ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ รู้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การสนทนาธรรมเป็นมงคล การฟังธรรมแล้วเข้าใจเป็นมงคล
การศึกษาธรรมะเพื่อให้เข้าใจมั่นคงว่าเป็นธรรมะ เป็นอื่นไม่ได้เลย สิ่งนั้นมีจริงๆ ปฎิเสธไม่ได้ เกิดเป็นธรรมะแต่ละหนึ่งตามเหตุปัจจัยและดับ ไม่ใช่เรา ฟังแล้วเริ่มเข้าใจขึ้น มั่นคงขึ้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ทุกสิ่งที่มีจริง จิตมีจริงไหม? สามารถเห็นจิตได้ไหม? ต้องเริ่มต้นทีละคำ คำหนึ่งหมายถึงสิ่งที่มีจริงหนึ่ง รู้จักจิตไหม ... เพราะไม่รู้จักจึงถามเพื่อให้รู้ว่าจิตคืออะไร!! เดี๋ยวนี้มีจิตไหม? ... อยู่ไหน? ... ฟังแล้วจำได้ว่ามีจิตเกิดดับ แต่ไม่ได้เข้าใจเลย ประจักษ์แจ้งสิ่งที่มีจริงหรือเปล่า? ต้องมีลักษณะให้รู้ได้ เพราะฉะนั้นจิตมีจริง ตั้งแต่เช้าไม่ได้คิดถึงจิต แต่คิดถึงเรื่องราวทั้งๆ ที่มีจิตแน่ๆ แต่หนทางที่จะรู้จิตนั้นไม่ง่ายเป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นฟังทุกคำให้ละเอียด
ขณะนี้มีเห็น เห็นอะไร ... เห็นสิ่งที่ปรากฏที่กระทบตา การสนทนาธรรมทำให้ละเอียดขึ้น สิ่งที่ปรากฏให้เห็นไม่ต้องเรียกอะไรก็มีจริง แต่ไม่ใช่คน ถ้าปิดไฟแล้วเห็นอะไร ... เห็นความมืด ... ต้องตรง เห็นนะไม่ใช่ไม่เห็น เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมืดหรือสว่างทั้งสิ้นที่กระทบตา รูปนั้นเกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน เป็นมืดหรือสว่าง เป็นสีต่างๆ มืดเป็นสีดำ ไม่ว่าจะเห็นอะไรก็ตาม ไม่ใช่เรา เป็นธาตุรู้ เกิดขึ้นต้องรู้ ฟังธรรมะไม่รีบร้อน เพราะว่าลึกซึ้ง ไม่คิดเอง ถ้าคิดเองไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอน เมื่อทรงตรัสรู้แล้วตรัสว่าธรรมะลึกซึ้ง ... กว่าจะรู้ได้ มีธาตุรู้สิ่งต่างๆ จึงปรากฏได้ เพราะฉะนั้นต้องมีสิ่งที่ถูกรู้ เพราะฉะนั้นขณะนี้มีทั้งธาตุรู้และธาตุที่ถูกรู้
ธาตุรู้เกิดขึ้นรู้ ไม่มีรูปใดๆ เจือปนเลยทั้งสิ้น ... นานแค่ไหนกว่าจะรู้ ความเข้าใจไม่ใช่ไปจำชื่อ แต่ต้องรู้ตัวจริงๆ ของธรรมะ เดี๋ยวนี้มีว่างไหม? ว่างคือไม่มีอะไรเลย ต้องไตร่ตรองตรง ... จึงจะรู้ว่าอะไร ... เห็นว่างไหม? ถ้าเห็น ต้องมีสิ่งที่กระทบตาไม่ว่าว่างหรือไม่ว่าง ต้องมีสิ่งที่กระทบตา รู้แล้วก็จำ เราคิดเอง คิดไปไกลจากสิ่งที่ได้ฟัง เพราะไม่เข้าใจจึงสงสัย เมื่อฟังธรรมทำให้คิดละเอียดรอบคอบขึ้น ธาตุรู้เกิดขึ้นรู้ทุกอย่าง โต๊ะเห็นอะไรไหม? ทำให้รู้ว่าเห็นโต๊ะเพราะมีสิ่งที่กระทบตา ฟังแล้วรู้จักตัวธรรมะว่ามีจริงต่างกันเป็นธาตุรู้ (ไม่มีรูปใดๆ เลยแต่รู้) และธาตุไม่รู้อะไรเลย จำแล้วจะเข้าใจไหม? แต่ฟังแล้วไตร่ตรอง ธาตุรู้ที่กำลังเห็นสำคัญแค่ไหน ทุกอย่างเป็นไปตามอำนาจของธาตุรู้ โลกจึงเป็นไปตามธาตุรู้ว่า ขณะนั้นรู้อะไรทีละหนึ่ง โลกคือสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เกิดดับ แตกดับทุกขณะ กว่าจะประจักษ์แจ้งค่อยๆ ละความเป็นตัวตน
ขณะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส คิดนึก มีธาตุรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขณะหลับก็มีธาตุรู้ ... ลึกซึ้งแค่ไหน!!!
ขณะเกิดถ้าไม่มีธาตุรู้ ก็เป็นต้นไม้ ภูเขา ทะเลไป แต่ธาตุรู้เกิด (ธาตุรู้ที่เป็นผลของกรรม) กว่าจะฟังจนรู้ว่ามีแต่ธรรมะที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยเป็นธรรมะแต่ละหนึ่งเป็นนามธาตุ (จิตและเจตสิก) และรูปธาตุ เกิดดับสืบต่อเร็วสุดที่จะประมาณเป็นนิมิต
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความละเอียดยิ่งของธรรมะ ความจริงต้องเป็นความจริง ใครจะพูดถูกหรือผิด เราก็รู้เพราะได้ฟังธรรมะแล้วเข้าใจ แต่ไม่ใช่เรารู้ ต้องเป็นธรรมะเท่านั้น แข็งเป็นแข็ง เห็นเป็นเห็น ชอบเป็นชอบ โกรธเป็นโกรธ ได้เข้าใจธรรมะถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ รู้ อดทนไหม!! หวังไหม!!
ทำดีเพื่อหวังผลที่ดี เพราะฉะนั้นไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ฟังด้วยความเคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุด ต้องเข้าใจทุกคำ!!!
เชิญคลิกชม ...
"สนทนาธรรม ณ แดนพุทธภูมิ" @เดอะ เฟิร์น เรซิเดนซี ออรังคาบัด เช้าวันจันทรที่ 11 ธันวาคม 2566
🔵Facebook : ชมรมบ้านธัมมะ 📸 รับชมวิดีโอถ่ายทอดสดนี้บน Facebook
fb.watch/oSjzpKMuo0/?mibextid=ejvXOw
🔵Facebook page : วิทยุออนไลน์บ้านธัมมะ 📸 รับชมวิดีโอถ่ายทอดสดนี้บน Facebook
fb.watch/oSjCdLcAfE/?mibextid=ejvXOw
🔴Youtube : dhammahomelive www.youtube.com/live/BfchLWAdpHw?si=WcQarLnI-SpGAbCb
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ