การได้อาหารของภิกษุเหมือนเปรต
สอบถามครับ
เคยฟังพระเทศน์พระสูตรหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าการได้อาหารของภิกษุ เหมือนเปรตคือถ้ามีคนทำบุญให้ถึงได้กิน อยูในพระสูตรไหนครับ ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นข้อความโดยตรงในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่องปัญจัคคทายกพราหมณ์ (พราหมณ์ผู้ถวายทานอันเลิศ ๕ อย่าง) ดังข้อความบางตอน มีดังนี้
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ ๓๖๖
*พราหมณ์เลื่อมใสพระดำรัสของพระศาสดา*
พระศาสดาไม่ตรัสว่า " เราไม่มีความต้องการด้วยภัตอันเป็นเดน
ของท่าน" ตรัสว่า " พราหมณ์ ส่วนอันเลิศก็ดี ภัตที่ท่านแบ่งครึ่งบริโภค
แล้วก็ดี เป็นของสมควรแก่เราทั้งนั้น, แม้ก้อนภัตที่เป็นเดน เป็นของ
สมควรแก่เราเหมือนกัน , พราหมณ์ เพราะพวกเราเป็นผู้อาศัยอาหารที่
ผู้อื่นให้เลี้ยงชีพ เป็นเช่นกับพวกเปรต " แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า:-
"ภิกษุผู้อาศัยอาหารที่บุคคลอื่นให้เลี้ยงชีพ
ได้ก้อนภัตอันใดจากส่วนที่เลิศก็ตาม จากส่วนปาน
กลางก็ตาม จากส่วนที่เหลือก็ตาม ภิกษุนั้นเป็นผู้
ไม่ควรเพื่อชมก้อนภัตนั้น และไม่เป็นผู้ติเตียนแล้ว
ขบฉันก้อนภัตนั้น ธีรชรทั้งหลายย่อมสรรเสริญ
แม้ซึ่งภิกษุนั้นว่า เป็นมุนี"
พราหมณ์พอได้ฟังพระคาถานั้น ก็เป็นผู้มีจิตเลื่อมใส แล้วคิดว่า
" โอ! น่าอัศจรรย์จริง, พระราชบุตรผู้ชื่อว่าเจ้าแห่งดวงประทีป มิได้
ตรัสว่า ' เราไม่มีความต้องการด้วยภัตอันเป็นเดนของท่าน' ยังตรัสอย่าง
นั้น "แล้วยืนอยู่ที่ประตูนั่นเอง ทูลถามปัญหากะพระศาสดาว่า "ข้าแต่
พระโคดมผู้เจริญ พระองค์ตรัสเรียกพวกสาวกของพระองค์ว่า 'ภิกษุ'
ด้วยเหตุเพียงเท่าไร? บุคคลชื่อว่า เป็นภิกษุ"
**คนผู้ไม่กำหนัดไม่ติดในนามรูปชื่อว่าภิกษุ**
พระศาสดาทรงใคร่ครวญว่า " ธรรมเทศนาเช่นไรหนอ? จึงจะ
เป็นเครื่องสบายแก่พราหมณ์นี้" ทรงดำริว่า " ชนทั้งสองนี้ ในกาล
ของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัลสป ได้ฟังคำของภิกษุทั้งหลายผู้กล่าว
อยู่ว่า ' นามรูป,' การที่เราไม่ละนามรูปแหละ แล้วแสดงธรรมแก่ชน
ทั้งสองนั้น ย่อมควร" แล้วจึงตรัสว่า " พราหมณ์ บุคคลผู้ไม่กำหนัด
ไม่ข้องอยู่ในนามรูป ชื่อว่า เป็นภิกษุ " ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
"ความยึดถือในนามรูปว่าเป็นของๆ เรา ไม่มี แก่ผู้ใด
โดยประการทั้งปวง, อนึ่ง ผู้ใดไม่เศร้าโศก
เพราะนามรูปนั้นไม่มีอยู่, ผู้นั้นแล เราเรียกว่า ภิกษุ"
ขอเชิญอ่านเนื้อหาทั้งหมดได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
เรื่องปัญจัคคทายกพราหมณ์ [๒๕๗]
... ยินดีในกุศลของคุณ 9Panya และทุกๆ ท่านด้วยนะครับ ...
อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 1 โดย khampan.a
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นข้อความโดยตรงในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่องปัญจัคคทายกพราหมณ์ (พราหมณ์ผู้ถวายทานอันเลิศ ๕ อย่าง) ดังข้อความบางตอน มีดังนี้
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ ๓๖๖*พราหมณ์เลื่อมใสพระดำรัสของพระศาสดา*
พระศาสดาไม่ตรัสว่า " เราไม่มีความต้องการด้วยภัตอันเป็นเดน
ของท่าน" ตรัสว่า " พราหมณ์ ส่วนอันเลิศก็ดี ภัตที่ท่านแบ่งครึ่งบริโภค
แล้วก็ดี เป็นของสมควรแก่เราทั้งนั้น, แม้ก้อนภัตที่เป็นเดน เป็นของ
สมควรแก่เราเหมือนกัน , พราหมณ์ เพราะพวกเราเป็นผู้อาศัยอาหารที่
ผู้อื่นให้เลี้ยงชีพ เป็นเช่นกับพวกเปรต " แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า:-
"ภิกษุผู้อาศัยอาหารที่บุคคลอื่นให้เลี้ยงชีพ
ได้ก้อนภัตอันใดจากส่วนที่เลิศก็ตาม จากส่วนปาน
กลางก็ตาม จากส่วนที่เหลือก็ตาม ภิกษุนั้นเป็นผู้
ไม่ควรเพื่อชมก้อนภัตนั้น และไม่เป็นผู้ติเตียนแล้ว
ขบฉันก้อนภัตนั้น ธีรชรทั้งหลายย่อมสรรเสริญ
แม้ซึ่งภิกษุนั้นว่า เป็นมุนี"
พราหมณ์พอได้ฟังพระคาถานั้น ก็เป็นผู้มีจิตเลื่อมใส แล้วคิดว่า
" โอ! น่าอัศจรรย์จริง, พระราชบุตรผู้ชื่อว่าเจ้าแห่งดวงประทีป มิได้
ตรัสว่า ' เราไม่มีความต้องการด้วยภัตอันเป็นเดนของท่าน' ยังตรัสอย่าง
นั้น "แล้วยืนอยู่ที่ประตูนั่นเอง ทูลถามปัญหากะพระศาสดาว่า "ข้าแต่
พระโคดมผู้เจริญ พระองค์ตรัสเรียกพวกสาวกของพระองค์ว่า 'ภิกษุ'
ด้วยเหตุเพียงเท่าไร? บุคคลชื่อว่า เป็นภิกษุ"
**คนผู้ไม่กำหนัดไม่ติดในนามรูปชื่อว่าภิกษุ**
พระศาสดาทรงใคร่ครวญว่า " ธรรมเทศนาเช่นไรหนอ? จึงจะ
เป็นเครื่องสบายแก่พราหมณ์นี้" ทรงดำริว่า " ชนทั้งสองนี้ ในกาล
ของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัลสป ได้ฟังคำของภิกษุทั้งหลายผู้กล่าว
อยู่ว่า ' นามรูป,' การที่เราไม่ละนามรูปแหละ แล้วแสดงธรรมแก่ชน
ทั้งสองนั้น ย่อมควร" แล้วจึงตรัสว่า " พราหมณ์ บุคคลผู้ไม่กำหนัด
ไม่ข้องอยู่ในนามรูป ชื่อว่า เป็นภิกษุ " ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
"ความยึดถือในนามรูปว่าเป็นของๆ เรา ไม่มี แก่ผู้ใด
โดยประการทั้งปวง, อนึ่ง ผู้ใดไม่เศร้าโศก
เพราะนามรูปนั้นไม่มีอยู่, ผู้นั้นแล เราเรียกว่า ภิกษุ"
ขอเชิญอ่านเนื้อหาทั้งหมดได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
เรื่องปัญจัคคทายกพราหมณ์ [๒๕๗]
... ยินดีในกุศลของคุณ 9Panya และทุกๆ ท่านด้วยนะครับ ...
ขอบคุณครับ อ. ที่ช่วยตอบคำถาม