ลิงที่โง่...ผ่านไปแล้วชาติแล้วชาติเล่า แล้วสะสมอะไร (ตอนจบ)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สมดังพระพุทธพจน์ที่ว่า
"บุคคลใดโง่ ย่อมสำคัญความที่แห่งตนเป็นคนโง่, บุคคลนั้นจะเป็นบัณฑิตเพราะเหตุนั้นได้บ้าง; ส่วนบุคคลใดเป็นคนโง่ มีความสำคัญว่าตนเป็นบัณฑิต บุคคลนั้นแล เราเรียกว่า 'คนโง่."
เมื่อรู้ตามความเป็นจริง และเป็นผู้ตรงว่า ยังเป็นลิงโง่ ก็ย่อมจะอบรมปัญญาที่จะเป็นลิงที่ฉลาดขึ้น แต่การจะมีปัญญาได้ ก็ต้องอบรมปัญญาอย่างยาวนาน ที่เป็น จิรกาลภาวนา จึงไม่ใช่เรื่องรีบ หรือ มีตัวตนที่จะพยายาม จะทำให้มีปัญญา แม้รู้ว่า ปัญญา กุศลธรรม เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องค่อยๆ อบรมไป ทีละน้อย ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม โดยเข้าใจหลักความเป็นอนัตตาเป็นสำคัญ คือ ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ แม้แต่การที่จะให้สติและปัญญาเกิด ครับ แต่ความเข้าใจที่เกิดทีละน้อย จะปรุงแต่งเป็นสังขารขันธ์ ให้เป็นผู้เห็นประโยชน์ ของการอบรมปัญญา และ พิจารณาในชีวิตประจำวันว่า สะสมอะไรมามาก และก็จะเป็นผู้ตรงต่อไปว่า แม้ต่อไป ก็จะสะสมกิเลส มากกว่าปัญญาแน่นอน แต่ปัญญาที่สะสมทีละน้อย ย่อมฆ่ากิเลส ที่สะสมมามากได้ในที่สุด ในอนาคต ครับ
เพราะฉะนั้น ขณะที่เข้าใจพระะธรรมแต่ละขณะ แม้จะน้อยก็มีอุปการะมาก เพราะเป็นเหตุให้ถึงการดับกิเลสได้ในที่สุด จากที่เป็นลิงโง่ ก็ค่อยๆ ฉลาดขึ้น ได้ ครับ
เชิญคลิกอ่านกระทู้ที่ผ่านมาดังนี้ ครับ
ลิงที่โง่ ... จะโง่ต่อไปหรือสะสมปัญญา (ตอน ๒)
ลิงที่โง่ ... ตัวเราหรือเปล่า (ตอนที่ ๑)
ขออนุโมทนาพี่เมตตาและทุกท่าน ครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา, อาจารย์ผเดิม และทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การได้เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ก็ยังแตกต่างกันตามการสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ผู้ที่มีโอกาสได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ปัญญาเจริญขึ้นนั้น มีน้อยมาก
ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ก็จะเป็น ผู้ไม่รู้ต่อไป ไม่คุ้มค่าเลย กับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งได้ยากแสนยาก แต่ไม่ได้สะสมปัญญา ก็จะทำให้ตายไปพร้อมกับความไม่รู้ และจะไม่รู้อีกต่อไปนานแสนนานในสังสารวัฏฏ์
การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ สะสมความเข้าใจที่ถูกต้องไปตามลำดับ ย่อมเป็นชีวิตที่คุ้มค่า คุ้มค่าแล้วกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และได้ฟังพระธรรม ซึ่งหาฟังได้ยากเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ยังจะต้องฟัง ต้องศึกษาต่อไป อบรมเจริญปัญญาต่อไป ซึ่งการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้น ที่จะเป็นไป เพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ซึ่งจะเป็นเหตุ ให้พ้นจากทุกข์ในวัฏฏะ ไม่มีการเกิดอีกเลย ได้ในที่สุด แต่ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมเลย ไม่มีปัญญาเลย แล้วจะพ้นจากทุกข์ในวัฏฏะได้อย่างไร ครับ
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาและทุกๆ ท่านด้วยครับ...
... แล้วสะสมอะไรไว้ ระหว่าง วิชชา (ปัญญา) กับ อวิชชา (ความไม่รู้) ...
ขออนุโมทนาค่ะ