การอบรมเจริญเมตตา 001

 
แล้วเจอกัน
วันที่  9 ก.ย. 2550
หมายเลข  4768
อ่าน  2,697

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

การอบรมเจริญสติปัฏฐาน และการเจริญกุศลทุกประการ เป็นหนทางในการดับกิเลส แต่เรื่องสติปัฏฐาน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยาก เมื่อสติปัฏฐานไม่เกิด จิตส่วนใหญ่ก็ย่อมไหลไปในทางอกุศล คุณธรรมอย่างหนึ่งที่ขาดหายไปในชีวิตประจำวัน คือ ความเมตตา หรือความเป็นมิตรที่เกิดยาก เพราะขาดการอบรมและเห็นประโยชน์ของเมตตาและเพราะมากด้วยกิเลสนั่นเอง เมตตาจึงเกิดยาก แต่ทุกอย่างอบรมได้ ไม่ว่าจะเป็นสติปัฏฐานและความเมตตา แต่ต้องรู้จักเหตุให้เกิด เช่น เหตุให้เกิดสติปัฏฐาน คือ การฟังให้เข้าใจในเรื่องของสภาพธรรม ที่มีในขณะนี้ว่าคืออะไร เป็นต้น เมตตาก็เช่นกัน สามารถจะอบรมให้มีมากขึ้นได้ โดยเข้าใจถึงเหตุที่จะให้เกิดเมตตา หลายท่านอาจกล่าวว่า เมตตามีน้อย แต่ธรรมทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ต้องอาศัยเหตุปัจจัย ให้เกิดและที่สำคัญที่สุด ต้องอาศัยระยะเวลายาวนาน กว่าที่เมตตาจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราสะสมอกุศลมามากนั่นเอง ดังนั้น จึงขอยกข้อความในวิสุทธิมรรค ในเรื่องของเมตตา เหตุให้เกิดเมตตามีดังนี้ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 9 ก.ย. 2550

ที่สำคัญประการแรก ในการอบรมเจริญเมตตานั้น ต้องเห็นประโยชน์หรือคุณของเมตตาหรือคุณของขันติ ความอดทนว่า ถ้าเราเป็นผู้มีเมตตาก็ย่อมไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครเพราะประกอบด้วยความหวังดี เป็นต้น และถ้าเป็นผู้มีขันติ ก็ย่อมอดทนเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น เป็นต้น และพิจารณาถึงโทษของโทสะว่า โทสะเมื่อเกิดขึ้น ก็ย่อมทำร้ายตัวเองก่อน และก็ทำร้ายผู้อื่นได้ด้วย เป็นต้น เมื่อพิจารณาเห็นคุณของเมตตา และขันติและเห็นโทษของโทสะด้วยปัญญา ย่อมเป็นผู้ที่ใคร่ที่จะอบรมเจริญเมตตามากขึ้น ตรงนี้สำคัญมาก เป็นเบื้องต้นในการอบรมเมตตา เพราะถ้าไม่เห็นประโยชน์และโทษแล้วก็ไม่คิดแม้จะอบรมเมตตา เมื่อไม่คิดที่จะอบรม ก็ไม่สนใจอ่านธรรม ที่เกี่ยวกับเรื่องเมตตา เมตตาก็เจริญไม่ได้ครับ ขอแสดงข้อความในวิสุทธิมรรค ดังต่อไปนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 9 ก.ย. 2550

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ... เมตตาพรหมวิหาร [วิสุทธิมรรคแปล]

ขอให้สหายธรรมได้เห็นประโยชน์ของเมตตา เพราะเป็นบารมี ๑ ใน ๑๐ และเป็นกุศลที่ควรมีในชีวิตประจำวัน ค่อยๆ เป็นคนดีขึ้นด้วยการอบรมเจริญเมตตาและเจริญสติปัฏฐานครับ ติดตามการอบรมเมตตาตอนต่อไป ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 10 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ajarnkruo
วันที่ 10 ก.ย. 2550

โกรธอยู่ แต่สติไม่เกิด ก็อดทนไว้ แล้วเมตตาให้แก่กัน

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
olive
วันที่ 10 ก.ย. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
พุทธรักษา
วันที่ 10 ก.ย. 2550

กว่าจะบรรลุ...พระอริยสาวก ล้วนแต่ต้องสั่งสมบารมี มากน้อย ต่างกัน ตามอัธยาสัย. ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 10 ก.ย. 2550
เจริญปัญญากันต่อไป...
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 10 ก.ย. 2550

ถ้ามีปัญญา เห็นโทษของความโกรธ เมตตาก็ค่อยๆ เจริญขึ้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
keaw10
วันที่ 11 ก.ย. 2550

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Komsan
วันที่ 11 ก.ย. 2550

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
udomjit
วันที่ 25 ก.ย. 2550

อนุโมทนาค่ะ อบรมเมตตาต้องมีขันติ แล้วอบรมให้เกิดขันติต้องทำอย่างไรค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ย. 2550

ฟังธรรมในเรื่อง ขันติ เช่น ขันติวาทีดาบส หรือการเข้าใจความจริงว่า มีแต่ธรรมจึงไม่ควรจะโกรธใคร และสิ่งนั้นก็ดับไปแล้ว จะโกรธใครที่ไหนได้
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่นี่...

ขันติ

คุณของขันติ ๕ ประการ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
udomjit
วันที่ 26 ก.ย. 2550

เข้าไปอ่านทั้งสองกระทู้แล้วค่ะ ขอบคุณอย่างยิ่งที่เมตตาใส่ใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
happyindy
วันที่ 28 เม.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
pamali
วันที่ 8 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 2 มี.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ