ความรักทำให้คนตาบอด
เพราะความรักมากด้วยสิเนหา ความหลงพาเสียทรัพย์ดับสลาย เพราะความหลงโมหะมีมากมาย
ทรัพย์ที่เสียไปเพราะความหลง คงไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับการเสียอริยทรัพย์
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
อย่าเสียความดี (อริยทรัพย์) เพราะกิเลส โลภะ (ความรัก) เมื่อเกิดขึ้นย่อมทำให้ไม่เห็นตามความเป็นจริง (มีโมหะเกิดร่วมด้วย) คิดไปในทางที่ผิด วาจาก็ผิด กายก็ผิด ย่อมไม่รู้ว่าสิ่งใดควร ไม่ควร ย่อมไม่รู้ว่าสิ่งใดควรเสพ ไม่ควรเสพ ไม่รู้ว่าสิ่งใดมีโทษ ไม่มีโทษ ไม่รู้ว่าสิ่งใดมีประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ โดยนัยตรงกันข้าม เมื่อปัญญาเกิด ย่อมเห็นตามความเป็นจริง
ความหลงและกิเลสอื่นๆ ก็เช่นกัน เมื่อเกิดขึ้นย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงและในสิ่งอื่นๆ อีกมากมายในทางที่ผิดครับ จึงควรเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง ครับ
ผู้ใดมีรักย่อมมีทุกข์ ไม่มีรักย่อมไม่ทุกข์ เหมือนน้ำย่อมไม่ติดในบัวฉะนั้น
ความรักและโลภะทำให้คนตาบอด
[เล่มที่ 11] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๖๓
ข้อความบางตอนจาก …
อรรถกถา พรหมชาลสูตร
คนโลภย่อมไม่รู้อรรถ คนโลภย่อมไม่เห็นธรรม เมื่อนรชนถูกความโลภครอบงำ ย่อมมืดตื้อทันที ความโลภก่อให้เกิดความพินาศ ความโลภทำให้จิตอยากได้ ชนไม่รู้จักความโลภนั้นซึ่งเป็นภัยเกิดในภายใน ดังนี้
เชิญคลิกอ่าน ...
ความโกรธเมื่อเกิดขึ้นทำให้มืดตื้อ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขณะที่สติปัฏฐานไม่เกิด ก็ชื่อว่ามืดสนิทด้วยความไม่รู้ว่าขณะนี้เป็นธรรมะค่ะ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ค่ะ...
ผู้ที่ไม่มีความรัก ความยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส คือพระอนาคามี ครับ
พระอนาคามีที่มีครอบครัว ท่านไม่แต่งตัวสวย ไม่ลูบไล้ของหอม ไม่แต่งหน้าทาปากอีกเลย เพราะท่านดับกามราคานุสัยได้เป็นสมุจเฉท พระอนาคามีที่เป็นสามีที่เคยอ่าน ไม่ยอมให้ภรรยาแตะต้องตัวเลย เพราะฉะนั้น ปุถุชนผู้ที่ยังมีกามราคานุสัยอยู่ ก็หนีการเป็นผู้ที่ข้องแวะในกามคุณ ๕ ไม่ได้เลย แต่ก็จะบรรเทาลงได้บ้าง ถ้าปัญญาซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับโลภะ โมหะและอกุศลเจตสิกทุกดวงได้เจริญขึ้นครับ
ขออนุโมทนาครับ