คิหิสูตร ... เสาร์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๓

 
บ้านธัมมะ
วันที่  24 ต.ค. 2553
หมายเลข  17428
อ่าน  2,704

•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••... สนทนาธรรมที่ ...
•••..... มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ....•••

พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ ๓๐ ต.ค. ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ

คิหิสูตร (ว่าด้วยผลของการรักษาศีล ๕)

 

... จาก ...

[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ หน้า ๓๘๑-๓๘๖


...นำสนทนาโดย...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ หน้า ๓๘๑-๓๘๖ ๙. คิหิสูตร (ว่าด้วยผลของการรักษาศีล ๕)

[๒๗๙] ครั้งนั้น ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี แวดล้อมด้วยอุบาสกประมาณ ๕๐๐ คน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียกท่านพระสารีบุตรว่า ดูก่อนสารีบุตรเธอทั้งหลาย พึงรู้จักคฤหัสถ์คนใดคนหนึ่ง ผู้นุ่งห่มผ้าขาว มีการงานสำรวมดีในสิกขาบท ๕ ประการ และมีปกติได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบากซึ่งธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน อันมีในจิตยิ่ง ๔ ประการ และคฤหัสถ์ผู้นั้น เมื่อหวังอยู่ ก็พึงพยากรณ์ตน ด้วยตนเองว่า เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน เปรตวิสัยอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า

คฤหัสถ์ย่อมเป็นผู้มีการงานสำรวมดีในสิกขาบท ๕ ประการเป็นไฉน? ดูก่อนสารีบุตร อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ การดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑ คฤหัสถ์เป็นผู้มีการงานสำรวมดีในสิกขาบท ๕ ประการนี้ คฤหัสถ์เป็นผู้มีปกติได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบากซึ่งธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบันอันมีในจิตยิ่ง ๔ ประการเป็นไฉน? ดูก่อนสารีบุตร อริย-สาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่าแม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ... เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม นี้เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน อันมีในจิตยิ่ง ข้อที่ ๑ อันอริยสาวกนั้นได้ถึงแล้วเพื่อความหมดจดแห่งจิตที่ยังไม่หมดจด เพื่อความผ่องแผ้วแห่งจิตที่ยังไม่ผ่องแผ้ว อีกประการหนึ่ง อริยสาวกเป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระ-ธรรมว่า ธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว ... อันวิญญูชนพึงจะรู้เฉพาะตน. นี้เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน อันมีในจิตยิ่งข้อที่ ๒ ... อีกประการหนึ่ง อริยสาวกเป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว ... เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า นี้เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็น สุขในปัจจุบันอันมีในจิตยิ่ง ข้อที่ ๓ ... อีกประการหนึ่ง อริยสาวก เป็นผู้ประกอบด้วยศีลที่พระอริยะใคร่แล้ว ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท วิญญูชนสรรเสริญ เป็นไปเพื่อสมาธิ นี้เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน อันมีในจิตยิ่ง ข้อที่ ๔ อันอริยสาวกนั้นได้ถึงแล้วเพื่อความหมดจดแห่งจิตที่ยังไม่หมดจด เพื่อความผ่องแผ้วแห่งจิตที่ยังไม่ผ่องแผ้ว คฤหัสถ์ผู้มีปกติได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ซึ่งธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบันอันมีในจิตยิ่ง ๔ ประการนี้. ดูก่อนสารีบุตร เธอทั้งหลายพึงรู้จักคฤหัสถ์คนใดคนหนึ่ง ผู้นุ่งห่มผ้าขาว มีการงาน สำรวมดีในสิกขาบท ๕ ประการ และมีปกติได้ตามความปรารถนาได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ซึ่งธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบันอันมีในจิตยิ่ง ๔ประการนี้ และคฤหัสถ์นั้น เมื่อหวังอยู่ ก็พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองว่า เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน เปรตวิสัยอบาย ทุคติ และวินิบาตสิ้นแล้วเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดาเป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. บัณฑิตเห็นภัยในนรกแล้ว พึงเว้น บาปเสีย สมาทานอริยธรรมแล้ว พึงเว้น บาปเสีย ไม่พึงเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ในเมื่อความพยายามมีอยู่ ไม่พึงกล่าวคำ เท็จทั้งที่รู้ ไม่พึงแตะต้องของที่เจ้าของ ไม่ให้ ยินดีด้วยภริยาของตน ไม่พึงยินดี ภริยาผู้อื่น และไม่พึงดื่มสุราเมรัยเครื่อง ยังจิตให้หลงใหล พึงระลึกถึงพระสัม- พุทธเจ้าเสมอ และพึงตรึกถึงพระธรรม เสมอ พึงอบรมจิตให้ปราศจากพยาบาท อันเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เทวโลก ทัก- ษิณาทานที่ผู้ต้องการบุญ แสวงหาบุญให้ แล้ว ในสัตบุรุษก่อน ในเมื่อไทยธรรม เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นทักษิณามีผลไพบูลย์. ดูก่อนสารีบุตร เราจักบอกสัตบุรุษให้ จงฟังคำของเรา ในบรรดาโคดำ ขาว แดง หมอก พร้อย หม่น หรือ แดงอ่อน ชนิดใดชนิดหนึ่ง โคที่ฝึกแล้ว ย่อมเกิดเป็นโคหัวหน้าหมู่ใด หัวหน้าหมู่ ตัวนั้นเป็นโคที่นำธุระไปได้ สมบูรณ์ด้วย กำลัง เดินได้เรียบร้อยและเร็ว คนทั้งหลาย ย่อมเทียมโคตัวนั้นในการขนภาระ ไม่- คำนึงถึงสีของมัน ฉันใด ในหมู่มนุษย์ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ในชาติอย่างใดอย่าง- หนึ่ง คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร จัณฑาล คนเทขยะ บรรดามนุษย์ เหล่านั้นทุกๆ ชาติ คนผู้ที่ฝึกแล้ว ย่อม เกิดเป็นผู้มีวัตรดี ตั้งอยู่ในธรรม สมบูรณ์ ด้วยศีล กล่าวคำสัตย์ มีใจประกอบด้วย หิริ ละชาติและมรณะได้แล้ว อยู่จบ พรหมจรรย์ ปลงภาระลงแล้ว ไม่ประกอบ ด้วยกิเลส ได้ทำกิจเสร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง ดับแล้ว เพราะไม่ถือมั่น ก็ทักษิณาที่บำเพ็ญใน ผู้นั้น ผู้ปราศจากความกำหนัด เป็น บุญเขต ย่อมมีผลไพบูลย์.

ส่วนคนพาลผู้ไม่รู้แจ้ง มีปัญญาทราม ไม่ได้สดับ ย่อมให้ทานในภายนอก ไม่คบหาสัตบุรุษ ส่วนชนเหล่าใด ย่อม คบหาสัตบุรุษผู้มีปัญญาดี ได้รับยกย่องว่า เป็นนักปราชญ์ ชนเหล่านั้นตั้งศรัทธาไว้ ในพระสุคตเป็นเค้ามูลแล้ว ย่อมไปสู่ เทวโลก หรือพึงเกิดในตระกูลสูงในโลก นี้ ชนเหล่านั้นเป็นบัณฑิต ย่อมบรรลุ นิพพานโดยลำดับ.

จบคิหิสูตรที่ ๙.

 

 

อรรถกถาคิหิสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในคิหิสูตรที่ ๙ ดังต่อไปนี้ :- บทว่า สวุตกมฺมนฺต คือ มีการงานที่ป้องกันแล้ว. บทว่า อาภิเจตสิกาน คืออาศัยจิตสูง. บทว่า ทิฏธมฺมสุขวิหาราน ได้แก่ อยู่เป็นสุขในธรรมอันประจักษ์คือ ในปัจจุบันนี้เอง. บทว่า อริยกนฺเตหิ ได้แก่ ศีลในมรรคผลที่พระอริยะทั้งหลายใคร่แล้ว. ท่านกล่าวศีล ๕ ว่า อริยธรรม ในบทว่า อริยธมฺม สมาทาย นี้. บทว่าเมรย วารุณึ ได้แก่ เมรัย ๔ อย่างและสุรา ๕ อย่าง. บทว่า ธมฺมญฺจานุวิตกฺกเยได้แก่ พึงตรึกโดยระลึกถึงโลกุตรธรรม ๙ อย่าง. บทว่า อพฺยาปชฺฌหิต จิตฺตได้แก่ จิตประกอบด้วยพรหมวิหารมีเมตตาเป็นต้น อันหาทุกข์มิได้. บทว่า เทวโลกาย ภาวเย ได้แก่ พึงเจริญเพื่อพรหมโลก. บทว่า ปุญฺตฺถสฺส ชิคึสโตได้แก่ ผู้ต้องการบุญแสวงหาบุญอยู่. บทว่า สนฺเตสุ ได้แก่ ในพระพุทธเจ้า พระ-ปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกของพระตถาคต. บทว่า วิปุลา โหติ ทกฺขิณา ได้แก่ทานที่ให้แล้วอย่างนี้ย่อมมีผลมาก. บทว่า อนุปุพฺเพน ได้แก่ โดยลำดับมีบำเพ็ญศีลเป็นต้น. บทที่เหลือมีเนื้อความที่กล่าวไว้แล้วในติกนิบาต นั่นแล.

จบ อรรถกถา คิหิสูตรที่ ๙.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 24 ต.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ข้อความโดยสรุป คิหิสูตร (ว่าด้วยผลของการรักษาศีล ๕)

เมื่อท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี และอุบาสก ๕๐๐ คน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสกับท่านพระสารีบุตร ว่า เธอทั้งหลายพึงรู้จักคฤหัสถ์ผู้นุ่งผ้าขาว (ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกาย,เป็นเครื่องหมายของคฤหัสถ์) ผู้สำรวมในสิกขาบท ๕ ประการ และได้โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบาก ซึ่งธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน ๔ ประการ ว่า เป็นพระโสดาบัน เป็นผู้ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูิมิอีกเลย และเป็นผู้แน่นอนที่จะได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลเบื้องสูงขึ้นไป คือ เป็นพระสกทาคามี เป็นพระอนาคามี และ เป็นพระอรหันต์ ในที่สุด สิกขาบท ๕ ประการ คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการพูดเท็จ และ เว้นจากการดื่มสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ธรรมเป็นเครื่องอยู่สุขในปัจจุบัน ๔ ประการ คือ ความเลื่่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรม ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระอริยสงฆ์ และ ความเป็นผู้มีศีล ๕ ที่บริบูรณ์ ไม่ขาด. ขอเชิญคลิกอ่านข้อความต่อไปนี้เพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นครับ รบกวนถามเรื่องการถือศีล 5 หน่อยครับ พระโสดาบันและปุถุชน องค์คุณของพระโสดาบัน [โอคธสูตร] ธรรมที่พระโสดาบันละได้แล้ว [ปหีนสูตร] เป็นพระโสดาบัน ทำยากไหมคะ มีข้อปฎิบัติอย่างไรบ้าง ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Jans
วันที่ 25 ต.ค. 2553
กราบอนุโมทนาคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
orawan.c
วันที่ 27 ต.ค. 2553
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
อินทรีย์พละ
วันที่ 28 ต.ค. 2553

ได้มีโอกาสที่ดี ที่ได้เดินทางจาก ตจว.ไปฟังธรรมที่มูลนิธิฯ รู้สึกว่าคนเข้าไปฟังมาก ได้นั่งแถวหลังๆ แทบไม่มีโอกาสได้เห็นหน้า ท่านอาจารย์ และคณะวิทยากรทุกท่านเลย จะเป็นไปได้ไหมครับ ที่ระหว่างที่มีการบันทึกภาพ อยากให้ฉายภาพท่านอาจารย์ทุกๆ ท่านขณะบรรยาย ขึ้นจอทีวีที่มีอยู่ทั้งสองด้าน อยากเห็นหน้าทุกๆ ท่านระหว่างบรรยายด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prachern.s
วันที่ 28 ต.ค. 2553

เรียนความเห็นที่ ๔

ในอนาคตจะมีครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
อินทรีย์พละ
วันที่ 28 ต.ค. 2553

กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Thirachat.P
วันที่ 28 ต.ค. 2553
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pamali
วันที่ 29 ต.ค. 2553

ขอกราบนอบน้อมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ด้วยความเคารพนอบน้อมสูงสุดในชีวิต และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Buppha
วันที่ 29 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Nongnuch
วันที่ 30 ต.ค. 2553

Anumotana ka.

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ