เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา

 
สารธรรม
วันที่  5 ธ.ค. 2567
หมายเลข  49052
อ่าน  151

เห็นพระภิกษุทำอะไรไม่เหมาะควร เราควรจะหลีกเลี่ยงเสีย หรือเราควรจะหาวิธีที่จะเข้าไปบริหารจัดการอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เข้าที่เข้าทาง ก็เลยตัดสินใจไม่ถูก เรียนถามท่านอาจารย์ ว่าเราควรจะตัดสินใจอย่างไร เราควรทำอะไรหรือไม่


ใครจะพูดอย่างไรก็ตาม พิจารณาในเหตุผลแล้วทำสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่หวั่นไหว เพราะเหตุว่า ถ้าเป็นสิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ ก็ควรทำ

ความเป็นผู้ตรงก็คือ ตรงต่อความถูกต้อง การที่เราทำ เป็นสิ่งที่ดี เพราะเหตุว่า เราไม่ได้ทำเพื่อทำลายพระศาสนา เมื่อเรามีความเข้าใจจากการได้ฟัง และได้ศึกษาพิจารณาธรรม ไตร่ตรองจนเข้าใจได้พอสมควร ที่ถูกจริงๆ ไม่ใช่งูๆ ปลาๆ ผิดบ้าง ถูกบ้าง ซึ่งจะทำให้เข้าใจผิด ถ้าได้ศึกษาโดยรอบคอบแล้ว มีจิตกุศลที่ใคร่จะให้คนอื่นเขาได้รู้ความจริงอย่างถูกต้องด้วยหรือเปล่า นี่คือใจของเราที่ศึกษาธรรม เราเข้าใจแล้ว และเราเห็นคนหลายคนมากมายที่ไม่มีโอกาสที่จะศึกษาอย่างละเอียด ไตร่ตรอง สนทนาจนกระทั่งเป็นความเข้าใจ สมควรหรือไม่ที่เราจะอนุเคราะห์ให้เขาได้มีความเข้าใจด้วย นี่คือจิตที่เป็นกุศล ไม่ใช่จิตที่เป็นอกุศล

ไม่ได้คำนึงถึงตัวเราว่าจะทุกข์ จะยาก จะเดือดร้อน จะลำบาก คนจะว่า หรือคนจะติ จะชม ประการใดทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ทำนั้นเป็นประโยชน์หรือไม่ และให้โทษหรือเปล่า ถ้าเราจะกล่าวถึงพระธรรมวินัยตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง ตามความถูกต้อง เพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ทรงแสดงพระธรรม มีผู้ที่ได้สะสมมาที่จะศึกษาดำเนินรอยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเพศบรรพชิต แต่ว่า ถ้าเขาเหล่านั้นไม่ได้ทำสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้แล้ว ที่จะให้เป็นความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ไม่มีอะไรที่บริสุทธิ์เท่ากับพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงแล้ว แม้แต่การบัญญัติพระวินัย ก็ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ซึ้งถึงเหตุผลที่จะเกิดขึ้นที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติพระวินัยเพื่อความอยู่เป็นสุขของสงฆ์ที่อยู่รวมกัน ต้องสุขแน่ ถ้าได้ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย

เมื่อโทษเป็นโทษ แต่คนไม่รู้ ก็ชี้โทษ นั่นคือ เพ่งให้เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นโทษ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมเราจะไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นโทษ โลภะ รักเป็นโทษหรือไม่ โทสะ ชัง เป็นโทษหรือไม่ โมหะ ไม่รู้ไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังมีตามความเป็นจริง เป็นโทษหรือไม่ ก็ไม่รู้เลยทั้งสิ้น สิ่งที่ไม่ดีต้องไม่ดี ไม่ว่าใครทั้งสิ้นเพราะว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เป็นบุคคลนั้น บุคคลนี้ ชื่อนั้น ชื่อนี้ ตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ หรืออะไรทั้งสิ้น ยศศักดิ์นั้น ยศศักดิ์นี้ ก็ไม่ใช่ เป็นธาตุทั้งหมด

ถ้าธาตุไม่ดี เป็นสิ่งที่ไม่ดี จะให้คนอื่นรู้หรือไม่ จะเปิดเผยหรือไม่ ว่านั่นเป็นโทษ นี่คือ เพ่งโทษ ให้รู้ว่าเป็นโทษอย่างนั้นๆ ด้วยประการอย่างนั้นๆ เมื่อเพ่งโทษ และ ติเตียน ด้วย ควรทำหรือไม่ อย่างที่เราจะชั่วช่างดีช่างสงฆ์ ควรจะเป็นอย่างนั้นต่อไปหรือไม่ หรือว่าถ้าสามารถจะทำได้เท่าที่จะมีชีวิตอยู่ จะมีโอกาสที่จะทำได้มากน้อยเท่าไร ดีกว่าไม่ทำใช่หรือไม่ ถ้าดีกว่าไม่ทำ ก็ทำเสียเลย ไม่ต้องรออะไร เท่าที่จะทำได้ นั่นก็คือ นอกจากเพ่งโทษ ติเตียนการกระทำที่ไม่ถูกต้องแล้ว ในพระไตรปิฎกใช้คำว่า โพนทะนา ประกาศให้รู้ทั่วกัน ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด ผู้ที่ทำอย่างนั้นไม่ได้ผิดอะไรเลยทั้งสิ้น เป็นประโยชน์ ต่อพระศาสนาด้วย

ขอเชิญรับฟัง

เพ่งโทษโพนทะนาหรือชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Jans
วันที่ 5 ธ.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 5 ธ.ค. 2567

กราบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

สมควรหรือไม่ที่เราจะอนุเคราะห์ให้เขาได้มีความเข้าใจด้วย นี่คือจิตที่เป็นกุศล ไม่ใช่จิตที่เป็นอกุศลไม่ได้คำนึงถึงตัวเราว่าจะทุกข์ จะยาก จะเดือดร้อน จะลำบาก คนจะว่า หรือคนจะติ จะชม ประการใดทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ทำนั้นเป็นประโยชน์หรือไม่ และให้โทษหรือเปล่า ถ้าเราจะกล่าวถึงพระธรรมวินัยตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง ตามความถูกต้อง เพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ทรงแสดงพระธรรม มีผู้ที่ได้สะสมมาที่จะศึกษาดำเนินรอยตาม..

ปัญญานำไปในกิจที่เป็นกุศลทั้งปวง

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณในธรรมทานค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ