ชาวนาที่ไม่เคยฟังธรรมมาก่อน มีดวงตาเห็นธรรมได้หรือไม่
ภิ. มีเรื่องที่เคยได้ยินมาว่า ชาวนากำลังไถนาอยู่ และมีความระลึกรู้ถึงสภาวธรรมที่ปรากฏหรือสภาพธรรมที่ปรากฏ โดยที่ไม่เคยได้ยิน ได้ฟังจากที่อื่นมา แล้วก็มีดวงตาหรือปัญญาญาณ ที่รู้เท่าทันสภาวธรรมนั้นๆ อย่างนี้ถือว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า
อ. คนนั้นเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า
ภิ. ไม่ได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
อ. ไม่ได้เป็นแล้วสามารถที่จะรู้สภาพธรรมได้โดยที่ไม่ต้องฟัง
ภิ. ก็ชาวนากำลังไถนาอยู่
อ. เป็นไปไม่ได้เลย นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ท่านพระสารีบุตรก็เป็นสาวก คือ ผู้ฟังพระธรรม
ภิ. ถ้าอย่างนั้น เรื่องที่เล่าสู่กันฟังอย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ยกเว้นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะมีปัญญาญาณหยั่งรู้ทุกขณะจิต
อ. นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ไม่ใช่สมัยนี้ สมัยนี้ไม่ใช่สมัยของพระปัจเจกพุทธเจ้า สมัยนี้พระศาสนายังดำรงอยู่ ยังเป็นโอกาสของผู้ที่เป็นสาวกที่จะศึกษา เพราะฉะนั้น ผู้ฟังมีสิทธิที่จะคิด ที่จะพิจารณา ที่จะไตร่ตรอง ไม่ใช่เชื่อทันทีที่ได้ยินได้ฟัง
สาวก คือ ผู้ศึกษาพระธรรม และฟังพระธรรม เพื่อสะสมความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อยความเข้าใจนี้เองที่เป็นปัญญาซึ่งต้องเป็นไปตามลำดับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ผู้ที่จะตรัสรู้ธรรมในชาตินั้นโดยไม่ได้ฟังธรรมต้องเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่ใช่บุคคลสมัยนี้แน่นอน เพราะพระพุทธเจ้ามีองค์เดียวและพระปัจเจกพุทธเจ้ามีตอนว่างจากพระศาสนา และไม่ใช่ว่าการที่จะได้บรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านบรรลุธรรมในชาตินั้นโดยไมได้ฟังธรรมจากใคร แต่ถ้าเราศึกษาแล้วจะเห็นว่าในชาติก่อนๆ ท่านได้สะสมการฟังพระธรรมจากพระพุทธและพระสาวกในอดีตมาอย่างมากมายจนบารมีถึงพร้อมจึงบรรลุธรรมในชาติสุดท้ายโดยไม่ได้ฟังจากใคร แต่ชาติอื่นก็ต้องฟัง ส่วนในสมัยนี้ผู้ที่เป็นสาวก แปลว่า ผู้สำเร็จด้วยการฟัง คืออาศัยการฟังธรรมจึงบรรลุธรรมได้ แต่ว่าชาวนาไม่ได้ฟังธรรมไม่ใช่พระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่มีทางบรรลุธรรมได้เองเลย แม้พระสารีบุตรผู้มีปัญญามากยังต้องฟังธรรมจึงบรรลุ จะกล่าวไปใยถึงชาวนาที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าจะไม่ฟังธรรมแล้วจะบรรลุได้เองเล่า ดังข้อความในพระไตรปิฎก
[เล่มที่ ๔๓] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ -หน้าที่ ๓๒๖
อีกอย่างหนึ่ง เว้นพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าเสีย แม้พระสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตร เป็นต้น ผู้ประกอบด้วยปัญญา ซึ่งสามารถนับหยาดน้ำได้ ในเมื่อฝนตกตลอดกัลป์ทั้งสิ้นก็ยังไม่สามารถจะบรรลุโสดาปัตติผล เป็นต้น โดยธรรมดาของตนได้; ต่อฟังธรรมที่พระอัสสชิเถระ แสดงแล้วจึงทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล และทำให้แจ้งซึ่งสาวกบารมีญาณ ด้วยพระธรรมเทศนาของพระศาสดา
พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านสามารถตรัสรู้เองโดยไม่ต้องฟังจากท่านอื่น ส่วนสาวก แปลว่าผู้ฟัง ต้องฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเท่านั้น จึงจะสามารถมีดวงตาเห็นธรรมค่ะ
....ชาวนากำลังไถนาอยู่ และมีความระลึกรู้ถึงสภาวธรรมที่ปรากฏ....
โดยส่วนตัวคิดว่า ชาวนากำลังไถนาอยู่ และอาจได้เคยสะสมเหตุปัจจัยมามาก แต่หากไม่ได้ฟังพระสัทธรรม ก็ไม่มีทางได้ดวงตาเห็นธรรมด้วยตนเอง การฟังดี ไต่สวนสิ่งที่ได้ฟังดี จึงมีความสำคัญมาก
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
จากความเห็นที่สาม อยากทราบว่า พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านตรัสรู้เองได้อย่างไรคะ โดยไม่ต้องฟังธรรม ท่านสะสมบารมีมามาก หรืออย่างไรคะ
ขอบพระคุณค่ะ
การที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะได้ตรัสรู้ความจริงที่ลึกซึ้งโดยไม่เคยได้ฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก่อนเลยในสังสารวัฎฎ์ ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอน แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ อดีตชาติที่ท่านบำเพ็ญพระบารมีที่ยาวนาน และแสนยากเกินกว่าผู้ใด ครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านก็ได้พบพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ได้เฝ้าฟังพระธรรม ได้สะสมคุณความดีในพระพุทธศาสนา และได้เกื้อกูลบุคลอื่น มากมาย แม้การถวายธรรมต่อพระราชาก็มากมายหลายพระชาติ การอดทน เสียสละต่อบุคคลอื่นๆ จนถึงบริวารในชาติที่กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน การบริจาคทานของท่านยิ่งใหญ่ถึงกับอวัยวะ และชีวิต ด้วยคุณความดี ทั้งหลายที่ประกอบด้วยปัญญาจากการได้ฟังพระธรรม สะสมในจิตไม่สูญหาย จนถึงเวลาที่พระบารมีเต็มเปี่ยม จึงได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม
พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เช่นกัน ท่านก็ต้องเคยได้ฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ในอดีตชาติที่ได้เกิดสะสมความเข้าใจถูก ตามพระธรรมที่ได้ฟังมานานแสนนาน จนถึงเวลาที่จะได้บรรลุรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในกาลเวลาที่เหมาะสม ซึ่งต้องเป็นช่วงเวลาที่โลกไม่มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น ชาตินั้น ท่านจึงไม่ได้ฟังพระธรรม แต่การตรัสรู้ในชาตินั้น ก็ต้องเกิดจากการได้ฟังพระธรรมในชาติก่อนๆ ที่สะสมจนเต็มกำลังดังที่กล่าวแล้ว จึงแสดงถึงการเป็นไปของสภาพธรรมที่เจริญกุศลสั่งสมอบรมปัญญาไม่สูญหาย
ดังนั้น ชาตินี้ ผู้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีโอกาสได้ฟังพระสัทธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ยังมีอยู่ครบถ้วนบริบูรณ์ จึงเป็นโอกาสที่ประเสริฐยิ่งที่ได้สะสมความเข้าใจถูก อีกทั้งเป็นอัธยาสัยสะสมสืบต่อในชาติต่อๆ ไปจะได้เห็นประโยชน์ในการได้ฟังพระธรรม จึงยินดีในกุศลทุกท่านด้วยค่ะ
ศึกษาเพิ่มเติมได้ โดยคลิ๊กที่
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ พระปัจเจกพุทธเจ้า
พระอรหันต์สาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ความต่างกันในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า [ขัคควิสาณสูตร]
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับ พระปัจเจกพุทธเจ้า