ไหนๆ ก็ต้องตาย...ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจดีกว่า
ไม่มีผู้ใดที่จะหนีความตายไปได้ ไม่ช้าก็เร็ว ขึ้นอยู่กับกรรมใดกรรมหนึ่งที่เคยกระทำไว้ในอดีตเป็นปัจจัยให้ตายจากภพชาตินี้ เพราะฉะนั้นเด็กอาจตายก่อนคนแก่ หรือคนที่มีสุขภาพแข็งแรงอาจตายก่อนคนป่วยก็ได้ ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย วนเวียนอยู่ในวัฏฏะสงสารสะสมความไม่รู้ต่อๆ ไป เมื่อนึกถึงความตายก็ไม่ควรประมาทเลย เป็นการยากที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และพระสัทธรรมยังดำรงอยู่ อีกทั้งได้พบกับกัลยาณมิตรอย่างท่านอาจารย์ผู้ส่องไฟในที่มืด ผู้ชี้หนทางเดินที่ถูกทางให้เราเดิน ไหนๆ ก็ต้องตาย ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจดีกว่า มีธรรมะเป็นเกาะ มีธรรมะเป็นที่พึ่งอาศัย สะสมความเข้าใจธรรมไปในภพชาติต่อๆ ไป
ขออนุโมทนาค่ะ
หากมิได้ระลึกถึงความตายบ่อยๆ ก็มักลืม ไปโกรธ ไปโลภ ไปหลง ไปยึด ไปถือ ไปวันๆ หนึ่ง หลงบ่อยๆ ประมาทบ่อยๆ (เลยค่ะ) การฟังธรรมเสมอๆ ย่อมสะสมไปในภพหน้า
อนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความตาย เป็นความจริงที่ทุกคนหลีกหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน เราจักต้องตายแน่แท้เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด เราจะต้องตายเหมือนกับคนที่ตายไปแล้วนั่นแหละ แต่สิ่งที่สำคัญที่ควรพิจารณาอยู่เสมอ คือ ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ซึ่งอาจจะเป็นวันไหน เวลาใดก็ได้ ควรจะทำอะไร จึงจะถูกต้องดีงามและเป็นที่พึ่งสำหรับตนเองอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป ย่อมเป็นโอกาสที่ดีและมีค่าสำหรับชีวิตเป็นอย่างยิ่ง และกล่าวได้ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ ชีวิตในภพนั้นชาตินั้น ย่อมจะเป็นชีวิตที่ไม่ว่างเปล่าจากประโยชน์เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบกับพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีกัลยาณมิตรผู้มีปัญญาเป็นผู้แสดง เป็นผู้ส่องแสงสว่างในที่มืดให้ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ชาตินี้ต้องไม่ให้เสียชาติเกิด เหมือนชาติที่แล้ว ... ต้องจับหลักให้มั่นๆ แล้วเดินไปเรื่อยๆ ห้ามหยุด ห้ามท้อ ห้ามถอย และห้ามหวังในผลจากสิ่งที่กำลังทำ
อนุโมทนา ดวงจิตผู้ใฝ่ธรรม
มรณานุสติเป็นการระลึกถึงความตาย ... แล้วเกิด สติและสัมปชัญญะ เพื่อละธรรมอันเป็นบาปอกุศลด้วยการเริ่มต้นด้วยการฟังธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ
เชิญคลิกอ่าน ...