สังฆรัตนะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
🌱ฟังธรรมแล้วเข้าใจ ค่อยๆ ละความไม่รู้ เป็น สังฆรัตนะ
🍀ความไม่รู้เป็นธรรมะ ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรมะทั้งหมด แต่ความไม่รู้ปิดบังให้ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดดับเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา
🍃คนที่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น จึงจะรู้ว่าคำอื่นไม่ใช่คำของพระองค์ การฟังธรรม เริ่มรู้ว่ากิเลสมีเพราะไม่รู้ จึงยึดถือว่าเป็นเรา เป็นของเรา ทำให้ติดข้องและแสวงหา
🍂ปัญญาของตนเองเป็นที่พึ่ง ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้ดับกิเลสได้เป็นขั้นๆ
🍁มรดก คือ ปัญญาที่แต่ละคนได้รับจากการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
🌺คำสอนทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เข้าใจหรือให้ทำ?? คำสอนของพระองค์ทำให้เกิดความเข้าใจ เป็นปัญญาของตนเอง เป็นมรดกที่ล้ำค่า
🌿มีพระธรรม ความเข้าใจถูกต้องเป็นที่พึ่ง (ไม่ใช่คำของคนอื่น) นำไปสู่ความเข้าใจถูกของสิ่งที่กำลังปรากฏ
ว่าเป็นธรรมแต่ละหนึ่ง เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลย เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ เกิดปัญญาเป็นมรดกล้ำค่าที่ได้รับจากพระ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
สนทนาธรรมที่บ.เชฟรอน
จ. ๑๐ ก.ค. ๖๐
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
พระธรรมที่ได้ฟังในแต่ละคำ มากจากพระมหากรุณา
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปันธรรมฯ ๒๕๕
ถ้าคิดที่จะละกิเลสโดยที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วอะไรที่จะละอะไร?
แต่ขณะใดที่รู้ ขณะนั้นละความไม่รู้ เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ไม่พอก็ละไม่ได้ แทนที่จะคิดที่จะละ ควรที่จะเข้าใจสิ่งที่ได้ฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง ซึ่งยังไม่เคยรู้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือใคร แต่เป็นธรรมจริงๆ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะแต่ละอย่าง
ขณะที่ความคิดพาไป สติก็จะต้องระลึกรู้อีกว่า ขณะที่กำลังรู้คำนั้นเป็นนามธรรม เป็นสภาพรู้อย่างหนึ่ง ตอนต้นๆ ความคิดก็จะพาไปอีกคิดไปอีกว่า ขณะที่กำลังมีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์นั้นเป็นนามธรรมชนิดหนึ่งเพราะเคยได้ยินมาอย่างนั้น จนกว่าจะชินกับลักษณะที่ว่า คิดที่รู้คำ ต่างกับขณะที่ไม่ได้คิด แต่กำลังมีปรมัตถ์เป็นอารมณ์
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ชีวิตในวันหนึ่งๆ ก็จะต้องดำเนินไป คือ อกุศลบ้าง กุศลบ้าง แล้วแต่ชาติหนึ่ง จะสะสมกุศลได้มากกว่าอกุศล หรือถึงแม้ว่า ไม่มากกว่าอกุศล แต่กุศลนั้นก็มีกำลังเพิ่มขึ้น จนกว่าจะถึงวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่สังขารขันธ์ปรุงแต่ง ทำให้ปัญญาที่สะสมมา คือ อบรมเจริญสติปัฏฐาน ระลึก
ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏและกุศลอื่นๆ ประกอบเป็นบารมี ทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ ซึ่งขณะนั้นเป็น อภิสมัย ซึ่งเป็นขณะซึ่งยากจะเกิดได้ และเป็นสมัยที่เป็น “อภิสมัย” จริงๆ เป็นสมัยที่แทงตลอดในสัจจธรรม รู้แจ้งอริยสัจจธรรม ๔
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ถ้าตราบใดยังไม่หมดกิเลส ก็คงจะต้องมีความทุกข์เล็กๆ น้อยๆ แม้ว่าไม่มาก เพราะเหตุว่าก่อนฟังพระธรรมมีทุกข์มาก รู้สึกว่าทุกข์นั้นยากที่จะแก้ เป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจกัน แต่ถ้าทราบว่า เป็นเพียงชั่วขณะจิต ไม่ว่าจะทุกข์มากสักเท่าไรก็ตาม ก็เพียงชั่วขณะจิตเดียวแล้วก็ดับ ไม่มีสภาพธรรมใดเลยซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลง ต้องมีเกิดขึ้นและดับไปแล้วก็สลับทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ สุขบ้าง ทุกข์บ้างไปแต่ละวัน ที่จะไม่ให้สุขเลย
หรือจะไม่ให้ทุกข์เลยนั้น เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่าแต่ก่อนเคยทุกข์มาก ก็จะ
ทุกข์น้อยลง แต่ก่อนเคยร้องไห้บ่อยๆ ก็อาจจะไม่ร้องไห้ หรืออาจจะมีบ้าง
เล็กๆ น้อยๆ ไม่เหมือนเดิม
แนวทางเจริญวิปัสสนา
อะไรก็ตามที่กระทบสัมผัส อย่ากังวลเรื่องชื่อ เพราะเหตุนั้นจะทำให้กั้น เพราะเหตุว่าไม่รู้ว่า คำบัญญัติควรจะใช้คำไหน แต่ความจริงสภาพปรมัตถธรรมมี แล้วก็กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นหนทางที่ดีที่สุด จะเหนียวเหนอะหนะ จะลื่น จะหย่อน จะตึง จะไหว จะอะไรก็ตามแต่ ขณะนั้นสภาพธรรมที่ปรากฏทางกาย ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ท่านที่จะดื่มน้ำ เมื่อกี้นี้ก็คงจะมีหลายท่านทีเดียวที่ดื่มน้ำ ทราบไหมว่าขณะนั้นแม้แต่กิริยาอาการที่ก้าวเดินไป ที่หยิบ ที่จับ ที่ดื่ม ที่ลิ้ม ก็เป็นไปด้วยตัณหาทั้งนั้น ขณะที่จะวางแก้ว ขณะที่จะเปลี่ยนอิริยาบถ ขณะที่จะพูด ขณะที่จะไต่ถามกันด้วยเรื่องสารทุกข์ต่างๆ ก็เป็นไปด้วยโลภะทั้งหมด
แนวทางเจริญวิปัสสนา
การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ไม่ใช่รู้อื่น แต่รู้แจ้งลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ตามปกติตามความเป็นจริง ตามที่ได้ฟัง ตามที่ได้เข้าใจในไตรลักษณะ คือ ลักษณะที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาของสภาพธรรมที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้นในขณะนี้ และกำลังดับไป
แนวทางเจริญวิปัสสนา
เมตตาไม่จำกัดเฉพาะคนดี ปรกติถ้าเป็นคนดี ก็ง่ายที่จะเกิดมีเมตตา แต่ถ้าสะสมที่จะร้ายมาก แม้แต่คนดีก็ยังเมตตาเกิดไม่ได้ก็มี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมซึ่งเป็นธาตุ ที่กุศลธรรมจะเกิดหรือไม่ ก็แล้วแต่การสะสม ซึ่งเมตตาสามารถเกิดได้ไม่จำกัดเฉพาะบุคคล
ใครที่ทำอกุศลกรรมด้วยความไม่รู้ ต้องได้รับผลโดยไม่ต้องเรียกร้อง ควรเมตตา หรือ ว่าสงสารช้า คือ สงสารเมื่อเวลาที่เขาได้รับผลของกรรมแล้ว
Wisdom is the greatest gift, better than any kind of property. Even if we live a busy working life, we can understand our life better. Dhamma is life and life is Dhamma. Seeing, hearing,thinking, feeling and attachment are realities which arise now, whatever we are doing. They are ready to be understood, read to be insighted, ready to be enlightened.
Nina Van Gorkom
From our childhood we are used to the idea that this world we are living in with all the people around us is the real world. The Buddha taught that the world is composed of the objects which come to us through the senses of eyes, ears, nose, tongue, bodysense and through the door of the mind.
These are all fleeting phenomena which change within splitseconds.
Seeing is there just for a moment and then it falls away. Visible object is there just for a moment and then it falls away. What we used to take for our solid world consists of impermanent elements. Our world crumbles away, there is the disintegration of our world and of ourselves.
The World in the Buddhist Sense
Nina Van Gorkom
When we see how ugly akusala is we want to cultivate more kusala. Seeing the disadvantage of akusala and the value of kusala is a degree of wisdom, of understanding. This understanding is the condition for the development of kusala.
Nina Van Gorkom
เมื่อเราเห็นแจ้งว่าอกุศลเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจเพียงใด เราก็ใคร่จะเจริญกุศลมากขึ้น การเห็นโทษของอกุศลและคุณของกุศล ก็เป็นปัญญาหรือความเข้าใจขั้นหนึ่ง ความเข้าใจขั้นนี้เป็นปัจจัยให้กุศลเจริญขึ้น
พ.อ. ดร. ชินวุธ สุนทรสีมะ ผู้แปล