ทำอย่างไรไม่ให้โกรธคนโกงเงิน
ถ้าจะไม่ให้ความโกรธเกิดขึ้นอีกเลย ต้องอบรมเจริญปัญญา จนบรรลุเป็นพระอริย
บุคคล ระดับพระอนาคามีบุคคล ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ การฟังพระสัทธรรมให้เข้าใจ
พิจารณาศึกษาสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง โดยต้องอาศัยกาล
เวลาที่นานแสนนาน เพราะแต่ละคนสะสมโลภะ โทสะ โมหะ มานานแสนนาน
การที่จะเอาออกทันที ยังไม่ได้ ต้องอาศัยปัญญาขั้นโลกุตตระ จึงจะดับได้ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่...
ระลึกถึงโทษของความโกรธ [วิสุทธิมรรคแปล]
ฟังธรรม อบรมปัญญา อบรมเมตตา เจริญกุศลทุกประการ ถ้ามีปัญญามากขึ้น เมตตาก็มากขึ้น เข้าใจความจริงของชีวิตผ่านการศึกษาพระธรรมมากขึ้น ความทุกข์เพราะความโกรธ และอกุศลอื่นๆ ก็จะค่อยๆ บรรเทาลงเองตามเหตุตามปัจจัยครับ ขอเชิญคลิกฟัง >>> • ทำไมถ้าโกรธคนที่เราไม่ชอบ จะโกรธมาก
ห้ามไม่ให้โกรธไม่ได้หรอกค่ะ
แต่ระงับความโกรธได้ด้วยเมตตา
อีกอย่าง....
การถูกโกงเป็นวิบาก ซึ่งเป็นผลจากการกระทำในอดีต
ถ้ามั่นคงในเรื่องกรรม แล้วจะไม่โทษใคร
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมเป็นอนัตตาเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ธรรมดาของบุคคลผู้ที่เป็นปุถุชน หนาแน่นไปด้วยกิเลส มีกิเลสที่ได้สะสมมาอย่างมากมาย เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย ก็พร้อมที่จะเกิดขึ้นทันที เป็นอกุศลทันทีบังคับไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เพราะเกิดแล้ว เป็นอกุศลแล้วในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นอกุศลประเภทใดก็ตาม จากประเด็นที่กล่าวถึงนั้น ควรที่จะได้พิจารณาว่า ไม่มีใครทำอะไรให้เราได้เลยไม่มีใครยัดเยียดความเดือดร้อนให้เราได้เลย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเหตุ คือ อกุศลกรรมที่กระทำไว้แล้วในอดีตถึงคราวที่จะให้ผล จึงทำให้ได้รับสิ่งที่ไม่น่าปรารถนา เช่นนั้นซึ่งไม่มีใครทำให้เลย ควรอย่างยิ่งที่จะเบิกบาน ที่จะได้เข้าใจความจริงในขณะนั้นการโกรธคนที่กระทำไม่ดี ไม่มีประโยชน์เลย (จะโกรธใคร ก็ไม่ดีทั้งนั้น) เพราะเป็นการเพิ่มอกุศลให้กับตัวเราเอง แต่ควรจะสงสารเขา เห็นใจเขา ที่เขาได้สร้างเหตุที่ไม่ดีให้กับตัวเขาเอง ที่จะต้องได้รับผลจากการกระทำดังกล่าว ตามสมควรแก่กรรมที่ได้กระทำไว้ จึงไม่สมควรเลยที่จะให้จิตของเราจะเป็นอกุศล เพราะอกุศลของบุคคลอื่น "ถึงแม้ว่าเขาจะให้ร้ายแก่เรา แต่เราจะไม่ทำให้เราเสียซึ่งความดี" เพราะเหตุว่าพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา ไม่มีข้อความใดที่ส่งเสริมให้เกิดอกุศลเลยแม้แต่น้อย การเดินทางในสังสารวัฏฏ์ ยังอีกยาวไกล โดยที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง และชีวิตในภพนี้ชาตินี้ก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด เพราะฉะนั้นแล้ว ควรที่จะมีกำลังใจที่เข้มแข็ง (กำลังปัญญา) ในการดำเนินชีวิตให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควรยิ่งขึ้น พร้อมกับเป็นผู้ไม่ประมาทในการสะสมที่พึ่งที่แท้จริงให้กับตนเอง ต่อไป ที่พึ่งดังกล่าวนั้น ได้แก่ กุศลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญา ความเข้าใจถูก เห็นถูก ที่เริ่มจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ในชีวิตประจำวัน ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
อนึ่ง เงินทองนี้ ทำให้เกิดความโลภ
ความมัวเมา ความลุ่มหลง ความติดดังเครื่องผูก
มีภัย มีความคับแค้นมาก เงินทองนั้นไม่ตั้งอยู่ยั่งยืนเลย.
นรชนเป็นอันมาก
ประมาท มีใจเศร้าหมองแล้ว เพราะเงินทองเหล่านี้
จึงต้องเป็นศัตรู วิวาทบาดหมางกันและกัน.
อาสวะทั้งหลาย ไม่ใช่หมดสิ้นไปเพราะเงินทองดอกนะ
กามทั้งหลายเป็นอมิตร เป็นผู้ฆ่า เป็นศัตรู เป็นดั่งลูกศรเสียบไว้.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา
เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้าที่ 416 สุภากัมมารธิดาเถรีคาถา
[๗๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความเสื่อมแห่งโภคะมีประมาณน้อยความเสื่อมแห่งปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย. [๘๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความเจริญด้วยโภคะมีประมาณน้อยความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลายเพราะฉะนั้นเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่าเราทั้งหลายจักเจริญโดยความเจริญปัญญาดูก่อนภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 143
คนพาล ย่อมเดือดร้อนว่า บุตรทั้งหลายของเรามีอยู่ทรัพย์ (ของเรา) มีอยู่ตนแลย่อมไม่มีแก่ตนบุตรทั้งหลายทั้งหลายจักมีแต่ที่ไหนทรัพย์จักมีแต่ที่ไหน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท
เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 150 เรื่องอานนทเศรษฐี
ตราบใดที่ยังไม่บรรลุเป็นพระอนาคามี มีเหตุปัจจัยก็โกรธ
กิเลสที่สะสมมานานแสนนาน ถ้าไม่อาศัยการอบรมปัญญา
ถ้าไม่สามารถดับกิเลสเหล่านั่นได้ค่ะ
เหตุที่โกรธเพราะคิด ในขณะนั้นจิตเป็นอกุศล ทำให้เกิดโทสะ เพราะคิดว่าจะไม่ได้เงินคืน แต่ลองย้อนไป ขณะที่ให้เงินยืมนั้น จิตเป็นกุศล คิดที่จะช่วยเหลือ ถ้ามีจิตที่คิดจะช่วยเหลือ ขอให้คิดว่า คนที่เอาเงินไปนั้น อาจมี่เหตุจำเป็นยังคืนให้ไม่ได้ ขอให้คิดดี ทำดี ผลดีจะส่งผลดีกลับคืนมา ทำจิตให้เป็นกุศล ให้อภัย ความโกรธก็จะเบาบาง ข้อความที่ดิฉันกล่าวมานี้ ดิฉันได้ฟังมา จากท่านอ.สุจินต์ ดิฉันขอกราบขอบพระคุณ ท่าน อ. สุจินต์ ขออนุโมทนาคะ
ให้มีเมตตามากมาก พยายามทำใจให้กว้างๆ ไว้ แผ่เมตตาไปให้คนที่โกงเราด้วย ฝึกให้เป็นคนใจกว้าง มีเมตตา รู้จักให้อภัย อย่ายึดตีดในอดีตมากนัก อะไรผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไปทำจิตใจให้สบายๆ เงินทองหาใหม่ได้ คิดแบบนี้ก็สบายแล้ว คิดซะว่าเจ้าหนี้เขามาทวงคืนนะ ทำได้จริงจริงนะ ลองทำดูอาศัยการฝึกมากมากใช้เวลาหน่อย
ที่ให้คำแนะนำมาดูลึกมากๆ เลยล่ะคะ แต่วิธีที่หนูทำมันได้ผลนะคะ ถ้าสำหรับคนขี้โกรธเป็นประจำ หรือมักจะมีเรื่องให้ต้องโกรธบ่อยๆ เนี่ย (ซึ่งหนูก็เป็นบ่อย) น้ำจะนับตัวเลขในใจไปเรื่อยๆ เลยล่ะค่ะจนกว่าทิฏฐิและความโกรธจะหายไปจาก ใจอย่างหมดเกลี้ยง อาจจะดูง่ายนะคะ แต่ยากสุดๆ เลยละค่ะ เพราะน้ำจะเป็นคนตอบโต้และเหวี่ยงยามโกรธ แต่ครั้งแรกที่ลองทำเนี่ย นับช้าๆ ก็เกือบพันแนะ ค่อยๆ ทำลองดูนะคะ ตอนนี้เวลาน้ำโกรธตัว เลขแห่งการโกรธก็จะลดลงมาเรื่อย (ตอนนี้เหลือไม่ถึงร้อยค่ะ)
1.เขาอาจมีลูก 5 คน ยังเล็ก มีภรรยา ต้องเสียค่านม ค่าเทอมให้ลูก และค่าอื่นๆ จิปาถะ
2.เขาอาจไม่มีเครดิตไปยืมตังใครๆ ได้ เขากำลังเดือดร้อนหนัก ต้องใช้ตัง
3.บางคนบ้านโดนน้ำท่วมช่วงนี้ ธุรกิจเจ๊ง สิ้นเนื้อประดาตัว น่าสงสาร ให้เขาไปเถอะจ้ะ เงินที่เขาเอาไปอาจไม่พอด้วยซ้ำ
4.คิดซะว่าเมื่อก่อนเราเคยโกงเขา 500 ล้านบาท ชาตินี้เขามาเอาคืนแค่1แสนบาทเอง (เปรียบเทียบนะครับ ผมไม่รู้ว่าเขาโกงกี่บาทครับ)
5.ฟังธรรมมะซิครับ พระธรรม มีค่านับประมาณไม่ได้ ถ้าเข้าใจธรรมมะ เรื่องตังก็เรื่อง จิ๊บๆ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ