ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๗๓

 
khampan.a
วันที่  14 ก.ค. 2567
หมายเลข  48132
อ่าน  1,381

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๗๓




~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งเป็นปัญญาของแต่ละคนที่ได้ฟัง นั่นคือคุณที่ไม่สามารถที่จะมีอะไรเปรียบได้เลย จากความไม่รู้มานานในสังสารวัฏฏ์ เริ่มที่จะมีความเข้าใจที่ถูกต้องในแต่ละคำ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลึกซึ้งอย่างยิ่ง ลุ่มลึกตามลำดับ เพราะฉะนั้น การฟัง ต้องเข้าใจ ไตร่ตรองทีละคำจนกระทั่งเป็นความเข้าใจที่มั่นคง

~ การศึกษาธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก ให้ทราบว่าประโยชน์จริงๆ ที่ได้รับจากการเข้าใจธรรม คือ การขัดเกลากิเลส จะมีการละ การคลาย แต่ไม่ใช่โดยรวดเร็วหรือว่าไม่ใช่ด้วยความเป็นเราที่อยากจะหมดกิเลส เพราะว่าบางคนเรียนก็เรียนด้วยกิเลส เรียนแล้วก็รู้มาก แล้วก็อยากจะทำอะไรๆ ที่พยายามที่จะขัดเกลา ไม่ให้มีกิเลสเลย แต่ไม่รู้เลยว่าขณะนั้นเป็นเราหรือเปล่าที่กำลังหวังหรือว่ากำลังพยายาม?

~ ชาตินี้ทุกคนก็มีปัญญาคนละนิดคนละหน่อย และจะเพิ่มขึ้นๆ ต่อไปอีก ชาติหนึ่งๆ ก็จะมีปัญญาเพิ่มขึ้นอีกๆ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องของปัญญาซึ่งเจริญขึ้น ไม่ใช่ว่าปัญญาที่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมจะเกิดขึ้นได้ฉับพลัน โดยไม่มีการสะสมไม่มีการเจริญปัญญาในอดีตเลย

~ ไม่ลืมคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสก่อนปรินิพพานว่า จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม แม้กุศลเพียงเล็กน้อยก็ไม่ประมาททำทันที เพราะฉะนั้น เพียงเล็กน้อย แต่เล็กน้อยๆ ก็เพิ่มขึ้นจนมาก ถ้าเคารพคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะต้องไม่ลืมคำของพระองค์

~ เงินทองไม่สามารถที่จะทำให้ไม่เกิดในอบายภูมิได้ ความติดข้องในทรัพย์สมบัติเงินทองไม่สามารถทำให้เกิดในภพภูมิที่ดีได้ เพราะฉะนั้น ไม่สงสัยเลยว่ากุศลเป็นเหตุให้เกิดดี อกุศลเป็นเหตุให้เกิดไม่ดี

~ คนขลาดย่อมทำอกุศล แต่คนกล้า กล้าที่จะทำกุศลและไม่ทำอกุศล เพราะฉะนั้น ต้องเป็นคนกล้าหาญที่จะไม่กระทำอกุศล คนขลาดทำอกุศลเพราะว่ากลัวลำบากบ้าง กลัวยากจนบ้าง กลัวความทุกข์ต่างๆ บ้าง จึงเป็นเหตุให้กระทำทุจริต แต่ผู้ที่กล้าหาญ แม้ว่าจะลำบาก แม้ว่าจะขัดสน แม้ว่าจะยากจน แต่จะไม่ทำทุจริต ต้องเป็นผู้ที่มีความแกล้วกล้า คือ สามารถกล้าที่จะละเว้นทุจริตได้ โดยไม่กลัวความลำบากต่างๆ

~ ทุกท่านจะต้องทราบว่า ชีวิตประจำวันจำเป็นต้องพูดหลายเรื่อง แต่ควรเกิดหิริโอตตัปปะที่จะระลึกได้ว่าจิตที่พูดในขณะนั้นเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล ถ้าเป็นกุศลก็เป็นการพูดที่เป็นประโยชน์ เพราะถึงแม้ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องจริง แต่ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้คนอื่นเกิดอกุศลจิต หรือแม้แต่ตัวผู้ที่กล่าวเองก็กำลังเป็นอกุศล ในขณะนั้น ก็ไม่เป็นประโยชน์ ขณะที่สติระลึกได้เท่านั้นที่จะเกิดหิริและละอายต่ออกุศลจิตอกุศลธรรมในขณะนั้น

~ ถ้าเป็นคนที่ติดในรสอาหารและไม่สละให้บุคคลอื่นเลย และยังไม่เห็นด้วยว่าในขณะนั้นเป็นอกุศลจิตที่มีความตระหนี่ มีความหวงแหน มีความเห็นแก่ตัว มีความพอใจในรสจนสละไม่ได้ แต่ถ้าเกิดระลึกได้ว่าในขณะนั้นเป็นอกุศล ควรจะมีเมตตาและมีการสละแบ่งปันให้ หิริก็เกิด คือ เริ่มละอายในอกุศลคือความตระหนี่หรือความเห็นแก่ตัวหรือความติดในรส

~ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมทั้งที่เป็นอกุศลและกุศลไว้มาก สำหรับอัธยาศัยที่ต่างกัน ผู้ที่มีอัธยาศัยอ่อนโยน พระผู้มีพระภาค ก็ทรงแสดงพระธรรมในเรื่องของกุศลทั้งหลาย แต่ผู้ที่มีอุปนิสัยยังดื้อหรือยังกระด้างหรือยังแข็งยังไม่อ่อนโยน ก็ทรงแสดงเรื่องของอกุศลไว้มากๆ ให้เห็นโทษของอกุศล

~ เคยโกรธใครไว้ เคยไม่ชอบใคร ในขณะที่กำลังฟังพระธรรมเดี๋ยวนี้คิดอย่างไร คือ ควรจะได้พิจารณาและได้ประโยชน์จากการฟังพระธรรม ถ้าขณะนี้คิดไม่ได้ ขณะอื่นก็คิดไม่ได้แน่ๆ เพียงขณะที่กำลังฟังพระธรรมแท้ๆ ยังไม่ยอม ขณะอื่นจะเป็นอย่างไร?

~ ใครก็ตามเป็นผู้ไม่โกรธ และมีปกติอยู่ด้วยเมตตา ก็แสดงว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ของการไม่โกรธ เห็นประโยชน์ของการเจริญบารมีเพื่อที่จะขัดเกลากิเลสด้วย

~ มิตร คือ ผู้ที่หวังดีจริงๆ มิตรเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตของทุกท่าน ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดๆ ที่ท่านต้องการความช่วยเหลือ มิตรแท้ย่อมสามารถที่จะช่วยเกื้อกูลอนุเคราะห์ท่านได้ เพราะเหตุว่าไม่มีใครที่สามารถจะอยู่แต่ลำพังคนเดียวในโลกนี้ได้

~ มีสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา คิดเหมือนกันหรือเปล่า แม้แต่เพียงความคิด คิดเหมือนกันหรือเปล่า ได้ยินเสียง ได้ยินคำต่างๆ ขณะนี้กำลังฟังพระธรรม และได้ยินเสียงเดียวกัน คิดเหมือนกันหรือเปล่า เข้าใจเรื่องเดียวกันหรือเปล่า มากน้อยเท่ากันหรือเปล่า นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความต่างกันของจิตและการสะสมมา ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ทุกชีวิตแตกต่างกันไปโดยกรรมและการคิดนึกซึ่งเป็นเหตุให้เกิดกรรมนั้นๆ เมื่อความคิดต่างกัน กรรมก็ต้องต่างกัน เพราะฉะนั้น ผลของกรรมก็ต้องต่างกันด้วย

~ ลองพิจารณาดูชีวิตประจำวัน คำพูดอย่างนี้มีบ้างไหม คือ คำพูดที่ทำลายบุคคลอื่น หรือคำพูดที่ปรารถนาให้ตนเองเป็นที่รัก เคยพรรณนาคุณความดีของตนเองไหม ทำไมถึงจะต้องพรรณนาคุณความดีของตนเอง เพื่ออะไร? เพื่อให้ตนเองเป็นที่รักของคนเหล่าอื่นหรือเปล่า?

~ ถ้าคนกำลังได้ลาภ ทราบไหมว่ามาจากไหน ถ้ากำลังเลื่อมลาภ ทราบไหมว่าเพราะอะไร ได้ยศ เสื่อมยศ เพราะอะไร กำลังเจ็บป่วย ทราบไหมว่าใครทำ? ทำเอง ไม่มีใครทำให้เลย นี่คือการเข้าใจธรรมจริงๆ

~ คุณคือความดี ใครก็ตามฟังธรรม เข้าใจธรรม คนนั้นมีคุณ ใครก็ตามที่ทำความดีเพื่อคนอื่น คนนั้นก็มีคุณ คุณคือความดี เพราะฉะนั้น ความดีถึงที่สุดก็คือสามารถที่จะเข้าใจถูกต้องในสิ่งที่มีในชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย

~ การขัดเกลากิเลส เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เพราะเหตุว่าจะต้องเข้าใจเรื่องของสภาพธรรมโดยละเอียด โดยถูกต้อง ถ้าใครศึกษาพระธรรมโดยไม่รอบคอบ หรือมีการเข้าใจผิดในพระธรรม การขัดเกลากิเลส ก็ย่อมจะเป็นไปไม่ได้



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๗๒




... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 14 ก.ค. 2567

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มังกรทอง
วันที่ 14 ก.ค. 2567

แจ้งยิ่ง ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
shsso2551
วันที่ 14 ก.ค. 2567

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 15 ก.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 15 ก.ค. 2567

คุณคือความดี ใครก็ตามฟังธรรม เข้าใจธรรม คนนั้นมีคุณ ใครก็ตามที่ทำความดีเพื่อคนอื่น คนนั้นก็มีคุณ คุณคือความดี เพราะฉะนั้น ความดีถึงที่สุดก็คือสามารถที่จะเข้าใจถูกต้องในสิ่งที่มีในชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย

ยินดีในกุศลวิริยะค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Wisaka
วันที่ 15 ก.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ก.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Jans
วันที่ 15 ก.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Lai
วันที่ 15 ก.ค. 2567

อนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ