ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๒๓

 
khampan.a
วันที่  16 ม.ค. 2555
หมายเลข  20376
อ่าน  1,954

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๓]

* ต้องเริ่มเข้าใจคำที่ได้ฟัง อันส่องถึงสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นคำใดๆ ก็คือขณะนี้

* เกิดมาแล้ว ตายแน่นอน ไม่มีเราอีกต่อไป สิ่งที่มีตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ใช่เรา และไม่ใช่ของเราด้วย เมื่อตายแล้ว อย่าว่าแต่ทรัพย์สมบัติเลยที่นำติดตัวไปไม่ได้ แม้แต่ร่างกายก็ไม่สามารถนำเอาติดตามไปได้

* ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ก็จะสะสมสิ่งที่ไม่ดีมากยิ่งขึ้น เมื่อตายไป ก็หอบเอาสิ่งที่ไม่ดี คือ กิเลสซึ่งเปรียบเสมือนขยะ ไปด้วย

* ไม่มีอะไรที่ควรรู้ยิ่ง ยิ่งไปกว่าสิ่งที่มีจริงในขณะนี้

* อวิชชาทำให้ไม่รู้ เพราะฉะนั้นวิชชา (ปัญญา) ต้องค่อยๆ เจริญขึ้น จึงจะละความไม่รู้ได้

* ธรรมมีอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ได้ศึกษาก็ไม่มีวันที่จะรู้ว่าเป็นธรรม ฟังพระธรรมจนกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฏ

* ฟังพระธรรมวันนี้ แล้วเข้าใจแค่นี้ ก็ยังดีกว่าไม่เข้าใจอะไรเลย

* ใช้คำว่า รูปธรรม ไม่ได้มีเฉพาะ สี เพียงอย่างเดียว (มีรูปอื่นๆ ด้วย)

* ใช้คำว่า นามธรรม ก็ไม่ได้มีเฉพาะจิตเพียงอย่างเดียว (มีเจตสิกประการต่างๆ ด้วย)

* ไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะมีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปเท่านั้น

* บุคคลผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ถึงแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ทรงตรัสรู้และทรงแสดงพระธรรม ผู้นั้นก็ไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง

* ความประพฤติที่ดีงาม เช่น พูดคำจริง พูดพอประมาณ (ตามสมควร ไม่เยิ่นเย้อยืดยาว)

* พูดคำที่น่ารัก ผู้ฟังฟังแล้วอบอุ่นใจ สบายใจ

* พูดธรรมตามกาล มีความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรม มีเมตตาในที่ทั้งปวง มีศรัทธามั่นคงที่จะทำความดี ต่อไป เป็นต้น

* อภัย คือ ไม่โกรธ ถ้ายังโกรธผู้อื่นอยู่ แสดงว่ายังไม่อภัย เพราะขณะนั้นถูกภัย คือความโกรธทำร้าย ทำให้ไม่สบายใจ ซึ่งจะเป็นเหตุให้ถ้าสะสมต่อไปๆ ก็อาจจะทำร้ายทำลายทุกอย่าง อย่างที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นอย่างนั้นไปได้

* วิบาก ซึ่งเป็นผลของกรรม ย่อมเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เพราะฉะนั้น ไม่ควรจะคิดว่า ผู้อื่นทำให้ เพราะเหตุว่าถึงคราวที่วิบากจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด

* ในเมื่อยังมีโลภะอยู่ ก็แน่นอนที่จะต้องมีความยินดี เพลิดเพลินในบางโอกาส แล้วแต่มีปัจจัยเกิดขึ้นที่จะเพลิดเพลินยินดีในทางไหน ในฐานะที่เป็นผู้ที่ยังมีโลภะอยู่ ก็เป็นชีวิตจริงๆ

* คนที่เป็นไข้ พอสร่างไข้แล้วก็ย่อมกำเริบขึ้นได้อีก เพราะเหตุว่ายังมีเชื้อไข้อยู่ ฉันใด ผู้ที่สะสมความโกรธไว้ เวลาที่ความโกรธไม่ปรากฏ ก็เหมือนกับเป็นคนที่ไม่โกรธ แต่เมื่อเวลามีเหตุปัจจัยแล้ว ความโกรธก็ย่อมเกิด นี้คือธรรมที่มีจริง ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

* ทำอกุศลกรรมแล้ว ย่อมไม่สบายใจอย่างแน่นอน มี อกุศลจิตเกิดสืบเนื่องมาจากที่ได้กระทำอกุศลกรรม อย่างมากมายทีเดียว

* ทรัพย์สินเงินทอง ไม่ได้ทำให้พ้นจากทุกข์ได้

* คลายจากความจน (ซึ่งกุศลธรรม) ด้วยการสะสมกุศลยิ่งขึ้น ตั้งแต่นี้ต่อไป

* จะคิดอะไร จะทำอะไร ก็เป็นปกติ คือ (ธรรม) เกิดแล้วตามเหตุตามปัจจัย

* ไม่ประมาทพระธรรม ว่าง่าย ไม่คิดเอาเอง แต่ศึกษาด้วยความเคารพ ละเอียด รอบคอบ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๒๒ ได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๒

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เซจาน้อย
วันที่ 16 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
orawan.c
วันที่ 16 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น และทุกๆ ท่านค่ะ..

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
kinder
วันที่ 16 ม.ค. 2555
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pat_jesty
วันที่ 16 ม.ค. 2555

"ต้องเริ่มเข้าใจคำที่ได้ฟัง อันส่องถึงสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นคำใดๆ ก็คือขณะนี้" ข้อความนี้เตือนใจได้ดีในขณะศึกษาพระธรรม เพราะจะได้ไม่หลงติดในเรื่องราวจนลืมพิจารณาว่าธรรมก็คือขณะนี้นั่นเอง ค่ะ

ขอบพระคุณอาจารย์คำปั่น และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ผู้รู้น้อย
วันที่ 17 ม.ค. 2555
ขอน้อมจิตอนุโมทนาในกุศลจิต ด้วยเศียรเกล้าครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
jaturong
วันที่ 17 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สมศรี
วันที่ 17 ม.ค. 2555
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Jans
วันที่ 17 ม.ค. 2555
ขอบคุณ และอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
paew_int
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
หลานตาจอน
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Noparat
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ไม่ประมาทพระธรรม ว่าง่าย ไม่คิดเอาเอง แต่ศึกษาด้วยความเคารพ ละเอียด รอบคอบ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 18 ม.ค. 2555

ความประพฤติที่ดีงาม เช่น พูดคำจริง พูดพอประมาณ (ตามสมควร ไม่เยิ่นเย้อยืดยาว) พูดคำที่น่ารัก ผู้ฟังฟังแล้วอบอุ่นใจ สบายใจ พูดธรรมตามกาล มีความ มั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรม มีเมตตาในที่ทั้งปวง มีศรัทธามั่นคงที่จะทำความดี ต่อไป...

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์...

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
raynu.p
วันที่ 19 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
SOAMUSA
วันที่ 21 ม.ค. 2555

กราบอนุโมทนาอาจารย์และทุกๆ ท่าน

ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ขอนำไปเผยแพร่ต่อเหมือนเดิมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
aurasa
วันที่ 28 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
nong
วันที่ 5 ก.พ. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
pamali
วันที่ 28 มิ.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
chatchai.k
วันที่ 7 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
Jarunee.A
วันที่ 5 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ