ปรินิพพาน

 
จารุธัมโม
วันที่  1 ธ.ค. 2553
หมายเลข  17578
อ่าน  2,866

ขอถามความหมายของคำว่า ปรินิพพาน คืออย่างไร

ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chaiyut
วันที่ 2 ธ.ค. 2553

นมัสการพระคุณเจ้าครับ

ปรินิพพาน ที่พระคุณเจ้ากล่าวถึง มาจากคำบาลีสองศัพท์ คือ ปริ หมายถึง รอบส่วน นิพพาน หมายถึง ความดับ สภาพที่ไม่เกิด สภาพที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งฉะนั้น ปรินิพพาน จึงหมายถึง ความดับโดยรอบ มี ๒ อย่าง คือ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ กับ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

นิมนต์คลิกอ่านครับ >>>

สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ

อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

อายตนะ คือ นิพพาน [ปฐมนิพพานสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
จารุธัมโม
วันที่ 3 ธ.ค. 2553

ขอถามแบบคนไม่มีความรู้ครับ คือ นอกจาก ๓๑ ภพภูมิแล้ว มีภพใหนอีกไหมครับ ถ้ามีแค่ ๓๑ ภพภูมิแล้ว สัตว์ทั้งหลายใน ๓๑ ภพภูมิ คิดว่าจะมีจำนวนเท่านั้นเท่านี้ไหมครับ ถ้ามีผู้ที่เข้านิพพานไปบ้างแล้ว จำนวนสัตว์ทั้งหลายจะลดลง หรืออย่างไรครับ หรือต้นกำเนิดสัตว์มาจากไหน สัตว์ขยายเพิ่มขึ้นหรือเท่าเดิมครับ

ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จารุธัมโม
วันที่ 3 ธ.ค. 2553

คือรอเวลาที่จะปรินิพพาน เพื่อความสุขที่เป็นนิจนิรันดร์ ไม่มีการเวียนว่ายไปในสังสารวัฏฏ์อีกต่อไป จากข้อความนี้ ปรินิพพานแล้ว เป็นความสุขนิรันดร์ หรือครับ

ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
พุทธรักษา
วันที่ 3 ธ.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chaiyut
วันที่ 4 ธ.ค. 2553

จากความเห็นที่ 2

พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่ามีเพียง ๓๑ ภพภูมิครับ ส่วนเรื่องจำนวนของสัตว์ทั้งหลายทรงแสดงว่าเป็นอนันตะ คือ มีมหาศาลจนนับไม่ถ้วน ไม่พึงกะประมาณว่าสัตว์เท่านี้น้อยลงหรือสัตว์เท่านี้มากขึ้น

ขอเชิญคลิกอ่านครับ

>> จำนวนสัตว์โลก

ส่วนต้นกำเนิดของสังสารวัฏฏ์ เป็นสิ่งที่ย้อนไปหาเบื้องต้นไม่เจอ จึงไม่พึงแสวงหาต้นกำเนิดที่ไม่มีใครจะสามารถย้อนกลับไปพบได้ แต่เราควรศึกษาธรรมเพื่ออบรมปัญญาที่จะนำออกจากทุกข์ในวัฏฏะครับ

ขอเชิญคลิกอ่านครับ

>> ที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายของสงสาร [ติณกัฏฐสูตร]

จากความเห็นที่ 3

ถูกต้องครับ ความสุขที่แท้จริง คือ การที่ดับกิเลสได้ทั้งหมด และไม่ต้องมีการเกิดอีกในชาติต่อไปในสังสารวัฎฎ์ สำหรับพระอรหันต์ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
จารุธัมโม
วันที่ 4 ธ.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
khampan.a
วันที่ 4 ธ.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
จารุธัมโม
วันที่ 8 ธ.ค. 2553

ควรจะพิจารณายังไงถึงจะเห็นสภาพธรรมะที่ปรากฏในขณะปัจจุบันนั้น คือควรจะเริ่มต้นยังไงดีของสติสัมปชัญญะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
จารุธัมโม
วันที่ 8 ธ.ค. 2553

อาตมามีความสนใจในมหาสติปัฏฐาน ๔ แต่ไม่รู้จะเจริญยังงัย หรือกำหนดสติยังงัย ถ้าเป็นไปได้อาตมาอยากสนทนาธรรมทางโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าจะติดต่อได้ทางไหนบ้าง

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
จารุธัมโม
วันที่ 8 ธ.ค. 2553

อาตมายิ่งฟัง เหมือนตัวเองโง่จัง เลยรู้สึกไม่ค่อยกล้าที่จะเผยแผ่ธรรมะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
จารุธัมโม
วันที่ 8 ธ.ค. 2553

พอจะมีท่านใดบ้าง ที่จะให้ความกระจ่างในธรรมที่อาตมาสงสัย

ขอสาธุอนุโมทนาอย่างสูง

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chaiyut
วันที่ 9 ธ.ค. 2553

ตามความเห็นของผม ผมคิดว่า เราควรฟังพระธรรมให้เข้าใจถูกต้องจริงๆ ก่อนครับ ไม่ควรเริ่มหาวิธีที่จะพิจารณายังไง แต่ควรเริ่มที่จะค่อยๆ ฟังให้เข้าใจสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ จากนั้นจึงค่อยๆ ไตร่ตรองพิจารณาสิ่งที่ได้ฟังว่าจริงหรือไม่ มีในชีวิตประจำวันให้เข้าใจและพอรู้ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ฟังเราก็จะไม่รู้ว่าธรรมของพระพุทธองค์ ลึกซึ้งแค่ไหน เมื่อไม่รู้ เราจึงฟังสิ่งที่ผู้ที่ทรงตรัสรู้ได้ทรงแสดง พระพุทธเจ้า ทรงแสดงว่า ขณะนี้มีสภาพธรรม เป็นสภาพธรรม มีลักษณะจริงๆ ที่ปรากฏ แต่ทำไมไม่รู้ ก็เพราะเหตุว่า เราสะสมความไม่รู้มามาก และสติสัมปชัญญะยังไม่มีปัจจัยที่จะเกิดขึ้น เพราะเรายังไม่ได้เริ่มอบรม ดังนั้น จึงสำคัญที่การอบรม แต่การอบรมที่จะถูกต้องได้ ต้องมาจากการฟังพระธรรมที่ถูกต้อง และเป็นไปตามลำดับขั้นด้วย เริ่มตั้งแต่ ปัญญาขั้นฟัง (สุตมยปัญญา) ปัญญาขั้นคิดพิจารณา (จินตามยปัญญา) ไปจนถึง ปัญญาขั้นรู้ความจริง (ภาวนามยปัญญา) การอบรมปัญญาเป็นสิ่งที่อบรมข้ามขั้นไม่ได้ครับ สำหรับ "มหาสติปัฏฐาน ๔" เป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งพระคุณเจ้า อาจจะต้องค่อยๆ ฟัง และอาจจะต้องฟังโดยละเอียด โดยที่ไม่ควรรีบปฏิบัติ ในสิ่งที่ยังไม่ได้รู้จริง และไม่ควรเพียรทำอะไรตามความต้องการ เพราะการเข้าใจหนทางเดียวในการดับกิเลสที่เรียกว่า สติปัฏฐาน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้นั้น ต้องอาศัยเวลายาวนาน ที่จะต้องอดทนพากเพียรศึกษาให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ไม่ใช่ ของง่าย ที่ใครจะเข้าใจได้ในทันที เรียกได้ว่าเป็นการศึกษาชีวิตทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งในเว็บไซต์บ้านธัมมะแห่งนี้มีบริการธรรมให้เปิดฟังได้ หากพระคุณเจ้าสนใจ พระคุณเจ้า ก็สามารถรับฟังมหาสติปัฏฐาน ๔ ได้ในหมวดฟังธรรมครับ
ขอเชิญคลิกฟัง

>> มหาสติปัฏฐาน ๔

แต่ถ้าหากพระคุณเจ้า ต้องการความกระจ่างในธรรมเพิ่มขึ้น พระคุณเจ้าก็สามารถเดินทางไปร่วมสนทนาธรรมกับท่านผู้รู้ที่ ม.ศ.พ.ซึ่งได้มีการจัดเตรียมสถานที่ให้อำนวยต่อการสนทนาธรรมเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา ๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ครับ

ขอเชิญคลิกชมที่อยู่ของมูลนิธิฯ

>>> ม.ศ.พ.

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
จารุธัมโม
วันที่ 9 ธ.ค. 2553

ปฏิจจสมุบาท เป็นเรื่องข้ามภพข้ามชาติ หรือเพียงแค่เกิดในขณะจิตหนึ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
จารุธัมโม
วันที่ 10 ธ.ค. 2553

สาธุอนุโมทนาคุณโยมทุกๆ ท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
เซจาน้อย
วันที่ 14 ธ.ค. 2553

สาธุขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ