เรียนอภิธรรมก็เพื่อเข้าใจธรรม
เรียนเพื่อเข้าใจ ไม่ใช่ไปจำจำนวน ท่องเพื่อสอบ อย่างนั้นไม่มีในครั้งพุทธกาล เพราะว่าถ้ากล่าวถึงโลภมูลจิต จิตที่มีความติดข้องมากมายมหาศาล แต่ประมวลแล้วเป็น ๘ ประเภท ที่เกิดร่วมกับความเห็นผิดก็มี ไม่เกิดร่วมกับความเห็นผิดก็มี เรียนเพื่อให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นอะไร ต้องเรียนเพื่อรู้สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นพระอภิธรรมก็เป็นตัวหนังสือ แล้วก็ไปสอบ แล้วก็ได้คะแนน แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรม
เรียนก็คือเพื่อเข้าใจ ถ้าจะเรียนอภิธรรมก็เพื่อเข้าใจธรรม ซึ่งเป็นอภิธรรมลึกซึ้งละเอียดยิ่ง ถ้าเราศึกษาพระสูตร ก็จะไม่มีการแสดงวิถีจิตอย่างเช่นที่แสดงในพระอภิธรรม แต่โดยที่เป็นอภิธรรม จึงลึกซึ้ง ให้รู้ว่าละเอียดยิ่งกว่านั้นก็คือ ขณะนี้จิตเห็นเกิดขึ้นหนึ่งขณะ เห็นจริงๆ หนึ่งขณะ ก่อนนั้นรู้ว่ามีสิ่งที่กระทบตาเป็นรูปารมณ์ เป็นสิ่งที่ปรากฏ แต่ไม่เห็นความละเอียดของธรรม และเมื่อจิตเห็นดับ ต้องมีจิตเกิดต่อ เพราะจิตเกิดดับสืบต่อทีละหนึ่งขณะ จิตนี้ดับไปหมดสิ้นเมื่อไร จิตนั้นจึงเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดขึ้นได้ แสดงว่าย้อนถอยไป จิตอายุเท่าไรนับไม่ได้เลย เพราะว่าเกิดดับๆ สืบต่อมา เมื่อจิตเห็นเกิดขึ้น แล้วจิตเห็นก็ดับ จิตต่อไปเกิดขึ้นรู้อารมณ์คือสิ่งที่ปรากฏทางตาคือรูปเดียวกันนั้น แต่จิตนั้นไม่เห็น จึงได้รู้ว่า แม้แต่ความชอบ ไม่ชอบ หรืออกุศลทั้งหลายที่เกิดติดข้อง ทันทีที่หลังจิตเห็น ๓ ขณะดับแล้ว ก็เกิดขึ้นทันที แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร นี่คืออภิธรรม
ในพระสูตร ก็จะแสดงสิ่งที่เราสามารถรู้ได้ว่า เมื่อเห็นแล้วชอบ เห็นแล้วไม่ชอบ แต่ความจริงระหว่างก่อนจะชอบ หรือไม่ชอบนั้น มีจิตเกิดกี่ขณะ แล้วขณะนี้เหมือนกับว่าเราชอบ หรือไม่ชอบคนหนึ่งคนใด สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดขึ้นมาแล้ว แต่แม้ยังไม่ทันเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด อกุศลก็เกิดแล้ว ความติดข้อง และความไม่รู้ก็เกิดแล้ว แสดงว่านี่คืออภิธรรม ถ้าเรียนเพื่อเข้าใจอย่างนี้ ไม่ใช่ไปจำจำนวน ท่องเพื่อสอบ ก็จะรู้ได้ว่าการศึกษาธรรมที่จะให้เรียนอย่างนั้นไม่มีในครั้งพุทธกาล เพราะว่าถ้ากล่าวถึงจิต จิตที่เป็นโลภมูลจิต จิตที่มีความติดข้องมากมายมหาศาล แต่ประมวลแล้วเป็น ๘ ประเภท ที่เกิดร่วมกับความเห็นผิดก็มี ไม่เกิดร่วมกับความเห็นผิดก็มี เรียนเพื่อให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นอะไร ต้องเรียนเพื่อรู้สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นพระอภิธรรมก็เป็นตัวหนังสือ แล้วก็ไปสอบ แล้วก็ได้คะแนน แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรม เพราะฉะนั้นจึงมีสำนักปฏิบัติ ถ้าเข้าใจธรรมจะไม่มีสำนักปฏิบัติแน่นอน เพราะไม่มีเราปฏิบัติ สติสัมปชัญญะมีปัจจัยเกิดเมื่อไร ถึงเฉพาะด้วยปัญญาที่เข้าใจถูกในสิ่งที่ปรากฏเพราะได้ฟังมาแล้ว จึงสามารถที่จะทำให้สติสัมปชัญญะเกิด และเข้าใจได้
ที่มา ฟัง และ อ่านเพิ่มเติม