มหาปรินิพพานสูตร

 
homenumber5
วันที่  2 มิ.ย. 2555
หมายเลข  21211
อ่าน  15,772

มหาปรินิพพานสูตร คืออะไร หาอ่านได้ที่ไหน ฉบับบาลี


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 มิ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

มหาปรินิพพานสูตร เป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เกี่ยวกับ การปรินิพพาน ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้แสดงพระธรรมในเรื่อง ตามเส้นทางที่พระองค์เสด็จไป ในช่วงที่ปีใกล้จะปรินิพพาน และจนถึงวันที่พระองค์ปรินิพพาน ก็มีพระธรรมบทต่างๆ ทั้ง หนทางการอบรมปัญญา ที่เป็น ศีล สมาธิ ปัญญา และ พระธรรมบทต่างๆ ที่เป็น เพื่อความเจริญขึ้นของกุศล และ เจริญขึ้นของปัญญา และขัดเกลากิเลสทั้งสิ้น ทุก คำ ทุกๆ ประโยค ครับ

สำหรับ มหาปรินิพพานสูตร หาอ่านได้ในฉบับบาลี ที่ พระไตรปิฎก ฉบับบาลีเล่มที่ ๑๐ ของ มหามกุฏราชวิทยาลัย

สำหรับภาษาไทยอ่านได้ที่ มหาปรินิพพานสูตร ได้ที่ลิงก์นี้ หน้านี้ ครับ

[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 233

หรือ จะอ่านหนังสือพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่ม ๑๓ - หน้าที่ 233 ซึ่ง มีอรรถกถา อธิบายเพิ่มเติมด้วย ครับ


เชิญคลิกฟัง เรื่อง มหาปรินิพพานสูตร

มหาปรินิพพานสูตร - พระปัจฉิมโอวาท

มหาปรินิพพานสูตร


ดังนั้น ในวันวิสาขบูชา ก็ควรศึกษาพระธรรม เป็นสำคัญ แม้วันที่พระองค์ปรินิพพานในวันนี้ ก็มีพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เกี่ยวกับ ชีวิตที่ไม่พ้นจากความตายเป็นเครื่องเตือนใจที่จะเจริญกุศล อบรมปัญญาในชีวิตที่เหลืออยู่ไม่มาก ครับ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 291

ข้อความบางตอนจาก

มหาปรินิพพานสูตร


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเตือนภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนพวกเธอ สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด. ไม่ช้าตถาคตจักปรินิพพาน จากนี้ล่วงไปสามเดือนตถาคตจักปรินิพพาน. พระผู้มีพระภาคเจ้าสุคตศาสดาครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

[๑๐๘] คนเหล่าใด ทั้งเด็กผู้ใหญ่ ทั้งพาล ทั้ง บัณฑิต ทั้งมั่งมีทั้งขัดสน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า. ภาชนะดิน ที่ช่างหม้อทำ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ ทั้งสุกทั้งดิบ ทุกชนิดมีความแตกเป็นที่สุดฉันใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น. พระศาสดาได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า วัยของเราแก่หง่อมแล้ว ชีวิตของเรา เป็นของน้อย เราจักละพวกเธอไป เราทำที่พึ่งแก่ตนแล้ว. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงไม่ประมาท มีสติ มีศีลด้วยดีเถิด จงเป็นผู้มีความดำริตั้งมั่นด้วยดี จงตามรักษาจิตของตนเถิด. ผู้ใดจักเป็นผู้ไม่ประมาทอยู่ในธรรมวินัยนี้ ผู้นั้นจักละชาติสงสาร แล้วการทำที่สุดทุกข์ได้.


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 322

พระปัจฉิมวาจา

[๑๔๓] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด.

นี้เป็นพระปัจฉิมวาจาของพระตถาคต.

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 2 มิ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ บุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก พระองค์ ทรงเป็นผู้ห่างไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง (อรหันต์) ทรงตรัสรู้โดยชอบได้โดยพระองค์เอง (สัมมาสัมพุทธะ) สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้นั้น คือ อริยสัจจ์ ๔ ประการ ได้แก่ ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และ หนทางที่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงทั้งหมดทุกประการ พระองค์ทรงตรัสรู้ตามความเป็นจริง เมื่อทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงแล้ว ทรงมีพระมหากรุณาที่จะเกื้อกูลสัตว์โลกให้ได้เข้าใจในสิ่งที่มีจริงเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงเข้าใจ จึงทรงแสดงพระธรรม ประกาศพระศาสนาแก่สัตว์โลก ซึ่งมีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม ตามระดับขั้น ของความเข้าใจของแต่ละบุคคล สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ สูงสุดถึงความเป็นพระอรหันต์ มีเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษาแห่งการประกาศพระศาสนาคือพระธรรมคำสอนของพระองค์นั้น ตั้งแต่เริ่มแสดงพระธรรมครั้งแรกโปรดพระภิกษุปัญจวัคคีย์ จนกระทั่งเวลาที่พระองค์ใกล้จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน เป็นไปเพื่ออุปการะเกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง พระบารมีทั้งหมดที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาตลอดระยะเวลานานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ ก็เพื่อที่จะอุปการะเกื้อกูลให้สัตว์โลกได้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง พระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดสัตว์โลกมาโดยตลอด เวลาพักผ่อนของพระองค์น้อยมาก ทั้งหมดทั้งปวงนั้นเพื่ออุปการะเกื้อกูลแก่สัตว์โลกให้เกิดปัญญาอย่างแท้จริง และมีผู้ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงมากมายนับไม่ถ้วน จนกระทั่งถึงวันเพ็ญเดือน ๖ ในขณะที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา พระองค์ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เป็นการตายครั้งสุดท้ายของพระองค์ ซึ่งไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์

พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ด้วยความตั้งใจ ก็ย่อมจะได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงตามกำลังปัญญาของตนเอง ซึ่งเป็นการยากมากที่จะได้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้ว พระธรรมแต่ละคำ ซึ่งเกิดจากการตรัสรู้ของพระองค์นั้น ควรค่าแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเริ่มฟัง เริ่มศึกษา ความรู้ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nong
วันที่ 4 มิ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 5 มิ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
homenumber5
วันที่ 23 มิ.ย. 2555

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 12 มิ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 12 มิ.ย. 2564

ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม...

มหาปรินิพพานสูตร

ขอเชิญรับฟัง...

มหาปรินิพพานสูตร

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ