ชีวิตประจำวันเป็นบารมีบ้างไหม?

 
เมตตา
วันที่  6 ก.ย. 2567
หมายเลข  48425
อ่าน  288

อ.ณภัทร: หลายๆ ท่านก็คิดจะเข้าถึง หรือเห็นหนทางจริงๆ ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากจริงๆ ว่า การฟัง ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจที่จะค่อยๆ หมดจรดจากกิเลสครับ

ท่านอาจารย์: จึงมี บารมี ๑๐ ใช่ไหม?

อ.ณภัทร: ครับ

ท่านอาจารย์: ถ้าไม่มีบารมี ๑๐ จะรู้หนทางนั้นได้ไหม?

อ.ณภัทร: ไม่ได้ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ชีวิตประจำวันเป็นบารมีบ้างไหม?

อ.ณภัทร: แทบจะไม่เป็นบารมีเลยครับ

ท่านอาจารย์: แล้วหวังอะไรหรือเปล่า?

อ.ณภัทร: ค่อยๆ ละความหวัง เมื่อเข้าใจขึ้นครับ

ท่านอาจารย์: จนกว่าจะรู้เพิ่มขึ้น ก็ละเพิ่มขึ้นจากสิ่งที่ยึด และไม่รู้ความจริงมาในแสนโกฏกัปป์ใช่ไหม?

อ.ณภัทร: ใช่ครับ

ท่านอาจารย์: มีหนทางอื่นไหม?

อ.ณภัทร: ไม่มีจริงๆ ครับ นอกจากความเข้าใจ

ท่านอาจารย์: นั่นก็คือ อธิษฐานบารมี และสัจจบารมี ถ้าไม่มี .. ไปแล้ว

อ.ณภัทร: เพราะเหตุว่า ทุกวันนี้ ผู้ที่ไม่เข้าใจก็จะไปสำนักปฏิบัติ ไปทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เกิดความเข้าใจครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ต้องฟัง คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไตร่ตรองให้ตรงให้ถูกต้องอย่างละเอียดขึ้น เพราะความจริงลึกซึ้งมาก ถ้าไม่เห็นความลึกซึ้งของสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ จะไม่รู้เลยว่า ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ จะเป็นพระอริยบุคคลหมดกิเลสความไม่รู้ และการเป็นตัวตนไม่ได้

อ.ณภัทร: ดังนั้น จะเห็นประโยชน์ของการฟัง พิจารณาไตร่ตรอง แล้วก็เข้าใจจริงๆ ครับ เพราะว่า ถ้าไม่เข้าใจก็จะหันไปหาหนทางอื่น ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ทรงแสดงไว้ครับ

ท่านอาจารย์: เริ่มว่าง่ายไหม ที่จะเห็นความลึกซึ้งซึ่งไม่ใช่เรา ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เมื่อฟังแล้วต้องเข้าใจ ค่อยๆ ละความเป็นเราต้องการจะรู้ รีบไปปฏิบัติ

อ.ณภัทร: ตรงนี้ครับ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากจริงๆ เพราะว่า ไม่มีตัวเราที่จะไปปฏิบัติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากจริงๆ ครับ

ท่านอาจารย์: แล้วว่าง่ายไหม? พระองค์ตรัสว่า "ธรรม" แต่เป็นเรา ไม่ใช่ธรรม " ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา" ก็เป็นเราที่ยังต้องการจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ นั่นว่าง่ายหรือเปล่า?

อ.ณภัทร: ก็เป็นผู้ว่ายาก โดยไม่รู้ว่า ตนเองเป็นผู้ว่ายากครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงให้เราตรง แค่คำว่า ว่าง่าย หรือว่ายาก แต่ต้องรู้ความลึกซึ้งว่า ว่าง่าย นั้นคืออย่างไร ว่ายากนั้นคืออย่างไร

อ.ณภัทร: ครับ ต้องละเอียด แล้วก็เข้าใจ ทุกคำ อย่างที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวจริงๆ ครับ เพราะว่า ถ้าไม่เข้าใจแต่ละคำแล้ว ความเข้าใจที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นต่อๆ ไปก็เกิดไม่ได้เลยครับ

ท่านอาจารย์: ยิ่งเห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า สิ่งที่ละแสนยากมหาศาลที่สะสมมาแล้ว กว่าจะเริ่มค่อยๆ เข้าใจในขั้นฟังก็ยังต้องเป็นผู้ที่ตรง และลึกซึ้งต่อทุกคำที่พระองค์ได้ทรงตรัส

อ.ณภัทร: ก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาคุณของพระองค์จริงๆ เพราะว่า ถ้าไม่ได้ฟังไม่ได้เกิดความเข้าใจ ก็หลงทางไปหนทางผิดแน่นอนครับ

ท่านอาจารย์: ว่าง่าย หรือว่ายาก ตอนนี้?

อ.ณภัทร: ค่อยๆ เป็นผู้ว่าง่ายขึ้นๆ ครับ เพราะความเข้าใจที่ได้จากการฟังครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จะว่าง่าย หรือว่ายาก ไม่ใช่เรา แต่เป็นความเข้าใจ และตรงต่อความเป็นจริง เมื่อเป็นผู้ที่ตรงต่อความเป็นจริง จึงว่าง่าย

อ.ณภัทร: ครับ บางทีการศึกษาพระธรรมหลายๆ ท่านก็อาจจะ อริยมรรคก็มี สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ เป็นต้นครับ การที่จะเป็นธรรมที่จะศึกษา แต่ว่า ความเข้าใจที่จะรู้ถึงหนทาง นี่ก็เป็นสิ่งที่ละเอียดอย่างที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวมาจริงๆ ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น เป็นการที่จะต้องสนทนา เพื่อความมั่นคงของความเข้าใจถูกต้อง เห็นถูกในอะไร เห็นไหม? พูดลอยๆ ได้ไหม?

อ.ณภัทร: ไม่ได้ ต้องละเอียดลงไปอีกๆ ครับ

ท่านอาจารย์: นั่นคือ คำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระมหากรุณาแสดง ๔๕ พรรษา เพื่อให้รู้ความละเอียดของ เดี๋ยวนี้ ซึ่งหลากหลายมากตามการสะสม

อ.ณภัทร: ครับ ก็เป็นความละเอียดอย่างยิ่ง ถ้าสภาพธรรมที่กำลังมีขณะนี้ก็ เกิดแล้วหมดแล้วๆ แต่ก็ยังไม่รู้ครับ แล้วก็เป็นเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้ปรากฏโดยความเป็นธรรมแต่ละอย่างตามที่ได้ฟังเลยครับ

ท่านอาจารย์: ถ้าไม่ฟังต่อไป ว่าง่ายไหม?

อ.ณภัทร: ว่ายากครับ

ท่านอาจารย์: ก็ไม่รู้ตัวเลย บางคนก็คิดว่า ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ ก็ไม่ฟังแล้ว นั่นหรือว่าง่าย? นั่นหรือเข้าใจธรรม? นั่นหรือรู้จักพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า?

อ.ณภัทร: ก็ไม่มีหนทางอื่นจริงๆ ครับท่านอาจารย์ ถ้าเป็นผู้ที่เริ่มเข้าใจแล้วก็จะรู้เลยว่า หนทางนี้ต้องอาศัยบารมี ซึ่งมีทั้งความอดทน มีทั้งความเพียร แล้วก็หลายๆ บารมีที่จะนำไปสู่การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมครับ

ท่านอาจารย์: แต่ละคำลึกซึ้งไหม แม้แต่คำว่า ว่าง่าย?

อ.ณภัทร: ลึกซึ้งอย่างยิ่งครับ

ท่านอาจารย์: นี่คือ คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมือนคำธรรมดา แต่ความลึกซึ้ง คือความลึกซึ้งของธรรมที่กำลังปรากฏที่กำลังเกิดดับ ลึกซึ้งแค่ไหน?

อ.ณภัทร: ลึกซึ้ง เพราะว่าเกิดแล้วดับแล้วเป็นสิ่งที่รู้ได้ยาก ต้องอาศัยปัญญาจริงๆ ครับ

ท่านอาจารย์: ยิ่งเห็นพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งว่าง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น ขณะใดที่ว่ายาก รู้เลย ไม่ได้เห็นพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงให้เป็นผู้ว่าง่าย เพราะเผิน

ขอเชิญอ่านได้ที่ ...

ฟังเผินคือผิด

ขอเชิญฟังได้ที่ ...

อนัตตาไม่ใช่คำแปล

การศึกษาธรรม เพื่อให้เห็นความเป็นอนัตตา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ก.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Kalaya
วันที่ 7 ก.ย. 2567

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
สิริพรรณ
วันที่ 7 ก.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณพี่เมตตา และยินดีในกุศลด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 พ.ย. 2567

ขอเชิญรับฟัง

บารมีในชีวิตประจำวัน

ท่านบำเพ็ญบารมีที่จะให้รู้แจ้งอริยสัจธรรมหรือเปล่า หรือว่าท่านมีแต่ความปรารถนาที่อยากจะให้สติเกิด อยากจะให้ปัญญารู้ชัด ซึ่งเป็นเพียงความอยากโดยขาดการระลึกถึงบารมี ซึ่งจะเกื้อกูลในการที่จะขัดเกลากิเลส และในการเพิ่มกำลังที่จะทำให้สติ และปัญญาสามารถที่จะละคลายดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ