ที่พึ่งที่แท้จริง

กุศลและอกุศลจะเกิดขึ้นในขณะใด ไม่มีใครสามารถจะบังคับบัญชาได้ ย่อมเป็นไปตามการสะสมทั้งสิ้น

แนวทางเจริญสิปัสสนา

ไม่มีใครมีอำนาจบังคับบัญชากระแสชีวิตในวันหนึ่งๆ ได้ ที่จะเกิดขึ้นเป็นไปทุกขณะ แม้แต่กำลังเห็นขณะนี้ ก็เป็นวิบาก เป็นผลของกรรม การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ก็เป็นผลของกรรมทั้งสิ้น

ฟังเพิ่มเติม ...

เพราะต้องเป็นเรา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

ตราบใดที่ยังไม่ได้อบรมเจริญปัญญาถึงขั้นที่จะประจักษ์แจ้งความจริงบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคล เหล่าสัตว์ผู้มืดบอดด้วยอวิชชา (ความไม่รู้) ก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิด ไปในภพภูมิแห่งทุกข์ ชาติแล้วชาติเล่าไม่สิ้นสุด ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จึงไม่มีอะไรที่จะเป็นที่พึ่งได้ นอกจากการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง

ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมที่น้อยกว่าที่จะทำให้เกิดในอบายภูมิอื่น ก็ทำให้เกิดในภูมิของเปรต ซึ่งภาษาบาลีใช้คำว่า “ปิตติวิสัย” ซึ่งภูมิของเปรตนี้ ก็วิจิตรต่างกันมาก เปรตบางพวกก็ทรมานมาก หิวโหยแล้วก็ไม่ได้อาหารด้วย

ขอเชิญรับฟัง ...

เรื่องของ เปรต ใน พระไตรปิฎก

ยินดีในกุศลจิตค่ะ