ตั้งต้นใหม่...กลับมาหาหนทางเดียวให้ได้

ถอดข้อความเสียงบางตอนจาก

โลภะหลอกเรามานานในสังสารวัฏฏ์อย่างไร

คุณชิน อาจารย์คะ ถ้าสมมติเรารู้ลักษณะของรูปกับนาม แล้วเรารู้เลย นี่ คือความอยากได้แล้วไม่ได้ เราก็ถึงโมโหอย่างนี้ เรารู้ว่ามันเป็นอย่างนั้น เราจะแก้ มันก็คือยังเป็นอย่างนั้น ยังปรากฏและก็ดับไปแล้ว

อ. สุจินต์ ใครไม่มีโทสะ

ช. พระอนาคามี

สุ. ค่ะ แล้วเราเป็นใคร

ช. ปุถุชนธรรมดา

สุ. และเราพยายามจะทำอะไร

ช. ก็ คือเห็นความรังเกียจ ความน่าเกลียดของอกุศล

สุ. เห็นเท่านั้น เพราะฉะนั้น หนทางเดียว คือรู้ได้ว่ามีปัญญากว่านี้ ต้องอบรมปัญญากว่านี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องเดือดร้อนค่ะ

ช. แล้วกว่าที่จะมีปัญญาถึงขั้นนั้น ก็คือ...?

สุ. ต้องอดทน ขันติเป็นตบะอย่างยิ่ง เริ่มเข้าใจพระพุทธพจน์

ช. อดทนในความหมายของอาจารย์คือ?

สุ. อดทนไปจนกว่าปัญญาจะสมบูรณ์

ช. แล้วถ้าสมมติโลภะก็เกิด เกิด เกิด... โทสะก็เกิด เกิด เกิด...

สุ. ก็เป็นธรรมะ เพราะฉะนั้น ความเข้าใจธรรมะต้องจรดกระดูกไงคะ สจญาณไม่ใช่รู้อื่นเลย อนัตตา ทุกอย่างเป็นธรรมะ มีสติที่จะระลึกได้ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ นี่เป็นหนทางเดียว และสามารถที่จะเป็นสติปัฏฐานทีละเล็กทีละน้อยได้ถ้ามีปัจจัยพอ ทรงชี้หนทางเดียวไว้ แล้วเราไปพยายามหาหนทางอื่น ไม่มีทางจะเป็นไปได้ หนทางเดียวก็ต้องเป็นหนทางเดียว

ช. แต่บางครั้งมันไม่มีสติ

สุ. ไม่มีก็เป็นธรรมะ หลงลืมก็เป็นธรรมะ ต้องมั่นคงมากๆ อย่าลืมสัจจญาณค่ะ

ช. แต่การที่เป็นอกุศลกรรมเกิดไปแล้ว

สุ. ก็เกิดแล้วก็แล้วไป ยิ่งแล้วไปแล้วก็ยิ่งแก้ไม่ได้ เพราะแล้วไปแล้ว ตั้งต้นใหม่

ช. ไปว่าคนอื่นแล้วเรียบร้อย ก็คือ เกิดไปแล้ว sorry จบ

สุ. ค่ะ เพราะฉะนั้น ขณะต่อไปจะทำอีกมั้ย?

ช. ไม่ เราบอกว่าไม่ทำ มันก็ต้องปฏิบัติสิ่งที่เราไม่ชอบ

สุ. ไม่ทำ แต่เมื่อปัญญาไม่พอก็ทำ เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับปัญญาค่ะ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับว่า เราจะทำ ต้องขึ้นอยู่กับการอบรมเจริญปัญญา ต้องอดทนมากที่จะอบรมเจริญปัญญาจนกว่าจะถึงระดับนั้นได้

ช. ยากมาก

สุ. ถูกต้องค่ะ ถ้าอย่างนั้นพระอรหันต์เต็มเมือง

ช. ยากมาก เพราะว่าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องตามใจตัวเอง

สุ. ก็รู้ว่าขณะนั้น หนทางเดียวคืออะไร? ไม่ใช่หนทางอื่น กลับมาหาหนทางเดียวให้ได้

ช. ขอบคุณค่ะ