...มิตร หรือ...สหาย
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2551
พระสูตร เรื่อง สัมโพธิสูตร
ความเป็นผู้มีมิตรดีเป็นคุณธรรมประการหนึ่งเป็นไปเพื่อการตรัสรู้ ข้าพเจ้าได้ฟังพระสูตรเรื่องเพื่อน มิตร ท่านอาจารย์พูดได้ดีมาก จึงนำมาฝากอ่านกัน
ท่านอ.สุจินต์ มีเพื่อนเยอะไหมคะ แต่ละท่านมีเพื่อนเยอะไหม เพื่อนเป็นกัลยาณมิตรหรือเปล่า ตอนนี้มาถึงเพื่อนแล้วนะคะ ถ้าเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตรเป็นยังไง หมายความว่ายังไง เป็นผู้ที่หวังดี หวังดีให้เราได้ลาภ ได้ยศหรือยังไงคะหรือว่าหวังดีให้เราเกิดกุศล ให้มีความเห็นที่ถูกต้อง ให้เข้าใจถูก นั่นแหละค่ะคือ เพื่อนดีจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีเพื่อนดีนะคะ เราสามารถที่จะเข้าใจธรรมได้ไหม เพราะว่าเรามีเพื่อนดีที่ช่วยให้เราสนุกสนานและก็ให้ได้ลาภ ได้ยศได้อะไร ได้อะไรต่างๆ แต่ว่าให้เราเข้าใจธรรม ให้เข้าใจความจริง ให้ละอกุศลต่างๆ หรือเปล่า เพราะฉะนั้นความเป็นเพื่อนที่ดีนะคะ คือเกื้อกูลให้เกิดกุศล เพื่อนคนไหนแนะนำให้เกิดกุศล รู้ได้เลยค่ะว่าเป็นเพื่อนที่ดี แต่ว่าจะเป็นกุศลมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ว่าทำให้เกิดปัญญามากน้อยแค่ไหนด้วย
ขอเรียนถามท่านวิทยากรว่า มิตร และ สหาย มีความหมายต่างกันอย่างไรคะ
ขอขอบพระคุณค่ะ
เพื่อนที่ดีแนะนำให้เกิดกุศล ควรคบเพื่อนดีและทำตัวให้เป็นเพื่อนที่ดี รวมทั้งมีเมตตา
และให้อภัยแก่เพื่อนที่ไม่ดีให้ได้ด้วยเช่นกัน.....ขออนุโมทนาค่ะ.....
ตอบความเห็นที่ ๓ ครับ
ในอรรถกถาท่านอธิบายความหมายไว้ดังนี้ พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ หน้าที่ ๑๔๓ ในคาถานั้น คนทั้งหลายชื่อว่ามิตร ด้วยอำนาจแห่งความรักใคร่ ชื่อว่าสหาย เพราะความเป็นผู้มีใจดี ก็คนบางพวกเป็นมิตรเท่านั้นไม่เป็นสหาย เพราะความเป็นผู้ใคร่ประโยชน์เกื้อกูลอย่างเดียว บางพวกเป็นสหายเท่านั้น ไม่เป็นมิตร เพราะให้เกิดสุขทางใจ ในการทั้งหลายมีการมา การยืน การนั่งและการพูดเจรจา เป็นต้น บางพวกเป็นทั้งสหายเป็นทั้งมิตรด้วยอำนาจแห่งธรรมทั้งสองนั้น
ผมเข้าใจว่า
มิตร คือ พ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง ผู้ให้ความช่วยเหลือ ผู้ให้กำลังใจ ผู้ให้ความรู้ปัญญาและอื่นๆ ที่นำหรือให้เกิดประโยชน์ไม่ให้เดือดร้อนในชีวิตประจำวันมาให้ สหาย คือผู้ร่วมเดินทางไม่ว่าจะเคยรู้จักหรือไม่รู้จักมาก่อน เช่น ร่วมเดินทางไกล ร่วมเดินทางศีกษาธรรมไปด้วยกัน ทำด้วยกัน รับโทษด้วยกัน ด้วยกันๆ ลๆ ส่วนเพื่อนเป็นทั้งมิตรและสหาย ครับ
จากที่ไปหาข้อมูลมิตร คำว่า มิตร มีรากศัพท์คำเดียวกับคำว่า เมตตา ซึ่งมีความหมายว่า ความรักใคร่ห่วงใยปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข เพราะฉะนั้นคำว่า มิตร จึงหมายถึงผู้ที่รักใคร่ชอบพอกันปรารถนาดีต่อกัน กล่าวคือมีความเมตตาทั้ง ทางกาย วาจา ใจต่อกัน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง สหาย แปลว่า ผู้ไปด้วยกัน มีความคิดเห็นเหมือนกัน สหาย แปลว่า เพื่อน คือผู้คบกันคุ้นเคยสนิทสนม
ความหมายของมิตร
ผู้ที่เดินทางร่วมกันตั้งแต่ 7 ก้าวขึ้นไป เรียกว่า มิตร
ผู้ที่เดินทางด้วยกันตั้งแต่ 12 ก้าวขึ้นไป เรียกว่า สหาย
ผู้ที่เยี่ยมกันครึ่งเดือนต่อครั้ง หรือเดือนละครั้ง เรียกว่า ญาติ
ผู้ร่วมสุขและทุกข์กัน ดีกว่า มิตร สหาย และ ญาติ
ส่วนผู้ที่เป็นศัตรูกัน ย่อมไม่ร่วมทางกัน
จาก แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 651
องค์ ๓ ของมิตรแท้
(ทุทฺททํ ททาติ) ให้สิ่งที่ให้ยาก ๑
(ทุกฺกรํ กโรติ) ทำสิ่งที่ทำยาก ๑
(ทุกฺขม์ ขมติ) ทนสิ่งที่ทนยาก ๑
จาก มิตตสูตร [เล่มที่ 34] อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๕๗๔
ผลของกุศลทำให้เจอมิตรแท้ผลของอกุศลทำให้พบมิตรเทียม
อนุโมทนาและขอบคุณ ajarnkruo และฟังตามที่แนะนำแล้วมีประโยชน์และน่าสนใจมากคะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะ
ของ
...มิตร...
กัลยาณมิตร
...สหาย...
สหายธรรม
...ญาติ...
ญาติธรรม
ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขในสังสารวัฏฏ์
ทุกท่าน
ค่ะ
[๑๖๓] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
พวกเกวียน พวกโคต่างเป็นมิตรของคนเดินทาง มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน สหายเป็นมิตรของคนผู้มีธุระเกิดขึ้นเนืองๆ บุญที่ตนทำเองเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า.
[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๒๗๔ อรรถกถามิตตสูตร
มารดานั้น จึงชื่อว่า เป็นทั้งมิตรทั้งสหายในเรือนของตน. บทว่าอตฺถชาตสฺส แปลว่า ของบุคคลผู้มีธุระเกิดขึ้น อธิบายว่าบุคคลใด ย่อมนำกิจนั้นไปทำให้สำเร็จ บุคคลนั้นชื่อว่า สหาย ชื่อว่า มิตร เพราะความเป็น คือให้กิจทั้งหลายสำเร็จร่วมกัน แต่ว่า ชนทั้งหลายผู้เป็นสหายในการดื่มน้ำเมา มีสุรา เป็นต้น ไม่ชื่อว่า เป็นมิตร