กิจกรรมที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อวิปัสนาภาวนา

 
Sam
วันที่  12 มิ.ย. 2551
หมายเลข  8873
อ่าน  2,201

ขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยแสดงธรรม ในหัวข้อที่ออกเสียงว่า ปะ-ริ-โพ-ทะ (ไม่ทราบการสะกดที่ถูกต้อง) อันเป็นหัวข้อว่าด้วยกิจกรรม ที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเจริญวิปัสสนาภาวนา แต่เป็นอุปสรรคต่อการเจริญสมถภาวนา เพื่อที่จะศึกษาในรายละเอียดต่อไปครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 13 มิ.ย. 2551
ขอเชิญคลิกอ่านที่ ปลิโพธ ๑๐
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Sam
วันที่ 13 มิ.ย. 2551

ขอบคุณครับเป็นประโยชน์มาก ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Sam
วันที่ 13 มิ.ย. 2551

ขอแสดงความเห็นผิดของตัวเองครับ การศึกษาในอดีตของผมนั้นขาดความเข้าใจใน ปลิโพธ ๑๐ นี้ ทำให้เกิดความผิดปกติโดยเกิดความรังเกียจ (ด้วยอกุศล) ในการเรียนรู้วิชาการทางโลก รังเกียจการประกอบอาชีพการงาน รังเกียจการสมาคมกับหมู่คณะ ฯลฯ เพราะไม่เข้าใจว่า ปลิโพธหรือความห่วงใยในสิ่งต่างๆ ๑๐ ประการตามที่ทรงแสดงไว้นั้น เกือบทั้งหมดไม่เป็นอุปสรรคต่อการเจริญสติปัฏฐานเลย เมื่อศึกษาต่อมาเรื่อยๆ ก็เริ่มเข้าใจว่า สามารถเจริญปัญญาได้แม้ในเพศคฤหัสถ์ จนได้ศึกษาธรรมะในหัวข้อ ปลิโพธ นี้ ก็ทำให้เกิดความเข้าใจที่มั่นคงยิ่งขึ้น

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prakaimuk.k
วันที่ 13 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ อยู่ที่ความละเอียดของความเข้าใจและปัญญานะคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 13 มิ.ย. 2551

ขออนุญาต นำความเห็นของคุณ Apologize

ในกระทู้ ทาน ศีล และภาวนา ทำควบคู่กันไปได้หรือไม่?

โดยจ่าหนาน มาแสดงดังนี้


Apologize

ความคิดเห็นที่ 15

ในเรื่องปลิโพธ (ความกังวล) การอบรมเจริญวิปัสสนา ปลิโพธ 9 ข้อแรกไม่เป็นเครื่องกั้น แต่การอบรมสมถภาวนา ปลิโพธ 9 ข้อแรกเป็นเครื่องกั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่า มีความกังวล (ปลิโพธ) จะอบรมเจริญวิปัสสนาไม่ได้หรือห้ามเรียนกรรมฐาน (วิปัสสนา) การอบรมปัญญา (วิปัสสนา) คือเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมความกังวล (ปลิโพธ) เป็นธรรมไหม มีจริงหรือเปล่า ปัญญาควรรู้หรือไม่ควรรู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา การอบรมวิปัสสนาจึงเป็นการอบรมในชีวิตประจำวันในสภาพธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศลก็เป็นธรรม บังคับไม่ให้อกุศลเกิดขึ้นไม่ได้ แม้แต่ความกังวล (ปลิโพธ) แต่ก็เข้าใจความจริงได้ว่าเป็นธรรม ส่วนในเรื่องต้องรักษาศีลให้บริสุทธ์ก่อนไม่ได้หมายถึงว่า ไม่ให้ล่วงศีลเลย เป็นไปไม่ได้เพราะยังเป็นปุถุชน แต่ชำระศีลในที่นี้ คือโดยนัยของพระภิกษุ


ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pornpaon
วันที่ 14 มิ.ย. 2551

อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 3 โดย K

ขอแสดงความเห็นผิดของตัวเองครับ การศึกษาในอดีตของผมนั้นขาดความเข้าใจใน ปลิโพท ๑๐ นี้ ทำให้เกิดความผิดปกติโดยเกิดความรังเกียจ (ด้วยอกุศล) ในการเรียนรู้วิชาการทางโลก รังเกียจการประกอบอาชีพการงาน รังเกียจการสมาคมกับหมู่คณะ ฯลฯ เพราะไม่เข้าใจว่า ปลิโพธหรือความห่วงใยในสิ่งต่างๆ ๑๐ ประการตามที่ทรงแสดงไว้นั้น เกือบทั้งหมดไม่เป็นอุปสรรคต่อการเจริญสติปัฏฐานเลย เมื่อศึกษาต่อมาเรื่อยๆ ก็เริ่มเข้าใจว่า สามารถเจริญปัญญาได้แม้ในเพศคฤหัสถ์ จนได้ศึกษาธรรมะในหัวข้อ ปลิโพท นี้ ก็ทำให้เกิดความเข้าใจที่มั่นคงยิ่งขึ้น

ขออนุโมทนาครับ


เคยเห็นผิดเช่นเดียวกับความคิดเห็นที่ 3

และต่อๆ มาจึงได้รู้ว่าเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดาก็สามารถอบรมเจริญปัญญาได้

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ