เลือกเกิดไม่ได้ ต้องเป็นเพราะกรรม

 
คุณย่า
วันที่  10 มี.ค. 2551
หมายเลข  7813
อ่าน  1,786

สนทนาธรรมที่มูลนิธิ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550 ถอดเทป โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

นิรันด์ เวลาที่อาจารย์พูดถึงกรรม พูดถึงจิตและเจตสิกด้วย

อาจารย์ จิตและเจตสิกค่ะ

นิรันด์ และจะเกี่ยวเนื่องมาอย่างไร จากปฎิสนธิจิตถึงขณะที่เห็นนี้ ที่ว่าเป็นผลของกรรม คือผมยังไม่มีความเข้าใจว่า คืออาจจะเข้าใจว่าเห็นในขณะนี้ เป็นสภาพรู้ แต่ไม่มีความเข้าใจโดยละเอียดว่า เห็นในขณะนี้ เป็นผลของกรรมได้อย่างไร

อาจารย์ เพราะฉะนั้น ก่อนเห็นต้องเกิด ปฎิสนธิจิตเลือกได้ไหม เลือกไม่ได้ ต้องมีเหตุที่เหมาะที่ควร ที่จะให้เกิดในสวรรค์ เกิดในนรก เกิดเป็นเปรต เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือเกิดเป็นมนุษย์ ซึ่งก็เลือกไม่ได้อีก จะเกิดในตระกูลไหน มารดา บิดา วงศาคณาญาติ เป็นอย่างไร เพราะเป็นผลของกรรม เป็นไปตามกรรม ถ้ามีความเข้าใจว่าผลของกรรม เริ่มตั้งแต่ขณะแรก ที่เกิด เริ่มเห็นไหมค่ะ ว่าต้องเป็นผลของกรรมแน่นอน ถ้าไม่มีกรรม อย่างพระอรหันต์ ไม่มีปฎิสนธิจิตอีกเลย แต่ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ แล้วก็ยังมีกรรมที่ได้กระทำแล้ว สะสมสืบต่อมามากมาย ประมวลมาที่จะให้ปฎิสนธิจิต แม้เป็นประเภทเดียวกัน คือเป็นผลของกุศล ขั้นกามาวจร แต่ชีวิตของแต่ละคน จะต่างไปตามการสะสม ที่สะสมมาของแต่ละคน นานแสนนาน ประมวลมา ที่จะให้ปฎิสนธิจิตนี้ที่เกิดแล้ว จะมีอะไรเกิดต่อไป เพราะว่าไม่มีเพียงปฎิสนธิจิตเกิดขึ้นขณะเดียวเลย ผลของกรรม ทำให้เกิดโดยที่เราไม่รู้เลยว่า เป็นใครในขณะนั้น แล้วก็ดับไป

กรรมก็ทำให้ผลของกรรมคือ วิบากจิตของกรรมเดียวกันนั้นแหละ สืบต่อดำรงภพชาติความเป็นบุคคลนี้ จะเป็นคุณนิรันด์อย่างนี้ จนจิตขณะสุดท้าย จึงจะเปลี่ยนโดยกรรม ซึ่งจะประมวลมา ซึ่งจะทำให้เป็นบุคคลต่อจากชาตินี้ แต่ในขณะนี้ก็ยังไม่สิ้นสุดการให้ผลของกรรม เพราะแม้ว่า ปฎิสนธิจิตเกิดแล้วดับไป กรรมก็ทำให้วิถีจิต เกิดสืบต่อ ทำภวังค์กิจ ดำรงภพชาติยังไม่สิ้นสุดผลของกรรม ดำรงไว้ทำไมล่ะค่ะ ทำไมจะต้องมีเกิด แล้วมีภวังค์ดำรงไว้ ไม่ให้เป็นบุคคลอื่นไปเรื่อยๆ เพื่อรับผลของกรรม ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย โดยการที่กรรมนั้นแหละ ทำให้จักขุปสาทรูปเกิด แม้แต่รูปที่เกิดก็มี ที่เกิดจากกรรมก็มี เกิดจากจิตก็มี เกิดจากอุตุก็มี เกิดจากอาหารก็มี แต่จักขุปสาท เป็นรูปซึ่งเกิดจากกรรม ถ้าเป็นเจตนาที่ครั้งหนึ่ง ไม่ต้องการ ให้มีจักขุปสาท แต่คนอื่นคือทำร้ายไม่ให้บุคคลนั้น มีตาต่อไป ให้เขาตาบอด เจตนาอันนี้ไม่ได้ไปให้ผลแก่คนอื่นเลย แต่ความจงใจตั้งใจที่จะไม่ให้จักขุปสาทเกิด ก็ทำให้ถึงการที่จักขุปสาทไม่เกิด เพราะความจงใจนั้น

นี่แสดงให้เห็นว่า ทั้งหมดที่จะได้รับ ไม่มีใครทำให้เลย แต่เป็นเพราะเจตนาความจงใจ ที่ได้กระทำกรรมสำเร็จไป ทั้งฝ่ายกุศล และอกุศล เพราะว่าเรายังไม่พ้นจากความเป็นบุคคลนี้คือ จะต้องรับผลของกรรม คือ ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกายแค่นี้ล่ะคะ ที่เป็นผลของกรรม ถ้าไม่กล่าวถึงจิตโดยละเอียด แต่ให้ทราบว่า เท่าที่จะรู้ได้ คือขณะใดที่เห็นขณะนั้น เป็นเพราะกรรมทำให้เห็น คนที่นอนหลับสนิท เห็นอะไรไหมคะ ในขณะที่คนที่ยังไม่หลับนี้ เห็น เลือกไม่ได้เลย ใครจะไม่หลับหรือหลับอยู่ ก็ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงใด คนอื่นก็หลับต่อไป แต่กรรมของคนที่จะได้ยินเสียง ก็ทำให้เสียงนั้น กระทบกับโสตปสาท เป็นปัจจัยให้จิต ได้ยินเสียงเกิดขึ้น เป็นผลของกรรมที่ได้กระทำมา

เพราะฉะนั้น ชีวิตก็ยังคงเกิดดับ สืบต่อเป็นผลของกรรม ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่เห็น เลือกไม่ได้เลยว่า จะเห็นอะไรขณะที่ได้ยิน ก็เลือกไม่ได้ ไม่มีเสียง แล้วมีสียง แล้วก็ไม่มี มีแล้วก็หามีไม่ นี้ค่ะ ไม่มีเสียงแล้วก็หมดไป เพราะว่าขณะใด ที่ได้ยินเสียงแล้วแต่เสียงนั้น ลองคิดดู มีชีวิต เท่ากับจิต เกิดดับ ๑๗ ขณะโสตปสาท ที่สามารถกระทบเสียง ก็มีอายุ ๑๗ ขณะเท่ากัน ทั้งสองต้องยังไม่ดับ จิตได้ยินจึงเกิดขึ้น กรรมทำให้เสียงนั้น ที่กระทบโสตปสาท และจิตได้ยินก็เกิดขึ้น ถ้าไม่ถึงกาลที่จะได้รับผลของกรรม ทางหูจะไม่ได้ยินเสียงนั้น เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่น่าฟัง เป็นอิฎฐารมณ์ หรือ เสียงที่ไม่น่าฟังนะคะ เลือกไม่ได้เพราะว่ากรรมทำให้โสตปสาทเกิดขึ้น สามารถกระทบเสียง แล้วเสียงก็ปรากฏ น่ามหัศจรรย์ไหมคะ เสียงไม่ปรากฏ แล้วเกิดเสียงขึ้น โดยกรรมทำให้จิตเกิดขึ้นได้ยินเสียงนั้น ไม่ว่าจะเป็น ทางตาทางหู ทางกาย เป็นผลของกรรม

แต่หลังจากนั้นแล้ว การสะสมอกุศล โลภะ โทสะ โมหะ หรือทางฝ่ายกุศล ก็มีปัจจัยเกิดขึ้นเมื่อไร ก็มีปัจจัยเกิดขึ้นเมื่อนั้น คุณนิรันด์ ไม่อยากจะกังวล ไม่อยากจะเป็นทุกข์ ไม่ใช่แต่คุณนิรันด์ คนเดียว ใครๆ ก็ไม่อยาก แต่มีเหตุปัจจัยที่จะให้เป็นอย่างนั้น ก็เป็นอย่างนั้น เพราะถ้ามีความเข้าใจว่า ชีวิตจริงๆ แล้ว นี้ชั่วคราว สั้นมาก ไม่ว่าจะเกิดในภพไหนทั้งสิ้น ก็มีสภาพของจิต ซึ่งเมื่อเกิดแล้วต้องเป็นไป

อ่านเพิ่มเติม ... คลิกที่นี่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 11 มี.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pornpaon
วันที่ 11 มี.ค. 2551

ขอกราบอนุโมทนา ท่าน อจ.สุจินต์ และคุณย่าสงวน ค่ะ

ขออนุโมทนาบ้านธัมมะค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
สุภาพร
วันที่ 11 เม.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
พุทธรักษา
วันที่ 19 พ.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 19 พ.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pamali
วันที่ 19 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอจ.สุจินต์ และทุกๆ ท่านค่ะ สาธุ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ