ปัญญาเป็นสภาพธรรมที่เจริญช้า
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าไม่ได้พิจารณาในเหตุผลของธรรมโดยละเอียด ปัญญาก็ยิ่งเจริญช้า เพราะปัญญาเจตสิกเจริญช้าอยู่แล้ว และถ้าไม่รู้เหตุที่จะทำให้ปัญญาเจริญ ปัญญาเจตสิกก็ยิ่งเจริญช้ามากไปอีก เมื่อเทียบกับการเจริญของอกุศลธรรม ในวันหนึ่งๆ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องของบารมีที่จะต้องบำเพ็ญด้วย
ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม อกุศลจิตย่อมเกิดมาก และไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจเรื่องของการเจริญมรรคมีองค์ ๘ เลย เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้วก็มีความเข้าใจ เรื่องการอบรมเจริญปัญญา เรื่องการอบรมเจริญมรรคมีองค์ ๘ แต่ทั้งๆ ที่ทุกท่านเข้าใจแล้วทุกท่านก็ทราบว่า การที่วันหนึ่งๆ สัมมาสติจะเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้นน้อยมาก เพราะฉะนั้น ก็ควรที่จะรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงว่า เพราะเหตุใดสัมมาสติจึงเกิดน้อย แม้ว่าจะเข้าใจหนทางแล้ว
หนทางมี มองเห็น และรู้ว่า หนทางนี้เป็นทางที่ปัญญาจะเจริญ เป็นทาง ที่จะละการยึดถือว่าเป็นตัวตน เป็นทางที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม แต่เพราะเหตุใดสัมมาสติจึงไม่เจริญตามหนทางที่เข้าใจแล้ว ก็เพราะว่าทุกคนซึ่งยังมีกิเลส เปรียบเหมือนผู้ที่เป็นโรค เพราะฉะนั้น ต้องรักษาโรคที่กำลังเป็น จนกระทั่งเป็นผู้ที่แข็งแรงสามารถเดินหนทางไกล คือ มรรคมีองค์ ๘ ให้ถึงจุดหมายปลายทาง คือ การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ แต่ถ้าไม่พิจารณาตนเองเลย ก็ยังคงเป็นผู้ที่รู้ทาง แต่ไปไม่ไหวและไม่รู้วิธีว่า ทำอย่างไรถึงจะเป็นผู้ที่แข็งแรงขึ้นจากโรคภัยต่างๆ
เพราะฉะนั้น การฟังพระธรรม และการพิจารณาพระธรรมให้เข้าใจ เปรียบเสมือนการแสวงหายารักษาโรค ซึ่งจะรู้ได้จริงๆ ว่า ผู้ที่ไม่เคยฟังพระธรรม ไม่รู้แม้ว่าตนเองเป็นโรค จึงไม่แสวงหายาที่จะรักษาโรค และทั้งๆ ที่แสวงหาพระธรรม มีความเข้าใจซึ่งเปรียบเหมือนมียารักษาโรคแล้ว ก็ยังต้องบำรุงร่างกายให้แข็งแรงพอที่จะเดินไปในหนทางไกล คือ การอบรมเจริญมรรคมีองค์ ๘ ให้บรรลุจุดหมายปลายทางได้
ที่มา และ รับฟังเพิ่มเติม ...
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1859
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง