ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๖๖

 
khampan.a
วันที่  26 พ.ค. 2567
หมายเลข  47772
อ่าน  1,744

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๖๖



~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่มีจริงให้เข้าใจถูกต้องว่า ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระองค์แล้ว สัตว์โลก ไม่ว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นเทพ จะเป็นพรหม เป็นใครทั้งหมด ไม่สามารถที่จะรู้ความจริงได้ เพราะฉะนั้น แต่ละคำ ต้องไตร่ตรองเพื่อที่จะได้ไม่ลืมในความเป็นจริงของธรรม

~ ฟังพระธรรมเพื่ออะไร ต้องรู้จุดประสงค์ว่าเพื่ออะไร เพื่อปัญญา ความเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ถ้าไม่อาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะไม่มีบุคคลหนึ่งบุคคลใดเลยที่จะคิด ที่จะรู้ ที่จะเข้าใจธรรมได้ตามความเป็นจริง

~ ถ้ารู้คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบไหว้เคารพสูงสุดคืออย่างไร? ต้องศึกษาทุกคำของพระองค์ จึงเคารพในพระปัญญาคุณ ในพระบริสุทธิคุณ ในพระมหากรุณาคุณ เพราะฉะนั้น กล่าวได้ว่าถ้ามีความเข้าใจพระคุณและเข้าใจคำที่พระองค์ตรัส จะไม่มีการทุจริตใดๆ

~ ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแล้วให้จำ ไม่ใช่เลย ไม่ใช่ให้ไปท่องเป็นคาถา ไม่ใช่เลย พระองค์ตรัสรู้เพื่อให้คนอื่นได้ฟังความจริงได้รู้ตามที่พระองค์ได้ตรัสรู้ด้วย ตามลำดับของสติปัญญา และคนที่ศึกษาอย่างนี้ไม่ว่าจะยากดีมีจนร่ำรวยมหาศาลเป็นเศรษฐีอะไรก็ตามแต่ ควรดูถูกหรือ? ถ้าดูถูก ดูถูกคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่าว่าไม่ควรเรียน

~ ถ้ารู้ความจริง รู้คุณค่าของทุกคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส จะไม่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีแน่นอน

~ มีความเห็นแก่ตัว มีความเป็นตัวตน มีความต้องการ มีความละโมบโลภมาก เพราะไม่รู้ความจริง

~ คนที่ศึกษาพระธรรม ควรสรรเสริญอย่างยิ่ง ไม่ใช่ควรดูถูก ใครสามารถที่จะเห็นคุณของพระธรรมศึกษาด้วยความเคารพ เป็นคนที่มีคุณคือความดีที่สามารถที่จะเข้าใจแล้วก็ยังสามารถอนุเคราะห์ให้คนอื่นได้เข้าใจด้วย เขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจหรือ? เป็นสิ่งที่ควรดูถูกดูแคลนหรือ?

~ วันสำคัญในสังสารวัฏฏ์ คือ วันที่มีโอกาสได้ฟังคำที่ทำให้มีความเข้าใจในสิ่งที่กำลังมีซึ่งก่อนนั้นไม่มีใครสามารถที่จะรู้ความจริงของทุกวันทั้งวันแต่ละหนึ่งขณะได้ แต่นี่ไม่ว่าจะวันไหน เมื่อมีความเข้าใจถูกต้อง ก็รู้ว่าวันที่ประเสริฐที่สุดคือวันที่เริ่มจะได้มีความเห็นที่ถูกต้องในความจริง

~ พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังคงอยู่ ให้ได้ฟังให้ได้ศึกษาให้ได้พิจารณา เพราะฉะนั้น หนทางที่โลกจะสงบหรือแต่ละคนจะละเว้นทุจริต ก็มี ถ้ารู้ว่ามาจากเหตุอะไรที่ทำทุจริต เพราะฉะนั้น คิดว่าจะหาวิธีต่างๆ แต่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง จะสำเร็จไหม?

~ ที่กล่าวว่ามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง พึ่งแล้วหรือยัง แล้วจะพึ่งอย่างไรและจะเริ่มต้นพึ่งเมื่อไหร่ หรือว่าอาจจะยังไม่ทันได้พึ่งก็ต้องจากโลกนี้ไปก่อน เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้น ก็เป็นสิ่งซึ่งต้องพิจารณาเพื่อประโยชน์ของแต่ละคน ประโยชน์ที่สุดคือเริ่มรู้ว่ายังไม่ได้รู้คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะยังไม่ได้เข้าใจว่าพระองค์ตรัสว่าอย่างไรซึ่งเป็นสิ่งที่มีในชีวิตประจำวันซึ่งไม่เคยรู้มาก่อน แล้วค่อยๆ เริ่มรู้ความจริง เริ่มรู้จักคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ สภาพธรรมทุกอย่าง ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนทั้งหมดตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้อง เป็นสัญญาความจำที่มั่นคง เป็นปัจจัยให้สติเกิดระลึกได้ว่าในขณะที่เห็นในขณะนี้ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง และสิ่งที่ปรากฏทางตาในขณะนี้ ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง

~ เมื่อกิเลสยังไม่ดับ เวลาที่มีเหตุปัจจัยของกิเลสประเภทใด กิเลสประเภทนั้นๆ ก็เกิด โดยที่บุคคลนั้นไม่สามารถจะรู้ล่วงหน้าได้ว่า วันไหนกิเลสระดับใดจะเกิด เพราะเหตุว่าถ้ายังไม่มีปัจจัย กิเลสนั้นก็ยังไม่เกิด

~ ความโกรธมีจริงไหม? พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สิ่งที่มีจริง เป็นอนัตตา ตราบใดที่ยังมีเหตุให้ความโกรธเกิด ความโกรธก็ต้องเกิด

~ สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตซึ่งจะติดตามไปได้ที่มีประโยชน์สูงสุดคือปัญญา ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาอาจจะมีทรัพย์สมบัติ มีรูปสมบัติ มียศ มีบริวาร มีทุกอย่าง แต่ไม่มีปัญญา เพราะฉะนั้น ทรัพย์สมบัติตามไปได้ไหม รูปสมบัติก็ตามไปไม่ได้ บริวารสมบัติ ทุกอย่างอื่นก็ตามไปไม่ได้ แต่ปัญญาสามารถที่จะสะสมสืบต่อในจิตที่จะทำให้มีโอกาสได้ยินได้ฟังและก็เกิดความเห็นถูกขึ้นได้

~ ชีวิตประจำวันก็ควรที่จะได้พิจารณาถึงกุศลวิตก (ความตรึกที่เป็นกุศล) และอกุศลวิตก (ความตรึกที่เป็นอกุศล) ของตนเอง มิฉะนั้นแล้ว ก็จะเห็นแต่อกุศลของคนอื่น แทนที่จะกระทำกิจของตน ก็ไปคิดที่อยากให้คนอื่นหมดกิเลส โดยที่ลืมว่าในขณะนั้นจิตของตนเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล?

~ มั่นคงว่าไม่มีเรา แล้วความเป็นเราก็จะค่อยๆ น้อยลง ความเห็นแก่ตัวเพราะเป็นเราก็ค่อยๆ ลดลง คุณความดีทั้งหลายก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ไม่มีการที่จะต้องทำเพื่อตัวเรา

~ เรื่องของการอบรมเจริญกุศล เรื่องของการอบรมเจริญปัญญา ก็จะต้องประกอบพร้อมไปทุกอย่างเท่าที่สามารถจะเกิดได้ มิฉะนั้น ก็จะเป็นผู้หนาแน่นด้วยอกุศล และยากจริงๆ ที่จะละคลายอกุศลนั้นได้

~ คนกิเลสมากเป็นอย่างไร พฤติกรรมทางกายทางวาจาเกิดจากใจซึ่งเต็มไปด้วยกิเลสมากเท่าไหร่ การกระทำทางกาย ทางวาจา ก็เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ถ้ากิเลสน้อยลง ความดีก็เพิ่มขึ้นจนกระทั่งสามารถที่จะค่อยๆ ดับกิเลสตามลำดับขั้น

~ มีเมตตาต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด ขณะนั้นจิตสงบเพราะเป็นกุศล และถ้ามีความเป็นมิตรต่อแต่ละบุคคลที่พบ โดยไม่เลือก ยิ่งเพิ่มความเป็นมิตรเพิ่มขึ้น จิตขณะนั้นก็เป็นกุศลเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"
ถ้าได้เข้าใจว่าสิ่งที่มีจริง มีจริงๆ เกิดแล้วดับไป ทุกอย่างไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร เป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละอย่างๆ เมื่อนั้น เริ่มเห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงดับขันธปรินิพพาน พระองค์เสด็จทั่วพระนครสาวัตถี พระนครราชคฤห์ ทุกแห่งที่เสด็จไป เพียงเห็น ไม่มีใครรู้ว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอน จนกว่าจะได้ฟังคำของพระองค์เมื่อไหร่ เข้าใจคุณที่มีโอกาสได้รู้ความจริงซึ่งเป็นธรรม ทำให้ผู้นั้นได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะรู้คุณที่ทำให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรม


~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้เลิศสูงสุดแห่งสากลจักรวาล
แต่ละคนมีความยินดีที่จะรู้จักพระองค์หรือเปล่า?
อยากจะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ หรือเปล่า? เป็นคำตอบที่ใครก็ตอบแทนไม่ได้ แต่ต้องเป็นคำตอบของตัวเอง



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๖๕


... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 26 พ.ค. 2567

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มังกรทอง
วันที่ 26 พ.ค. 2567

ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chuchartjam
วันที่ 26 พ.ค. 2567

กราบอนุโททนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 26 พ.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 26 พ.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Lai
วันที่ 26 พ.ค. 2567

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Wisaka
วันที่ 27 พ.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
kukeart
วันที่ 30 พ.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ