เรื่องปฐมโพธิกาล...วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔

 
บ้านธัมมะ
วันที่  3 พ.ค. 2554
หมายเลข  18306
อ่าน  1,793


•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••... สนทนาธรรมที่ ... 
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

ในวันเสาร์ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ


เรื่องปฐมโพธิกาล
...จาก...[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่มที่ ๔๒ หน้าที่ ๑๗๘ - ๑๘๐

(ภาพแสดงบรรยากาศการสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ ในวันอาทิตย์ที่ ๖ มี.ค. ๒๕๕๔)

...นำสนทนาโดย...


ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และคณะวิทยากร


[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่มที่ ๔๒ หน้าที่ ๑๗๘ - ๑๘๐
เรื่องปฐมโพธิกาล

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดาประทับนั่ง ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ ทรงเปล่งอุทานด้วยสามารถเบิกบานพระหฤทัย ในสมัยอื่น พระอานนท์เถระทูลถาม จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า"อเนกชาติสสาร" เป็นต้น. ทรงกำจัดมารแล้วทรงเปล่งพระอุทาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นแล ประทับนั่ง ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ เมื่อพระ-อาทิตย์ยังไม่อัสดงคตทรงกำจัดมารและพลแห่งมารแล้ว ในปฐมยาม ทรงทำลายความมืดที่ปกปิดปุพเพนิวาสญาณ, ในมัชฌิมยาม ทรงชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว, ในปัจฉิมยาม ทรงอาศัยความกรุณาในหมู่สัตว์ ทรงหยั่งพระญาณลงในปัจจยาการแล้วทรงพิจารณาปัจจยาการนั้น ด้วยสามารถแห่งอนุโลมและปฏิโลม. ในเวลาอรุณขึ้นทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ พร้อมด้วยอัศจรรย์หลายอย่าง เมื่อจะทรงเปล่งอุทานที่พระพุทธเจ้าหลายแสนพระองค์ไม่ทรงละแล้ว จึงได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า "เราแสวงหานายช่างผู้ทำเรือน เมื่อไม่ประสบ จึงได้ท่องเที่ยวไปสู่สังสาระ มีชาติเป็นเอนก ความเกิด บ่อยๆ เป็นทุกข์, แน่ะนายช่างผู้ทำเรือน เราพบท่าน แล้ว, ท่านจะทำเรือนอีกไม่ได้, ซี่โครงทุกซี่ ของท่าน เราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็รื้อเสียแล้ว, จิตของเรา ถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว, เพราะเรา

บรรลุธรรมที่สิ้นตัณหาแล้ว" แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า คหการ คเวสนฺโต ความว่า เราเมื่อแสวงหานายช่างคือตัณหาผู้ทำเรือน กล่าวคืออัตภาพนี้ มีอภินิหารอันทำไว้แล้ว แทบบาทมูลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ทีปังกร เพื่อประโยชน์แก่พระญาณ อันเป็นเครื่องอาจเห็นนายช่างนั้นได้ คือ พระโพธิญาณ เมื่อไม่ประสบ ไม่พบ คือ ไม่ได้พระญาณนั้นแล จึงท่องเที่ยวคือเร่ร่อน ได้แก่ วนเวียนไปๆ มาๆ สู่สังสาระมีชาติเป็นเอนก คือ สู่สังสารวัฏฏ์นี้ อันนับได้หลายแสนชาติ สิ้นกาลมีประมาณเท่านี้.

คำว่า ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุน นี้ เป็นคำแสดงเหตุแห่งการแสวงหาช่างผู้ทำเรือน. เพราะชื่อว่าชาตินี้ คือ การเข้าถึงบ่อยๆ ชื่อว่าเป็นทุกข์ เพราะภาวะที่เจือด้วยชรา พยาธิ และมรณะ. ก็ชาตินั้น เมื่อนายช่างผู้ทำเรือนนั้น อันใครๆ ไม่พบแล้ว ย่อมไม่กลับ. ฉะนั้น เราเมื่อแสวงหานายช่างผู้ทำเรือน จึงได้ท่องเที่ยวไป. บทว่า ทิฏฺโฐสิ ความว่า บัดนี้ เราตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ พบท่านแล้วแน่นอน. บทว่า ปุน เคหํ ความว่า ท่านจักทำเรือนของเรา กล่าวคือ อัตภาพ ในสังสารวัฏฏ์นี้อีกไม่ได้. บาทพระคาถาว่า สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา ความว่า ซี่โครง กล่าวคือกิเลสที่เหลือทั้งหมดของท่าน เราหักเสียแล้ว. บาทพระคาถาว่า คหกูฏ วิสงฺขต ความว่า ถึงมณฑลช่อฟ้ากล่าวคืออวิชชาแห่งเรือนคืออัตภาพที่ท่านสร้างแล้วนี้ เราก็รื้อเสียแล้ว. บาทพระคาถาว่า วิสงฺขารคต จิตฺต ความว่า บัดนี้ จิตของเราถึงคือเข้าไปถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว คือ พระนิพพาน ด้วยสามารถแห่งอันกระทำให้เป็นอารมณ์. บาทพระคาถาว่า ตณฺหาน ขยมชฺฌคา ความว่า เราบรรลุพระอรหัตต์ กล่าวคือธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหาแล้ว. เรื่องปฐมโพธิกาล จบ.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 3 พ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

เรื่อง ปฐมโพธิกาล -------------------------

คำว่า ปฐมโพธิกาล หมายถึง ช่วงเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ใหม่ๆ หรือ เมื่อแรกที่ได้ทรงตรัสรู้

เป็นความจริงที่ว่า พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ เมื่อได้ทรงตรัสรู้แล้ว ก็จะทรงเปล่งพระอุทาน (คำที่ทรงเปล่งออกด้วยพระโสมนัสญาณ) ว่า เราแสวงหานายช่างผู้ทำเรือน เมื่อไม่ประสบ จึงได้ท่องเที่ยวไปสู่สังสาระ มีชาติเป็นเอนก เป็นต้น

พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ (พระสมณโคดม) ก็เช่นเดียวกัน ในวันที่ทรงตรัสรู้ (วันขึ้น๑๕ ค่ำ เดือน๖) พระองค์เสด็จเข้าไปยังโคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงกำจัดกองกำลังแห่งมาร และ ทรงบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ที่นั้น ในเวลาใกล้รุ่งของวันวิสาขบูชา เมื่อพระองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้ว ก็ได้ทรงเปล่งพระอุทาน ดังกล่าว ในสมัยต่อมาพระอานนท์ทูลถาม พระองค์จึงได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนานี้ ดังปรากฏในพระสูตรนั่นแล

ใจความของพระคาถาที่เป็นพระอุทานของพระพุทธเจ้า สรุปได้ว่า พระโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญบารมีตลอดระยะเวลา ๔ อสงไขยแสนกัปป์เพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงห่างไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง แต่เมื่อยังไม่ได้ปัญญาที่จะสามารถดับตัณหาซึ่งเป็นกิเลสที่สร้างภพชาติได้ ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด นับชาติไม่ถ้วน ยังเต็มไปด้วยกองแห่งทุกข์นานัปประการ แต่เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดับตัณหาซึ่งเป็นตัวสร้างภพชาติ พร้อมทั้งอวิชชา และกิเลสทั้งหลายในฐานะเดียวกัน ได้ทั้งหมดแล้ว กิเลสเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นอีก ไม่สามารถสร้างภพชาติให้กับพระองค์ได้อีกต่อไป ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายสำหรับพระองค์ ภพใหม่ไม่มีอีกต่อไป

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ครับ เรือน และ นายช่างผู้สร้างเรือน เป็นธรรม

นายช่างผู้ทำเรือน วันพิเศษคือวันวิสาขบูชา นี่ก็ใกล้วันวิสาขบูขาอีกแล้ว ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pamali
วันที่ 11 พ.ค. 2554
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เจิด
วันที่ 12 พ.ค. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 12 พ.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ING
วันที่ 12 พ.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 12 พ.ค. 2554
กราบขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เซจาน้อย
วันที่ 12 พ.ค. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
sahapol
วันที่ 13 พ.ค. 2554

พระโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญบารมีตลอดระยะเวลา ๔ อสงไขยแสนกัปป์ เพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทรงเปล่งพระอุทาน (คำที่ทรงเปล่งออกด้วยพระโสมนัสญาณ)

ท่านทั้งหลายที่มีโอกาสได้ฟังในสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ตร้สรู้ และหากบุญที่ได้สะสมมามากพอ ก็สามารถรู้ตามที่พระพุทธเจัาได้ตรัสรู้แล้ว

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นผู้กระทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้มีโอกาสได้ศึกษาพระธรรมโดยแท้จริง ด้วยการแสดงพระธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ท่านทั้งหลายมีลาภแล้วหนอ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
มกร
วันที่ 13 พ.ค. 2554
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
natre
วันที่ 14 พ.ค. 2554

ผมโชคดีที่ได้เกิดมาในบวรพระพุทธศาสนา...ผมโชคดีที่เกิดมาในช่วงกาลสมัยได้ฟังธรรม

จากท่านอาจารย์สุจินต์......ผม..นายอัคเนตร พรมคุณ ผมชอบคำนี้ของท่านอาจารย์มาก...รู้

แล้ว..ละ ! เพราะตามความเข้าใจผมการที่จะรู้ (ธรรมะ) ได้ไม่ใช่เรืองง่ายๆ และการที่จะหาผู้

แสดงธรรม ตอบปัญหาธรรมที่ตรงได้เช่นท่านอาจารย์ยิ่งหาได้ยากในกาลสมัยนี้

ดังนั้นท้ายนี้ผมขอสรุปว่าลาภแท้หนอ...กราบอนุโมทนาครับ 13 พ.ค. 2554

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
สมศรี
วันที่ 14 พ.ค. 2554
ขอบคุณและอนุโมทนานาค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ