เป็นโลกของตัวตน เป็นโลกของเรื่องราว
เป็นโลกของตัวตน เป็นโลกของเรื่องราว เป็นเรื่องของการที่จะไม่ฟังให้เข้าใจความจริงว่า แม้เมื่อสักครู่นี้ก็มีเสียงปรากฏ แล้วก็มีคิดนึก แต่คนละเรื่อง เดี๋ยวนี้ก็มีเสียง แล้วก็มีได้ยิน แล้วก็มีคิดนึก แต่คนละเรื่อง เป็นแต่ละโลก
โลกนั้น แม้มีก็ไม่สามารถที่จะรู้ความจริงได้ แต่ว่าในขณะนี้ ความละเอียดก็คือว่า เราไม่ได้เคยรู้เลยว่า ชั่วหนึ่งขณะที่สภาพธรรมปรากฏ มีอะไรบ้าง เกินวิสัยที่จะรู้ได้ แต่ก็เป็นอย่างนั้น เช่น ในขณะนี้ มีโลกเห็น แน่ๆ โลกหนึ่งเกิดแล้ว เห็นอะไร เห็นสิ่งที่สามารถปรากฏให้เห็นได้ เท่านั้นเอง แค่นี้ก็ไม่รู้ความจริง กลายเป็นเห็นแล้วก็คิดนึกทันที โดยที่ไม่แยกว่าโลกทางตาเป็นโลกหนึ่ง ซึ่งต่างกับโลกทางใจ ซึ่งต่อกัน เพราะเหตุว่า ไม่ว่าจะมีเห็น ก็จะต้องมีคิดนึกถึงสิ่งที่ปรากฏให้เห็น แล้วก็จำว่าเป็นเรื่องเป็นราวต่างๆ เวลาที่ได้ยินชั่วขณะนิดเดียว ดับแล้ว ก็ยังจำเป็นเรื่องเป็นราวสนทนากันเยอะแยะเลย
เมื่อสักครู่นี้กี่โลก นับโลกไม่ถ้วน เห็นมั้ย แต่ไม่รู้เลยว่าเป็นแต่ละโลกด้วย เหมือนกับว่าเป็นเรื่องเดียวเลย ตั้งแต่เวลานั้นถึงเวลานี้ คุยกันเรื่องอะไรบ้าง แต่ถ้านับหนึ่งขณะจิต และในหนึ่งขณะจิต มีอะไรบ้าง อย่างขณะนี้ มีเห็น เมื่อสักครู่ก็มีเห็น และก็ฟังเรื่องเดียวกันหรือเปล่า เมื่อสักครู่นี้คุยกัน เรื่องนี้หรือเปล่า ก็เป็นเสียงใช่ไหม แต่พอคิด คนละโลก โลกเมื่อสักครู่นี้ เป็นโลกของตัวตน เป็นโลกของเรื่องราว เป็นเรื่องของการที่จะไม่ฟังให้เข้าใจความจริงว่า แม้เมื่อสักครู่นี้ก็มีเสียงปรากฏ แล้วก็มีคิดนึก แต่คนละเรื่อง เดี๋ยวนี้ก็มีเสียง แล้วก็มีได้ยิน แล้วก็มีคิดนึก แต่คนละเรื่อง
รับฟัง และ อ่านเพิ่มเติม