พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทุกคำให้ไตร่ตรอง

 
เมตตา
วันที่  28 ก.พ. 2567
หมายเลข  47526
อ่าน  387

ที่สนทนาปัญหาธรรม วันอังคารที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗

[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 442

๔. อรหันตสูตร

ว่าด้วยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

[๑๗๐๔] สาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ตรัสรู้แล้วตามความเป็นจริง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดนั้น ตรัสรู้แล้วซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง ถึงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอนาคตกาล จักตรัสรู้ตามความเป็นจริง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดนั้น จักตรัสรู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง ถึงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าใดเหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบันตรัสรู้อยู่ตามความเป็นจริง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดนั้น ตรัสรู้อยู่ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง อริยสัจ ๔ เป็นไฉน คือ ทุกขอริยสัจ ... ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ก็พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาล ตรัสรู้แล้วตามความเป็นจริง ... จักตรัสรู้ ... ตรัสรู้อยู่ตามความเป็นจริง พระอรหันตสัมมาสัมมาพุทธเจ้าทั้งหมดนั้น ตรัสรู้อยู่ซึ่งอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.

จบอรหันตสูตรที่ ๔


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๑๐๐

มหากรุณาสมาปัตติญาณนิทเทส

[๒๘๕] มหากรุณาสมาปัตติญาณของพระตถาคตเป็นไฉน? พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ผู้ตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาเห็น อยู่ ด้วยอาการเป็นอันมาก จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ผู้ตรัสรู้แล้ว ทรงเห็นอยู่ว่า โลกสันนิวาส อันไฟติดโชนแล้ว จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ พระผู้มีพระ ภาคเจ้าผู้ตรัสรู้แล้ว ทรงเห็นอยู่ว่า โลกสันนิวาสยกพลแล้ว . . . โลกสันนิวาสเคลื่อนพลแล้ว . . . โลกสันนิวาสเดินผิดแล้ว . . . โลก อันชรานำเข้าไปมิได้ยั่งยืน ... โลกไม่มีที่ต้านทาน ไม่เป็นใหญ่ . . . โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป . . .โลกพร่องอยู่ เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่มเป็นทาสแห่งตัณหา . . . โลกสันนิวาสไม่มีทีต้าน ทาน ... โลกสันนิวาสไม่มีที่เร้น ... โลกสันนิวาสไม่มีที่พึ่ง ... โลก สันนิวาสไม่เป็นที่พึ่งของใคร ... โลกสันนิวาสฟุ้งซ่าน ไม่สงบ ... โลก สันนิวาสมีลูกศร ถูกลูกศรเป็นจำนวนมากเสียบแทงแล้ว ใครอื่นนอก จากเราผู้จะถอนลูกศรทั้งหลายของโลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี ... โลก สันนิวาสมีความมืดตื้อคืออวิชชาปิดกั้นไว้ ถูกใส่เข้าไปยังกรงกิเลส ใครอื่นอกจากเรา ซึ่งจะแสดงธรรม เป็นแสงสว่างแก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี. . .โลกสันนิวาสตกอยู่ในอำนาจอวิชชา เป็นผู้มืด อันอวิชชา หุ้มห่อไว้ ยุ่งดังเส้นด้าย พันกันเป็นกลุ่มก้อน นุงนังดังหญ้าปล้อง หญ้ามุงกระต่าย ไม่ล่วงพ้นสงสาร คือ อบายทุคติและวินิบาต ... โลก สันนิวาสถูกอวิชชามีโทษเป็นพิษแทงติดอยู่แล้ว มีกิเลสเป็นโทษ .. . โลกสันนิวาสรกชัฏด้วยราคะโทสะและโมหะ ใครอื่นนอกจากเราผู้จะ ช่วยสางรกชัฏให้แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี ... โลกสันนิวาสถูกกอง ตัณหาสวมไว้ ... โลกสันนิวาสถูกข่ายตัณหาครอบไว้ ... โลกสันนิวาส ถูกกระแสตัณหาพัดไป . . . โลกสันนิวาสถูกตัณหาเป็นเครื่องคล้อง คล้องไว้ ... โลกสันนิวาสซ่านไปเพราะตัณหานุสัย ... โลกสันนิวาส เดือดร้อนด้วยความเดือดร้อนเพราะตัณหา . . . โลกสันนิวาสเร่าร้อน ด้วยความเร่าร้อนเพราะตัณหา . . . โลกสันนิวาสถูกกองทิฏฐิสวมไว้ ... โลกสันนิวาสถูกข่ายทิฏฐิครอบไว้ . . . โลกสันนิวาสถูกกระแสทิฏฐิ พัดไป. . . โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิเป็นเครื่องคล้อง คล้องไว้ . . .โลก สันนิวาส ซ่านไปเพราะทิฏฐานุสัย . . . โลกสันนิวาสเดือดร้อนด้วย ความเดือดร้อนเพราะทิฏฐิ . . .โลกสันนิวาสเร่าร้อนด้วยความเร่าร้อน เพราะทิฏฐิ ... โลกสันนิวาสไปตามชาติ . . . โลกสันนิวาสซมซานไป เพราะชรา . . . โลกสันนิวาสถูกพยาธิครอบงำ . . . โลกสันนิวาสถูก มรณะห้ำหั่น ... โลกสันนิวาสตกอยู่ในกองทุกข์ . . . โลกสันนิวาสถูก ตัณหาซัดไป โลกสันนิวาสถูกกำแพงคือชราแวดล้อมไว้ . . . โลก สันนิวาสถูกบ่วงมัจจุคล้องไว้ . . . โลกสันนิวาสถูกผูกไว้ด้วยเครื่องผูก เป็นอันมาก คือ เครื่องผูกคือราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ กิเลส ทุจริต ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยแก้เครื่องผูกให้แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี . . . .โลกสันนิวาสเดินไปตามทางแคบมาก ใครอื่นนอกจาก เราผู้จะช่วยชี้ทางสว่างให้แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี . . . โลก สันนิวาสถูกความกังวลเป็นอันมากพันไว้ ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วย ตัดความกังวลให้แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี ... โลกสันนิวาสตกลง ไปในเหวใหญ่ ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยฉุดโลกสันนิวาสนั้นให้ขึ้น พ้นจากเหวเป็นไม่มี ... โลกสันนิวาสเดินทางกันดารมาก ใครอื่นนอก จากเราผู้จะช่วยให้โลกสันนิวาสนั้นข้ามพ้นทางกันดารได้ เป็นไม่มี. . .


[เล่มที่ 76] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 503

กัลยาณมิตตตา เป็นไฉน

บุคคลเหล่าใด เป็นคนมีศรัทธา มีศีล เป็นพหูสูต มีจาคะ มีปัญญา การเสพ การซ่องเสพ การซ่องเสพด้วยดี การคบ การคบหา ความภักดี ความจงรักภักดีต่อบุคคลเหล่านั้น ความเป็นผู้มีกายและใจโน้มน้าวไปตามบุคคลเหล่านั้น อันใด นี้เรียกว่า กัลยาณมิตตตา


อ.ชุมพร: เห็นถึงความเกื้อกูลของกัลยาณมิตร ผู้ที่ปราถนาดีกับบุคคลอื่น เน้นให้เห็นเพื่อที่จะได้คิด พิจารณาว่า รู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า แม้แต่ว่า แต่ละคำ คำว่า วัด คำว่า อาราม ซึ่งมาคิดไตร่ตรองรอบๆ ก็เห็นว่า อารามมากมาย แต่ว่า เป็นสถานที่ที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ท่านอาจารย์ได้พูดถึงความหมายของ วัด จริงๆ ก็ว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่ที่เข้าไปขอ เข้าไปอ้อนวอนเพื่อที่จะให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แม้เข้าไปแล้วสิ่งที่น่ากลัวที่สุดกลายเป็นไปยึดถือสิ่งที่ไม่น่ายินดีว่า เป็นสิ่งที่ยินดีไปเสียแล้ว ซึ่งเห็นถึงความไม่ละเอียด ความไม่ตรงมากมายค่ะท่านอาจารย์ ซึ่งผู้ที่จะมีโอกาสมาได้ยินได้ฟังคำกล่าวของท่านอาจารย์ในวันนี้ ไม่ทราบว่าจะทำให้ท่านได้คิดว่า ท่านรู้จักวัดจริงหรือเปล่า? ก็ซาบซึ้งค่ะท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ก็เริ่มเป็นผู้ตรงที่จะรู้ว่า สิ่งใดถูก ก็อบรมเจริญความเห็นถูกให้ยิ่งขึ้น ถ้ามีความเข้าใจว่าอะไรผิด ทิ้งทันที มิเช่นนั้นแล้ว ก็จะไม่มีการที่จะทิ้งได้ เพราะว่า แม้ได้ฟังเข้าใจ ยังไม่ทิ้ง เพราะฉะนั้น ขณะที่ไม่เข้าใจจะทิ้งได้อย่างไร

เพราะฉะนั้น พระคุณสูงสุดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทุกคำให้ไตร่ตรอง เพราะฉะนั้น เราก็กล่าวคำของพระองค์ให้แต่ละคนได้เข้าใจ ว่า พระองค์ตรัสว่า อย่างนี้ จริงไหม? ไม่ใช่ว่าใครคิดเอง แล้วประโยชน์ของการกล่าว คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจให้ถูกต้องเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง มหาศาลหรือเปล่าในสังสารวัฏฏ์ ต้องเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์จริงๆ และรู้ว่า สิ่งใดเป็นโทษ ไม่รีรอที่จะทิ้ง เพราะถ้าไม่ทิ้งก็เพิ่มขึ้น ยิ่งยากต่อการที่จะทิ้ง แต่ถ้าไม่เข้าใจทิ้งไม่ได้

อ.ชุมพร: ที่เห็นถึงว่า วัด เป็นสถานที่ที่ผู้แสวงคุณอาศัย เข้าไปแล้วก็จะได้ประโยชน์เกื้อกูลต่อบุคคลที่เข้าไปมหาศาล แต่ว่าแต่ละท่านแม้แต่ตัวเองก็มากไปด้วยความติดข้องในการที่จะติดข้องในลาภ ยศ สรรเสริญ ฉะนั้น เมื่อไม่ได้รู้จักความจริง บุคคลใดที่สามารถที่จะเอื้ออำนวยสิ่งที่โลภะต้องการ กลายเป็นที่ที่บุคคลเข้าไปเคารพนอบน้อมมากมายก็จะเห็นถึงอันตราย

ซึ่งความหมายของคำว่า วัด ก็เป็นสิ่งที่น่าจะใคร่ครวญ แต่ว่าลักษณะของปัจจุบันนี้ตรงกันข้าม นำมาซึ่งความติดข้อง นำมาซึ่งความยินดี นำมาซึ่งความเห็นผิด อ้อนวอน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง กลายเป็นสถานที่ที่เผยแพร่ความเห็นผิดไป ซึ่งตรงกันข้ามกับความหมายของวัดจริงๆ ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และท่านอาจารย์ได้กรุณาอธิบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้คิดแล้วคิดอีก ก็เห็นถึงความน่ากลัวของความไม่รู้ และความติดข้องต่างๆ กราบเท้าท่านอาจารย์ค่ะ

ท่านอาจารย์: นี่เป็นเหตุที่มีคำถามให้คิดว่า รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือยัง? รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า? เคารพในใคร? ในผู้ที่ไม่รู้จัก หรือในผู้ที่ได้ทรงแสดงธรรมให้ไตร่ตรอง ให้เข้าใจในความเป็นจริง หาใครที่จะเปรียบประมาณได้ไหมในพระมหากรุณา

อ.ชุมพร: แม้แต่คำถามว่า รู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า วัดคืออะไร ภิกษุคืออะไร ถ้าบุคคลใดสะสมมาก็จะเป็นคำถามที่จะเกื้อกูลให้ได้คิด เพื่อที่จะได้ค่อยๆ นำมาซึ่งความยินดีแก่บุคคลนั้นถ้าได้คิดพิจารณาไตร่ตรอง กราบเท้าท่านอาจารย์ค่ะ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 340

ข้อความบางตอนจาก เมตตสูตร

ชื่อว่า ตรง (อุชุ) เพราะทำด้วยความไม่อวดดี ชื่อว่า ตรงดี (สุหุชู) เพราะไม่มีมายา. หรือว่า ชื่อว่า ตรง เพราะละความคดทางกายและวาจา ชื่อว่าตรงดี เพราะละความคดทางใจ. หรือชื่อว่า ตรง เพราะไม่อวดคุณที่ไม่มีจริง ชื่อว่า ตรงดี เพราะไม่อดกลั้นต่อลาภที่เกิดเพราะคุณที่ไม่มีจริง. พึงชื่อว่าเป็นผู้ตรงและตรงดี ด้วยอารัมมณูปนิชฌาน (สมถภาวนา) และลักขณูปนิชฌาน (วิปัสสนาภาวนา)

ขอเชิญอ่านได้ที่ ...

ธรรมเตือนใจ ... พระมหากรุณา

กัลยาณมิตร หรือมิตรดี

พระมหากรุณาที่ไม่มีใครเสมอเหมือน

ขอเชิญฟังได้ที่ ...

ความเห็นเกี่ยวกับกัลยาณมิตร

สัตบุรุษ กับ กัลยาณมิตร

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 1 เม.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ