แผ่เมตตา
ถ้าเราแผ่เมตตา เราจะได้รับอานิสงส์ ต่างๆ
แล้วคนที่เราแผ่เมตตาให้ละ จะมีอานิสงส์อะไรบ้าง
ถ้าเราทำบุญแล้วอธิฐานให้บุญกุศลตกแก่คนเป็นๆ ที่เราไม่รู้จักพ้นทุกข์ ให้ไม่เจาะจง
ได้ใหม ค่ะ
เมื่อเสียงปรากฏแล้วได้ยินแล้วมองคนที่พูดกับเราจะเจริญเมตตาได้หรือไม่ อย่างไร
หรือ (กำลัง) ได้ยินเสียงเพลงแล้วจะเจริิญเมตตาได้หรือไม่ อย่างไร ครับ
ขณะกำลังอ่านหนังสือเจริญเมตตาได้หรือไม่ อย่างไรครับ
ขณะที่คิดถึงสิ่งของๆ คนอื่นจะเจริญเมตตากับคนที่เป็นเจ้าของๆ สิ่งนั้นก็ได้ใช่ไหมครับ
ถ้าสิ่งนั้นไม่มีเจ้าของ ก็คิดว่าทุกๆ คนเป็นเจ้าของ แล้วเจริญเมตตาให้ทุกๆ คนนั้นได้
หรือไม่อย่างไร และเป็นการคิดถูกหรือเปล่าครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับเรียนความเห็นที่ 2 ครับ
เมตตา เป็นกุศลธรรมที่สามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา หากมีความเข้าใจและอบรมมาจน
เป็นนิจ แม้ขณะที่ได้ยินเสียง และมีการมองบุคคลที่คุยด้วย จิตก็สามารถมีเมตตากับ
บุคคลนั้นด้วยจิตที่หวังดี การมองด้วยนัยต์ของเราเอง ก็ด้วยความเป็นมิตร หวังดี และ
การพูดของเรา ก็พูดด้วยควเมป็นมิตร เป็นเพื่อน ในขณะนั้นก็มีเมตตา เป็นการเจริญเมตตากับคนที่พูดด้วยแล้วในขณะนั้นแล้วครับ
หรือการได้ยินเสียงเพลง ขณะที่เจริญเมตตา ต้องมีสัตว์ บุคคลเป็นอารมณ์ ไม่ใช่เสียง
หรือสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก รูปเป็นอารมณ์ ดังนั้นไม่สามารถเจริญเมตตาในเสียงได้แต่สามารถนึกคิดถึงคนที่ร้องเพลงนี้ ด้วยจิตปรารถนาให้คนที่ร้องมีความสุข จิตขณะนั้นมีเมตตา เป็นการเจริญเมตตาแล้วในขณะนั้นครับ
ที่สำคัญ การที่เมตตาจะเจริญขึ้นได้ ก็ด้วยการอาศัยการฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้าใน
เรื่องโทษของความไม่อดทน และ เห็นประโยชน์ของการมีเมตตากันครับ เมตตาถึงจะเจริญ
ขึ้นได้นั่นเองครับ
ผู้มีปกติเจริญเมตตา จะมีความเป็นมิตร มีไมตรีจิตกับทุกคน ไม่เลือกว่าเขาเป็นใคร
เช่น พระพุทธเจ้าทรงมีเมตตากับพระเทวฑัตเสมอกับพระราหุล ผู้มีปกติเจริญเมตตา
ย่อมเป็นที่รักของอมนุษย์ และ มนุษย์ ทำให้ผิวพรรณผ่องใส ไฟ หรือ อาวุธก็ไม่
สามารถทำร้ายได้ สมดังคำที่ว่า เมตตาเป็นธรรมะค้ำจุนโลก ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น เมตตา เป็นสภาพจิตที่ดีงามที่เกิดขึ้นในขณะที่มีความเป็นมิตร มีความเป็นเพื่อน มีความหวังดี มีความปรารถนาดี ต่อบุคคลอื่น การที่เมตตาจะมีหรือจะเกิดขึ้นจนมีกำลังยิ่งขึ้นในจิตของแต่ละบุคคลได้นั้น ต้องอาศัยการศึกษาและอบรม เพราะเมตตา ไม่ใช่เรื่องแผ่ ไม่ใช่เรื่องท่อง แต่สามารถอบรมเจริญได้ทันที มีเมตตา เป็นมิตร เป็นเพื่อนกับทุกคนได้ทันที
บุคคลผู้ที่เป็นมิตรกับทุกคน มีความรู้สึกสนิทสนมด้วยความจริงใจ ก็ย่อมจะเป็นผู้มีกรุณา เวลาที่บุคคลทั้งหลายประสบความทุกข์เดือดร้อน แล้วย่อมเป็นผู้มีมุทิตา เวลาที่บุคคลอื่นประสบกับความสุขความเจริญหรือความสำเร็จ และถ้าไม่สามารถที่จะเกื้อกูลได้ หรือแม้ว่าจะได้ทำประโยชน์เกื้อกูลแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ บุคคลนั้นก็ยังเป็นผู้ไม่ขุ่นเคืองใจเพราะรู้ว่าแล้วแต่เหตุปัจจัยหรือกรรมของบุคคลนั้น ก็สามารถที่จะอบรมเจริญอุเบกขา (ความเป็นกลาง ไม่เอนเอียงไปด้วยอำนาจของอกุศล) ได้ เพราะฉะนั้น จึงแสดงให้เห็นตามความเป็นจริงว่า เมตตา เป็นกุศลธรรมที่ควรอบเจริญขึ้นในชีวิตประจำวัน นอกจากจะเป็นประโยชน์แก่ตนเองแล้วยังเป็นประโยชน์เกื้อกูลต่อบุคคลอื่นได้ด้วย และประการที่สำคัญ เมตตา จะเป็นพื้นฐานให้กุศลธรรมประการอื่นพลอยเจริญขึ้นด้วย ซึ่งกุศลธรรมนี้เอง จะเป็นมิตรแท้ เป็นเพื่อนแท้ ที่คอยจะนำแต่ประโยชน์เกื้อกูลมาให้ ไม่นำความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งจะต่างจากอกุศลธรรม อย่างสิ้นเชิง ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การเมตตาเราสามารถ ทำได้อยู่ตลอดเวลา เป็นต้น กับผู้ใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอเพียง
แค่เวลาทำบุญ เท่านั้น ในชีวิตประจำวันเราพบคนที่เสียโอกาสอย่างมากมาย คนที่ไม่
พร้อมอย่างมากมาย การเมตตาก็มีหลายแบบ ทั้งวัตถุ ทั้งอาหาร ทั้งทรัพย์สิน ทั้งปัญญา
จนถึงขั้นสูงที่สุดคือ ธรรมะ เราก็สามารถเมตตาให้ต่อผู้อื่นได้โดยไม่จำกัดกาล
ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
บางทีก็ทำได้ยากจริงๆ ค่ะ ต้องอบรมให้เจริญขี้นในชีวิตประจำวันจริงๆ
ขออนุโมทนาค่ะ