ขณะที่พระโสดาบันเจริญสติปัฎฐาน มีวิรตีเจตสิกเกิดร่วมด้วยหรือไม่

 
bsomsuda
วันที่  31 ต.ค. 2552
หมายเลข  14116
อ่าน  1,443

ขอเรียนถามท่านผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะว่า..

ตามที่ดิฉันเข้าใจว่า "พระโสดาบันเป็นผู้ไม่ล่วงศีล 5 ดังนั้นในขณะที่ท่านเจริญสติปัฏฐาน จึงควรมีวิรตีเจตสิกเกิดร่วมด้วย" นี้เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไรคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 1 พ.ย. 2552

ขณะที่สติปัฏฐานเกิดเป็นมรรค 5 ถ้ามีวิรตีเจตสิกดวงใดดวงหนึ่งเกิดขึ้นทำกิจวิรัติใน ขณะนั้นก็เป็นมรรค 6 วิรตีเจตสิก 3 จะเกิดพร้อมกันตอนที่ทำกิจประหาณกิเลสเป็น สมุจเฉท มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ ขณะนั้นมรรคทั้งแปดดวงจะเกิดพร้อมกันค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
bsomsuda
วันที่ 1 พ.ย. 2552

ขอบพระคุณอย่างสูง และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 1 พ.ย. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

วิรตีเจตสิกเกิดกับมหากุศล ๘ และโลกุตตรจิต ๘ วิรตีเจตสิก ๓ ดวง

วิรตีเจตสิก

มรรคสมังคี

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
bsomsuda
วันที่ 2 พ.ย. 2552

ได้ความกระจ่างเพิ่มขึ้นอีกมากเลยค่ะ

ขอขอบพระคุณอย่างสูง และขอกราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 2 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
bsomsuda
วันที่ 3 พ.ย. 2552

ขอเชิญทุกท่านร่วมสนทนา

ขอเรียนถามท่านผู้รู้เพิ่มเติมว่า.." ถ้าอย่างนั้นแล้ว การเจริญสติปัฏฐานที่มีวิรตีเจตสิกเกิดร่วมด้วย ให้ผลไปในทางที่ส่งเสริมปัญญาให้คมกล้าขึ้น หรือปัญญาที่คมกล้าขึ้นจากการเจริญสติปัฏฐานส่งผลให้วิรตีเจตสิกเกิดบ่อยขึ้น หรือส่งเสริมซึ่งกันและกันเป็นอย่างไหนกันแน่คะ หรือว่าผิดทั้งหมด" ขอความรู้เพิ่มเติมด้วยค่ะ จากความไม่รู้จริงๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
khampan.a
วันที่ 3 พ.ย. 2552

จากความคิดเห็นที่ 6

ความเข้าใจธรรม และการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ย่อมเกื้อกูลต่อกุศลทุกประการและ กุศลทุกประการก็เกื้อกูลต่อสติปัฏฐานด้วยเช่นเดียวกัน ย่อมเกื้อกูลซึ่งกันและกันที่สำคัญ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก นั่นเอง ปกติในชีวิตประจำวันสำหรับผู้ที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส อกุศลย่อมเกิดมากกว่ากุศล เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ ตามกำลังของตน กิเลสที่มีมาก ถ้าไม่อาศัยการขัดเกลาไปทีละเล็กทีละน้อย พร้อมกับการอบรมเจริญปัญญาแล้ว กิเลสจะลดน้อยลงจนกระทั่งถึงการดับหมดสิ้นได้อย่างไร มุ่งเจริญสติปัฏฐานเพียงอย่างเดียวไม่พอ ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

มุ่งเจริญสติปัฏฐานอย่างเดียว ไม่พอ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 3 พ.ย. 2552

ในชีวิตประจำวันกุศลยังเกิดยากเลย แล้วจะเจริญสติปัฏฐานอย่างเดียวยิ่งยากใหญ๋ ต้องอาศัยการฟังธรรมทุกๆ วัน ฟังบ่อยๆ เนืองๆ ตั้งใจฟัง ฟังแล้วเข้าใจ ก็จะเป็น ปัจจัยให้สังขารขันธ์ปรุงแต่งให้ปัญญาและกุศลทุกอย่างค่อยๆ เจริญขึ้นตามลำดับค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
bsomsuda
วันที่ 3 พ.ย. 2552

ขอขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนาค่ะ

จะหมั่นศึกษาให้เข้าใจเรื่องราวของธรรม และเจริญกุศลให้มากขึ้นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Sam
วันที่ 3 พ.ย. 2552

ขอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
petcharath
วันที่ 3 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 5 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ