ที่พึ่งอย่างแท้จริง ... ๑ ...

 
สารธรรม
วันที่  22 ส.ค. 2551
หมายเลข  9643
อ่าน  1,673

... ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ... ผู้ทรงเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงดับกิเลสโดยทุกข์ได้สิ้นเชิง ผู้ทรงตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ข้าพเจ้าขออภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นผู้ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า ...

ธรรมใดเป็นเกาะ คือ เป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ซึ่งก็ได้แก่ "การเจริญสติปัฏฐาน" เป็นผู้ที่มีปกติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏทางกาย เวทนา จิตและธรรม ซึ่งท่านผู้ฟังก็จะเห็นได้ถึง "ความสำคัญของที่พึ่งในชีวิต" เพราะว่าเมื่อทุกคนเกิดมาแล้ว ถ้าปราศจากที่พึ่ง ชีวิตก็ไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้ แต่ว่าที่พึ่งที่เป็นปัจจัย ๔ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้สิ้นหรือดับความทุกข์ต่างๆ ซึ่งเกิดจากกิเลสได้ ได้แก่ความเดือดร้อนใจ หรือความไม่สบายใจต่างๆ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ว่า อกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ใช่เป็นที่พึ่ง ไม่ว่าจะเป็นโลภะซึ่งทุกคนมีมาก แต่ว่าไม่ใช่ที่พึ่ง เพราะถ้ายิ่งมีโลภะมาก ยิ่งเดือดร้อนมาก แล้วในวันหนึ่งๆ ยังไม่ค่อยจะเห็นโทษของโลภะ เพราะฉะนั้น ทั้งๆ ที่มีโลภะมากและบางครั้งก็คิดว่า คงจะใช้โลภะเป็นที่พึ่งหรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จลงได้ด้วยโลภะ เพื่อที่จะได้สิ่งที่ต้องการ แต่จะเห็นได้ว่า เมื่อได้สิ่งนั้นมาแล้ว ไม่สิ้นทุกข์แต่ว่ากลับเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโลภะ โทสะ โมหะ อิสสา มัจฉริยะ ความตระหนี่ หรือสภาพธรรมใดๆ ที่เป็นอกุศล เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
สารธรรม
วันที่ 22 ส.ค. 2551

เพราะฉะนั้น เวลาที่บางท่านเกิดความทุกข์ เกิดความเดือดร้อนใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการงาน ในเรื่องของครอบครัว ในเรื่องของชีวิตส่วนตัวหรือว่าเมื่อประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ จะเห็นได้ว่า ท่านหาที่พึ่ง คือหาสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นที่พึ่ง และส่วนใหญ่ถ้าจะพิจารณาดูชีวิตของแต่ละท่านตามความเป็นจริง จะเห็นได้ว่า มักจะพึ่งอะไร เวลาที่เกิดความทุกข์ เกิดความเดือนร้อน เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ประสบกับความเสื่อมลาภ ความเสื่อมยศต่างๆ โดยมากมักจะพึ่งอะไรคะ พึ่งทานกุศล ใช่ไหม? .คิดที่จะทำบุญ ทำทาน เพื่อที่จะได้ให้หมดเรื่องของทุกข์ภัยต่างๆ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

แต่ใครจะรู้ว่า ท่านจะหมดทุกข์ภัยได้จริงหรือ ด้วยการกระทำทานกุศลนั้น? เพราะเมื่อไรทานกุศลนั้นจะให้ผลก็ไม่ทราบ และถ้าทานกุศลจะให้ผล ก็ให้ผลในด้านวัตถุ คือการที่จะได้เป็นผู้ประสบกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่น่าพอใจต่างๆ แต่ถึงแม้ว่าจะมีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่น่าพอใจ เป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยวัตถุ ลาภ ปัจจัยต่างๆ แต่ก็ยังไม่สิ้นทุกข์ เพราะทานกุศลก็ไม่สามารถที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงได้ ถ้าท่านผู้นั้นยังเป็นผู้ที่มีการประพฤติทางกาย วาจาเป็นไปในอกุศล ก็ย่อมจะมีเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นผลของกายกรรม วจีกรรม ซึ่งเป็นอกุศลกรรมทำให้ต้องประสบกับความความเดือดร้อนต่างๆ นานา

คลิกเพื่ออ่านต่อ --> ที่พึ่งอย่างแท้จริง ... ๒ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
opanayigo
วันที่ 22 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 22 ส.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 22 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ปริศนา
วันที่ 23 ส.ค. 2551

สมุทัยอริยสัจจ์ เห็นยาก รู้ยากเพราะความอยาก ปิดบังปัญญาเท่านั้น ที่จะประหารความอยากได้บนหนทางแห่งอริยมรรค อันยาวไกล สะสมความมั่นคงในหนทางนี้

ไม่พัก ... ไม่เพียร ... ไม่ประมาท.

จิรกาลภาวนา ... อนุโมทนาค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 23 ส.ค. 2551

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า จงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
prakaimuk.k
วันที่ 24 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
kittiya
วันที่ 25 ส.ค. 2551

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ สติมาปัญญาเกิด

ขออนุโมทนา สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 26 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ