไปพร้อมกับได้สะสมความรู้ความเข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้น?

ถ้าไม่ได้สะสมปัญญา ไม่ได้เข้าใจพระธรรมเลย ก็น่าเสียดายมากที่จะต้องตายไปพร้อมกับความไม่รู้ และจะเป็นผู้ไม่รู้อีกต่อไป เต็มไปด้วยกิเลสมากมาย ยากที่จะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ได้สะสมศรัทธาที่จะฟังพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจไป ทีละเล็ก ทีละน้อย บุคคลประเภทนี้เป็นผู้ดำรงชีวิตอย่างมีค่า ไม่เป็นเหตุให้เกิดความเสียดายหรือเสียใจในภายหลัง เพราะยังมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดสำหรับชีวิต

แม้ปัญญาจะยังไม่มาก แต่ถ้าไม่ขาดการฟัง ไม่ขาดการศึกษา ไม่ขาดการพิจารณาไตร่ตรอง ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นเครื่องทำลายความมืดคือ อวิชชา (ความไม่รู้) ได้ในที่สุด

เพราะจุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม คือ เพื่อเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง เพื่อละคลายความไม่รู้ จนกว่าความไม่รู้ จะไม่เกิดขึ้นอีก..."

คำปั่น อักษรวิลัย

๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

(คัดจากกระทู้สนทนาธรรม ๒๕๕๕  หัวข้อกระทู้เทพบุตรมีบริวารเป็นนางฟ้า 500 นางหรือมากกว่าเขาทำบุญเช่นใด)


เรื่อง เทพธิดาเดือดร้อนที่ไม่ได้ฟังธรรม ศึกษาพระธรรม

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑  - หน้าที่ 338

พระมหาโมคคัลลานะเข้าไปพบนาง ได้ถามด้วยคาถาเหล่านี้ว่า

ดูก่อนเทพธิดาผู้งาม มีรัศมีงามผุดผ่องยิ่งนัก นุ่งผ้าสีแดงงาม มีฤทธิ์มาก มีร่างกายงามลูบไล้ด้วยจุณจันทน์ ท่านเป็นใครมาไหว้อาตมาอยู่

อนึ่ง ท่านนั่งบนบัลลังก์ใด ย่อมไพโรจน์ ดังท้าวสักกเทวราชในนันทนวโนทยาน บัลลังก์ของท่านนั้นมีค่ามาก งามวิจิตรด้วยรัตนะต่างๆ ดูก่อนเทพธิดาผู้เจริญ เมื่อชาติก่อน ท่านได้สร้างสมสุจริตอะไร ได้เสวยวิบากแห่งกรรมอะไรในเทวโลก อาตมาถามแล้ว ขอท่านโปรดบอก นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร.

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดีฉันได้ถวายพวงมาลัย และ น้ำอ้อย แด่พระคุณเจ้าผู้เที่ยวบิณฑบาตอยู่ ดีฉันจึงได้เสวยผลแห่งกรรมนั้นในเทวโลก ข้าแต่ท่านผู้เจริญ แต่ดีฉัน ยังมีความเดือดร้อน ผิดพลาด เป็นทุกข์ เพราะดีฉันไม่ได้ฟังธรรม อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นธรรมราชาทรงแสดงดีแล้ว

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เพราะเหตุนั้น ดีฉันจึงมากราบเรียนพระคุณเจ้า ซึ่งเป็นผู้ควรอนุเคราะห์ดีฉัน โปรดชักชวนผู้ที่ควรอนุเคราะห์นั้นด้วยธรรม ที่พระพุทธเจ้าผู้เป็นพระธรรมราชาทรงแสดงดีแล้ว ทวยเทพที่มีศรัทธา ความเชื่อในพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ก็รุ่งโรจน์ล้ำดีฉัน โดยอายุ ยศ สิริ ทวยเทพอื่นๆ ก็ยิ่งยวดกว่า โดยอำนาจ และวรรณะ มีฤทธิ์มากกว่าดีฉัน.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 12 พ.ย. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Dechachot
วันที่ 12 พ.ย. 2566

กราบอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ