ถึงไม่อยาก ก็ต้องได้ใช่ไหม
ถ้าศึกษาธรรมจริงๆ ละเอียดขึ้น เพื่อเกื้อกูลให้เข้าใจสภาพธรรมที่ปรากฏ ธรรมสำหรับเข้าใจ ขณะนี้มีเห็นเข้าใจเห็นให้ถูกต้องว่า เห็นมี เห็นเกิดขึ้นเห็นแล้วดับไป กว่าจะรู้ทั่วจริงๆ วันนี้ทั้งหมดตั้งแต่เช้ามา ไม่ว่าสภาพธรรมอะไรก็ตาม รู้ตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น จนคุ้นเคยจนชินจนมั่นคง สภาพธรรมก็จะปรากฏตามความเป็นจริง
รู้สึกความอยากได้มีประจำใจไม่ขาดเลย เดี๋ยวก็อยากได้นั่นเดี๋ยวก็อยากได้นี่ ลืมคิดว่า อยากได้อะไรก็เคยได้มาแล้วทั้งนั้นในชาติก่อนๆ แล้วก็หมดไปแล้วทั้งนั้น ไม่เหลือเลยทั้งนั้น ยังอยากอยู่ ทั้งๆ ที่ก็เคยได้มาแล้ว จะอยากได้ทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สมบัติก็ได้แล้ว อยากได้รูปสมบัติ ชาติก่อนๆ ก็ต้องมีบ้างใช่ไหม รูปสมบัติ คุณสมบัติอะไรทั้งหลายที่อยากจะได้ ที่คิดว่าดี เคยมีแล้วทั้งนั้น แล้วไปไหน มีแล้วก็หมดไป มีแล้วก็หมดไป สิ่งที่อยากได้เพียงปรากฏว่ามีได้ แล้วก็หมด ยังอยากได้อีกไหม ลืมว่า ถึงไม่อยาก ก็ต้องได้ใช่ไหม ไม่ต้องอยากเลย ต้องเห็น จะอยากเห็นหรือไม่ เห็นก็ต้องเห็น เมื่อมีปัจจัยที่จะเห็น ก็ต้องเห็น จะอยากได้หรือไม่อยากได้ก็ต้องเกิดขึ้น แต่ว่าให้คิดดู เกิดขึ้นแล้วยังอยาก แสดงให้เห็นว่าไม่รู้ความจริงเลยว่าเคยได้มาแล้วทั้งหมด แล้วก็สูญเสียไปแล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอะไรทั้งสิ้น แล้วก็จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ ตราบใดที่ยังไม่เห็นว่าเป็นภัย จากไม่มี แล้วมีให้ติดข้อง จากไม่มี ให้มี แล้วโกรธขุ่นเคือง เจ็บใจ เป็นทุกข์ร้อนต่างๆ แล้วประโยชน์อะไร ซึ่งทั้งหมดนั้นก็หมดไป ไม่มีอะไรที่จะดำรงคงยั่งยืนอยู่ได้เลยทุกอย่างเพียงชั่วคราว
ขอเชิญรับฟัง
"รู้ตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น จนคุ้นเคยจนชินจนมั่นคง สภาพธรรมก็จะปรากฏตามความเป็นจริง"
"ซึ่งทั้งหมดนั้นก็หมดไป ไม่มีอะไรที่จะดำรงคงยั่งยืนอยู่ได้เลยทุกอย่างเพียงชั่วคราว"
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
"จะอยากได้หรือไม่อยากได้ ก็ต้องเกิดขึ้น แต่ว่าให้คิดดู เกิดขึ้นแล้วยังอยาก ... "
ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระพุทธองค์ ชีวิตในแต่ละวันก็จะเป็นไปกับความไม่รู้ มืดบอดอยู่ในสังสารวัฏฏ์นี้อีกนาน โลภะก็มาก โทสะก็มาก อวิชชายิ่งมาก กี่ภพชาติแล้วที่สะสมพอกพูนจนหนาแน่น
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่าน ทุกประการ