ธรรมะละเอียดลึกซึ้งยากที่จะรู้ได้

 
nattawan
วันที่  13 ธ.ค. 2566
หมายเลข  47068
อ่าน  341

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความละเอียดลึกซึ้ง คือ เห็นไม่ใช่สิ่งที่ถูกเห็น เห็นกำลังมีแต่ไม่รู้ความจริง ... เห็นแก้วจริงไหม? ... ไม่จริงเพราะเห็นสิ่งที่กระทบตายังไม่เป็นแก้ว

สิ่งที่ถูกเห็นในห้องนี้ ถ้าไม่คิดถึงพัดลม จะเห็นพัดลมไหม?? ถ้ามีแต่เห็น ไม่มีคิด จะมีพัดลมได้ไหม?? เห็นเกิดขึ้นเห็นเท่านั้นแล้วดับ เห็นคิดไม่ได้ เห็นจำไม่ได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงอภิธรรมเป็นธรรมะที่ละเอียดยิ่งแต่ละหนึ่ง ถ้าไม่ประจักษ์แจ้งลักษณะของธรรมะ พระองค์จะตรัสถึงความจริงไม่ได้ว่า เห็นไม่ใช่คิด ... หลับตา ... คิดได้แต่ไม่เห็นก็ได้ แต่บางครั้งส่วนใหญ่และเดี๋ยวนี้มีเห็นและคิดสิ่งที่เห็น เห็นเกิดขึ้นแล้วดับ คิดเกิดขึ้นคิดถึงสิ่งที่เห็นแล้วดับ

ได้ยินเสียงแล้วดับ ถ้าไม่จำ ไม่คิด จะไม่รู้ว่าเสียงนั้นหมายถึงอะไร!! เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีแต่เห็น แต่มีคิดและมีจำ เป็นอภิธรรมแต่ละหนึ่ง ขณะที่คิดไม่ใช่ขณะที่เห็น แต่เห็นแล้วคิดถึงสิ่งที่เห็น ได้ยินแล้วคิดถึงเสียงที่ได้ยิน ถ้าไม่คิดถึงสิ่งที่เห็นและสิ่งที่ได้ยิน ก็จะไม่มีอะไรเลย นอกจากสิ่งที่เกิดแล้วดับไป นี่เป็นความจริง เป็นธรรมะที่ละเอียดยิ่ง จึงเป็นอภิธรรม

ถ้าไม่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะรู้ไหมว่าพระองค์ตรัสว่าอะไร!! เสียงที่ทำให้รู้ความจริง ต้องเป็นเสียงของพระองค์ที่ทรงตรัสรู้ ขณะนี้เรากำลังได้ยินเสียงที่ตรัสไว้แล้วว่า สิ่งที่มีจริงทุกอย่างเป็นธรรมะแต่ละหนึ่งถ้าไม่มีอะไรเกิด ก็ไม่มีธรรมะอะไร

ขณะนี้ทุกอย่างที่ปรากฏเกิดแต่ละหนึ่งแต่เร็วมาก แต่ละหนึ่งธรรมะที่กำลังปรากฏเพียงหนึ่ง พระองค์ทรงแสดงว่า มีธรรมะอะไรเกิดร่วมกัน ธรรมะที่เกิดร่วมกันอาศัยกันและกันเกิดขึ้นเป็นสังขารธรรม ทุกอย่างที่เกิดต้องเป็นสังขารธรรม

ถ้าพระองค์ไม่ทรงตรัสรู้จะไม่รู้ว่าขณะนี้สิ่งที่เกิดดับทันที เห็นและได้ยินเกิดพร้อมกันไม่ได้ ขณะเห็น เสียงปรากฏไม่ได้!! แต่ขณะนี้เหมือนเห็น ได้ยินและคิดนึกเกิดพร้อมกัน

เรากำลังจะเริ่มต้นพูดถึงวิปัสสนาญานใช่ไหม วิปัสสนาเป็นการประจักษ์แจ้งความจริงที่เรากำลังพูดถึง ถ้าไม่มีความเข้าใจเบื้องต้นจะไม่สามารถประจักษ์แจ้งความจริงได้เลย เมื่อทรงตรัสรู้พระองค์ตรัสว่าธรรมะละเอียดลึกซึ้งยากที่จะรู้ได้

ที่เราได้กล่าวแล้วเป็นการเข้าใจนำไปสู่การประจักษ์แจ้งความจริงทีละเล็กทีละน้อย ถ้าไม่เข้าใจเดี๋ยวนี้ที่เกิดดับ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จริงๆ ถ้าไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อะไรก็ปรากฏไม่ได้ และสิ่งที่ปรากฏจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งหนึ่งทางทวารหนึ่งเท่านั้น ถ้าขณะนี้มีเห็นแล้วไม่รู้เห็นจะเป็นวิปัสสนาไม่ได้ ถ้ามีได้ยินแล้วไม่รู้ได้ยินและเสียงก็เป็นวิปัสสนาไม่ได้

เคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุดเมื่อเข้าใจพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง

เห็นขณะนี้เกิดแล้วดับ ถ้าไม่มั่นคงเป็นปริยัติก็จะไม่เข้าใจพระปัญญาคุณของพระองค์ ไม่ศึกษาด้วยความเคารพที่จะเข้าใจความลึกซึ้งขณะนี้ของธรรมะ เพราะฉะนั้นเคารพพระองค์ด้วยความเข้าใจสิ่งที่พระองค์ตรัส

เห็นมีจริงขณะนี้เกิดและดับ ทุกอย่างที่มีเดี๋ยวนี้เป็นสังขารธรรม

อะไรก็ตามที่เกิดสามารถรู้ความจริงของสิ่งนั้นได้ ไม่ใช่ไปเข้าใจสิ่งที่ยังไม่มี เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดับแล้วและสิ่งที่ยังไม่เกิดไม่สามารถรู้ได้ พระองค์ตรัสว่า ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้วและสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่เพราะไม่รู้ ทุกคนจึงคิดถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แล้วๆ เล่าๆ และคิดถึงสิ่งที่จะทำให้เกิด ... ให้มีขึ้น

ผลของความเพียรคือรู้ว่าความจริงคืออะไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ลึกซึ้งยากจะเห็นการเกิดดับ เพราะยังไม่รู้ธรรมะทั่วทุกอย่าง ยังไม่รู้ความละเอียดของธรรมะแต่ละหนึ่งที่กำลังรวมกันขณะนี้ เพราะฉะนั้นแม้สภาพธรรมะขณะนี้เกิดดับก็รู้ไม่ได้เพราะความเข้าใจยังไม่พอ กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ยังไม่รู้ว่าอะไรเห็นและอะไรถูกเห็น ยังไม่รู้ความจริงว่าอะไรได้ยินและสิ่งที่ได้ยินคืออะไร เพราะฉะนั้นประมาทธรรมะไม่ได้ว่า ตราบใดที่ยังไม่รู้ความละเอียดตามความเป็นจริงก็ยังไม่รู้ว่าธรรมะคืออะไร

ต้องไม่ลืมแม้คำเดียวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะแต่ละคำหมายถึงสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ เมื่อฟังแล้วจึงเริ่มรู้ว่า ธรรมะมีจริงๆ แต่ยังไม่รู้ความจริง ... จนกว่าจะรู้มั่นคงว่า ไม่มีเรามีแต่ธรรมะเท่านั้น เห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วดับไม่ใช่เรา ดับแล้วไม่กลับมาอีก ได้ยินก็เช่นเดียวกัน เพราะเข้าใจถูกต้องว่าธรรมะเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา จึงฟังให้เข้าใจว่าเป็นธรรมะแต่ละหนึ่งเพื่อเข้าใจเพิ่มขึ้น ถ้าไม่อดทนที่จะฟังให้เข้าใจขึ้น จะไม่สามารถรู้ความจริงเดี๋ยวนี้ เพราะเกิดและดับแล้ว ความเข้าใจขณะนี้เพียงขั้นฟังยังไม่เป็นวิปัสสนา!! ความตรง (สัจจบารมี) สำคัญที่สุดในการจะเข้าใจความจริง

ไม่มีใครรู้วิปัสสนาแล้วอะไรรู้? แล้วอะไรเป็นวิปัสสนา? เราพูดคำว่าวิปัสสนาเพราะรู้ว่าวิปัสสนาคืออะไรเพราะฉะนั้นขณะนี้ไม่ใช่วิปัสสนาแล้วขณะนี้เป็นปฏิบัติหรือเปล่า?? ... ไม่ใช่ ... เดี๋ยวนี้เป็นอะไร?? ... ฟังแล้วเข้าใจ ... ยังไม่ถึงปริยัติ เพราะยังไม่เข้าใจสิ่งที่พระองค์ตรัสให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้

เชิญชม ...

"สนทนาธรรม ณ แดนพุทธภูมิ" @ Sarvodaya Maha Buddha Vihar MUMBAI เช้าวันพุธที่ 13 ธันวาคม 2566

🔵Facebook : ชมรมบ้านธัมมะ 📸 รับชมวิดีโอถ่ายทอดสดนี้บน Facebook
fb.watch/oUYMnidKK2/?mibextid=ejvXOw

🔵Facebook page : วิทยุออนไลน์บ้านธัมมะ 📸 รับชมวิดีโอถ่ายทอดสดนี้บน Facebook
fb.watch/oUYJVYjPQK/?mibextid=ejvXOw

🔴Youtube : dhammahomelive www.youtube.com/live/B8irO7ExFV0?si=1H-Ai4A-Uh57swzD

🔴Youtube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
www.youtube.com/live/lalLe3dl9uU?si=vsKwOiNgm2pzwepE

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 13 ธ.ค. 2566

แนะนำหนังสือ ...

ปกิณณกธรรม เล่ม ๙

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 8 เม.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ