สังคมมีอกุศลจะทำอย่างไร

 
lichinda
วันที่  2 ก.ค. 2551
หมายเลข  9101
อ่าน  1,719

เมื่อสังคมมี อภิชฌา พยาบาท ทิฎฐิ กระทำผิดทางกาย ทางวาจา สถาบันสังคมจะจัดการอย่างไร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง


Tag  อกุศล  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 2 ก.ค. 2551

วิธีแก้ปัญหาก็คือให้ทุกคนแก้ที่ตนเองก่อนด้วยการศึกษาและปฏิบัติ ตามพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะปัญหาทั้งหมด มีเพราะกิเลสเท่านั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 2 ก.ค. 2551

วิธีแก้ คือ ต้องมีกฏระเบียบของการอยู่ร่วมกันในสังคม แต่การจะแก้อภิชฌา พยาบาท ทิฏฐิ ของคนอื่นแก้ไม่ได้ เพราะว่าแต่ละบุคคลก็มี ยังละไม่ได้ ต้องแก้ที่ตัวเอง อย่างเช่น อภิชฌา แต่ละคนต้องไม่ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน เราแนะนำบอกหนทางที่ถูกแก่คนอื่นได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นว่าเขามีการสั่งสมมาที่จะมีการงดเว้นทุจริตหรือไม่ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ป้าจาย
วันที่ 2 ก.ค. 2551

สังคม เป็นสมมติบัญญัติ หาตัวตน หาปรมัตถธรรมให้แก้ไขไม่ได้ ส่วนจิตและเจตสิกที่เกิดด้วยเหตุปัจจัย เช่น พยาปาท อิสสา อภิชฌา เป็นต้น จะแก้ไข ก็ต้องดับเหตุปัจจัยที่จะให้เกิด ก็ต้องมีปัญญาเพียงส่วนเดียวจึงจะดับได้ หรือกุศลเหตุเท่านั้นจึงจะเกิดกุศลกรรม แก้ไขใครๆ ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรไปบังคับบัญชาสิ่งใดได้ ถ้าอยากแก้ ก็แก้ด้วยการศึกษาเพื่อให้เกิดปัญญาที่เราเสียก่อน ไม่ต้องห่วงคนอื่นหรือสังคม เพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น ไม่มีใครทำอะไรได้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prakaimuk.k
วันที่ 2 ก.ค. 2551

ความเข้าใจในพระธรรมที่ถูกต้อง เป็นเหตุนำไปสู่การฝึกตน ให้เคารพและปฏิบัติตามกฏระเบียบของสังคมตามความเหมาะควร ให้รู้จักการแก้ไขตนเองเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแทนที่จะแก้คนอื่น

สังคมที่ประกอบด้วยบุคคลมีความประพฤติอย่างใดเป็นส่วนใหญ่ สังคมนั้นก็มีแนวโน้มไปตามลักษณะนั้นค่ะ ดังที่ท่านกล่าวไว้ใน ทุกขธรรมสูตร ว่าก็ธรรมเป็นเครื่องประพฤติ และธรรมเป็นเครื่องอยู่ เป็นอันติดตามเธออยู่ด้วยอาการนั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
พุทธรักษา
วันที่ 2 ก.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.

ข้อความบางตอนจากหนังสือ แนวทางเจริญวิปัสสนา (หน้า ๗๗-๗๘) โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์.

สิ่งหนึ่งที่สังคมแก้ไม่ได้ก็คือ สังคมพยายามแก้คนอื่นโดยไม่แก้ที่ตัวเอง เช่น ที่มักได้ยินได้ฟังบ่อยๆ ว่า ปัญหาชีวิต ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาของโลก สารพันปัญหานั้น มีทางเดียวที่จะแก้ได้ก็คือ พระพุทธศาสนา แต่โดยมากนั้นชาวพุทธพยายามให้คนอื่นศึกษาเพราะเห็นว่ามีประโยชน์มาก จำเป็นมากที่จะต้องศึกษาแต่คนที่อยากจะให้คนอื่นศึกษานั้น ตนเองศึกษาหรือเปล่า? ถ้าคนที่พูดไม่ศึกษาก็จะไม่มีประโยชน์เลย เพราะว่าต้องการให้คนอื่นศึกษาเท่ากับต้องการแก้คนอื่น ให้ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ แต่ไม่แก้ตัวเอง เมื่อได้ฟังพระธรรมส่วนละเอียดมากขึ้น ก็จะรู้ว่าอกุศลธรรมมีหลายขั้น
อกุศลอย่างหยาบ เป็นเหตุให้เกิดกายทุจริต วจีทุจริต
ทางกายมีการประหัตประหารเบียดเบียนยึดถือทรัพย์ของคนอื่นที่เจ้าของไม่ได้ให้เอามาเป็นของตน
ทางวาจา ก็มีกิเลสขั้นหยาบที่ทำให้พูดเท็จ
คำพูดที่น่าฟังกับคำพูดที่ไม่น่าฟัง เกิดจากจิตที่ต่างกันคำพูดหยาบ ต้องเกิดจากอกุศลจิตที่มีกำลังมาก คำพูดที่แสดงถึงความสำคัญตน ก็เกิดจากอกุศลซึ่งตรงข้ามกับสภาพจิตใจที่อ่อนโยน มีเมตตา มีความเป็นเพื่อนอย่างจริงใจ ทั้งหมดนี้เป็นธรรม ซึ่งเมื่อศึกษาแล้ว ก็จะรู้ว่าอกุศลมีกำลังมากแค่ไหน และจะเห็นโทษภัยของอกุศล เริ่มคิดที่จะขัดเกลากิเลส นี่คือคุณประโยชน์ของพระธรรมซึ่งเปรียบเสมือนแสงสว่าง ที่ทำให้เห็นสภาพธรรมทั้งหลายตามความเป็นจริงและจะรู้พระคุณของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงพระมหากรุณา แสดงพระธรรมถึง ๔๕ พรรษา สำหรับพวกเราสมัยนี้ด้วย

.

ขอนอบน้อมแด่ท่านอาจารย์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 2 ก.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สังคมก็คือ กลุ่มของบุคคลหลายๆ คนมารวมกัน ดังนั้นแต่ละคนก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม การจะแก้ไขอกุศลนั้น ควรแก้ที่ต้นเหตุคือ การอบรมปัญญา เพราะปัญหาเกิดจากกิเลส การขัดเกลากิเลสด้วยปัญญา เพราะกิเลสไม่ได้ละเพราะกฎระเบียบ ไม่ได้ละเพราะความต้องการ แต่ละด้วยความเห็นถูกในพระธรรม ละด้วยปัญญา โดยเริ่มเข้าใจก่อนว่าธรรมคืออะไร

เชิญคลิกอ่านที่นี่ กิเลสพึงละด้วยปัญญาเท่านั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 2 ก.ค. 2551

หากแต่ว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา สัตว์โลกสะสมอุปนิสัยมาต่างๆ กัน เราไม่สามารถจะทำให้แผ่นดินทั้งโลกเสมอราบเรียบเหมือนกันหมดได้ แต่ควรเริ่มที่ตนเอง ขัดเกลากิเลสตนเอง เมื่อตนเองมีปัญญามากขึ้น กิเลสน้อยลง ก็อยู่ร่วมกับคนอื่นด้วยกุศลจิตมากขึ้น ปัญหาของสังคมก็น้อยลงตามไปด้วย เริ่มที่ตนเองเป็นสำคัญครับ คืออบรมปัญญาศึกษาพระธรรม

ขออนุโมทนา
เชิญคลิกอ่านที่นี่ เรื่องปาฏิกาชีวก พิจารณาตัวเองเป็นสำคัญ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 2 ก.ค. 2551

สถาบันสังคมจะจัดการกับกิเลสของแต่ละบุคคลไม่ได้แน่นอนค่ะ ขออนุโมทนา คุณ study ค่ะ ต้องแก้ที่ตนเองก่อนด้วยการศึกษาและปฎิบัติตามคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
khampan.a
วันที่ 3 ก.ค. 2551

ปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นสังคมของประเทศใดก็ตาม ก็เพราะกิเลสที่เป็นตัวหลักได้แก่โลภะ โทสะ และโมหะ ซึ่งเกิดขึ้นตามการสั่งสมมาของแต่ละบุคคล ทุกคนมีอัธยาศัย มีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน เพราะเหตุว่าได้สั่งสมมาทั้งกุศลและได้สั่งสมมาทั้งอกุศลอย่างหนาแน่นและเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ พฤติกรรมที่แสดงออกมาจึงมีทั้งดีและไม่ดี และไม่เหมือนกันด้วย การที่ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเบียนกันการทำร้ายกัน การคดโกงไม่ซื่อตรงต่อกัน จะค่อยๆ หมดไปได้ ถ้าหากว่าแต่ละบุคคลได้ศึกษาธรรม ได้อบรมเจริญปัญญาขณะนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ เมื่อนั้นกิเลสก็จะน้อยลงและปัญหาทั้งหลายก็จะน้อยลงด้วย

บุคคลหนึ่งๆ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุคคลหนึ่งๆ เมื่อแต่ละบุคคลเห็นว่าความดีเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ควรเจริญ ก็จะประพฤติปฏิบัติตาม โดยไม่ต้องสั่ง ไม่ต้องบังคับ ถ้าต่างคนต่างเป็นอย่างนี้ ต่อๆ กันไป เรื่อยๆ ก็จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้สังคมแต่ละสังคมน่าอยู่ขึ้นครับ

...ขออนุโมทนาครับ...
..

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
suwit02
วันที่ 4 ก.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pornpaon
วันที่ 4 ก.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ