การเดินก็รู้ว่าเดิน
ได้ฟังอยู่เสมอๆ ว่า เดินก็รู้ว่าเดิน ยกมือก็รู้ว่ายกมือ เป็นการเจริญสติที่ถูกวิธีหรือไม่
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
คำว่ารู้ หมายถึงสติและสัมปชัญญะ (ปัญญา) รู้ พระพุทธองค์ทรงแสดงว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตน เป็นแต่เพียงธรรม ดังนั้นปัญญาจึงต้องรู้ว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา การอบรมเจริญสติปัฏฐาน ทั้ง กาย เวทนา จิต ธรรมจึงต้องรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นธรรม เป็นปรมัตถธรรม เพื่อไถ่ถอนความยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล รู้ว่าเป็นธรรม ดังนั้น แม้ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน อริยาบถบรรพ ที่กล่าวว่า ภิกษุเดินอยู่ก็รู้ว่าเราเดิน ยืนก็รู้ว่าเรายืน เป็นต้น ในที่นี้จึงไม่ใช่เพียงแค่รู้ว่าเดินก็รู้ว่าเดิน ซึ่งในอรรถกถาแสดงว่า แม้สุนัขบ้านก็รู้ว่ามันเดิน มันยืน แต่ไม่เป็นปัญญาในการอบรมเจริญสติปัฏฐาน แต่ในที่นี้หมายถึง เมื่ออยู่ในอริยาบถใดก็ได้ เช่น ขณะเดิน ก็รู้ชัด รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมที่มีในขณะนั้นว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา อาจจะมีแข็งปรากฏขณะเดิน ถ้าสติเกิดก็รู้ลักษณะของแข็งว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา แต่ไม่ใช่คิดนึกว่าแข็ง แต่รู้ลักษณะของแข็งจริงๆ ขณะเดิน เป็นต้น อิริยาบถอื่นๆ ก็เช่นกัน ขณะนั้น ก็มีสภาพธรรมที่ให้รู้ ไม่เลือก ไม่เจาะจงแล้วแต่สติ ดังนั้น รู้ชัดในขณะอิริยาบถได้ คือรู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมที่มีในขณะนั้นเพื่อไถ่ถอนความยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล เป็นแต่เพียงธรรมจึงเป็นสติปัฏฐานครับ และรู้ชัดว่า ไม่มีใครเดินเป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้น เช่น รู้ลักษณะธาตุลม (ไหว) ขณะนั้นก็ได้ แล้วแต่สติครับ ขออนุโมทนา ดังข้อความในพระไตรปิฎก
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
อิริยาบถบรรพ [นิเทสวารกถา]
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
พระธรรมสำหรับฟังแล้วพิจารณาตามโดยแยบคาย สาวก คือผู้ที่ฟังด้วยดี ย่อมค้นพบความจริงด้วยปัญญา ฟังจากท่าน อ.สุจินต์ ตรงนี้ครับ -->
3655 ที่ว่ารู้ชัดในอิริยาบถคืออย่างไร 2007 อิริยาปถบรรพ รู้ได้อย่างไร
2198 เพิกอิริยาบถ คือขณะที่สติปัฏฐานเกิด
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 3 โดย Pararawee
คุณแล้วเจอกัน สรุปว่า yes or no คะ? ถูกหรือผิดอ่ะ
ถ้าเป็นเพียงเดินก็รู้ว่าเดินเท่านั้น ไม่ใช่ปัญญาที่รู้คความจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
จึงไม่ใช่การเจริญสติปัฏฐานที่ถูกต้องครับ