โลภะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ท่านผู้ฟัง โลภะเห็นยาก เพราะเป็นธรรมที่ลึกซึ้ง ใช่ไหม
ท่านอาจารย์ สองอริยสัจจ์แรก ลึกซึ้ง จึงเห็นยากสองอริยสัจจ์หลัง เห็นยากเพราะลึกซึ้งสองอริยสัจจ์หลัง ไม่ได้มีอยู่ เหมือนทุกขสัจจ์ขณะนี้มีการเกิดดับ ลึกซึ้งจึงเห็นยาก คือ ยากที่จะเห็นการเกิดดับแต่สำหรับมรรค ไม่ได้มีให้เห็นอยู่ตลอด จึงเห็นยาก เพราะลึกซึ้ง.
"โลภะ" ก็ลึกซึ้ง จึงเห็นยาก
ท่านผู้ฟัง เพราะฉะนั้น ใครที่ว่ารู้จักโลภะ...ก็ยังไม่ใช่
ท่านอาจารย์ ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด ไม่มีทางเลยเพียงแค่ลืมตาตื่น ทั้งหมด ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจแม้แต่ตายแล้ว พอปฏิสนธิจิตเกิด ชวนวิถีแรก คือ โลภะ
ท่านผู้ฟัง ที่ยกปัญหานี้ขึ้นมาก็เพราะว่า เมื่อมีการศึกษาข้อความในอริยสัจจ์ ๔ว่า ทุกข์ เป็นสิ่งที่ควรกำหนดรู้ สมุทัยเป็นสิ่งที่ควรละก็เลยเกิดปัญหาว่า จะละอย่างไร...สำหรับคนที่เริ่มเจริญสติปัฏฐาน เริ่มเข้าใจจะละโลภะอย่างไร จะละเมื่อไร
ท่านอาจารย์ ปัญญา เป็นความเห็นถูก ถ้าไม่เห็นโลภะ จะละไม่ได้เลยตามธรรมดา มีใครเห็นโลภะวันนี้บ้างถ้าเห็น (โลภะ) ก็เป็นเรา (ที่เกิดโลภะ) พอสนุกสนานก็ โลภะ (เป็นเราที่มีโลภะ) เพราะฉะนั้น ไม่ใช่การเห็นโลภะจริงๆ เลยเมื่อปัญญาเกิด เวลาที่สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมะนี้คือทุกข์ รู้ทุกข์ โดยที่ทุกข์ยังไม่ปรากฏนะเจ้าคะหมายความว่า เริ่มจะรู้ว่า นี้แหละคือทุกข์ ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดดับแม้ไม่ประจักษ์ แต่รู้ว่าสิ่งนี้มีจริงๆ สิ่งที่เกิดแล้วก็ดับจนกว่าปัญญาจะประจักษ์แจ้ง
ถ้ามีความต้องการเกิดขึ้น แม้นิดเดียว ขณะนั้น ก็เห็นโลภะแล้วเจ้าค่ะเพราะว่า เวลาที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมะนี้
ยากที่โลภะจะไม่ตามมา เวลาที่ปัญญายังไม่เพิ่มขึ้น
บรรยายโดยอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณที่แนะนำให้รู้จัก
อกุศล 9 กอง 9 แบบ 9 มุมมอง
ปล.ไม่ได้อยากได้เพิ่มนะครับ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่
เวลาที่มีโลภะกำลังเกิด ควรเจริญสติปํฎฐานอย่างไรครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ