ปธานสูตร ... วันเสาร์ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๖

 
มศพ.
วันที่  24 ก.พ. 2556
หมายเลข  22531
อ่าน  1,900

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺสพุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ

ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...


มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ

ปธานสูตร

(ว่าด้วยความเพียรใหญ่)

...จาก...

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ หน้า ๓๙๓


(ภาพแสดงบรรยากาศการสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ ในวันเสาร์ที่ ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๕)

...นำสนทนาโดย...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะวิทยากร

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ หน้า ๓๙๓

ปธานสูตร

(ว่าด้วยความเพียรใหญ่)

[๓๕๕] มารได้เข้ามาหาเรา ผู้มีตน

ส่งไปแล้วเพื่อความเพียร บากบั่นอย่างยิ่ง

เพ่งอยู่ ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อ

บรรลุนิพพานอันเกษมจากโยคะ กล่าววาจา

ด้วยเอ็นดูว่า ท่านผู้ซูบผอม มีผิวพรรณเศร้า-

หมอง ความตายของท่านอยู่ในที่ใกล้

เหตุแห่งความตาย ของท่าน มีตั้งพัน-

ส่วน ความเป็นอยู่ของท่านมีส่วนเดียว ชีวิต

ของท่านผู้ยังเป็นอยู่ประเสริฐกว่า เพราะว่า

ท่านเป็นอยู่ จักกระทำบุญได้

ท่านประพฤติพรหมจรรย์ และบูชา

ไฟอยู่ ย่อมสั่งสมบุญได้มาก ท่านจักทำ

ประโยชน์อะไรด้วยความเพียร ทางเพื่อ

ความเพียรพึงดำเนินไปได้ยาก กระทำได้

ยาก ให้เกิดความยินดีได้ยาก มารได้ยืน

กล่าวคาถาเหล่านี้ในสำนักของพระพุทธเจ้า

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสคาถาประ-

พันธ์นี้กะมารผู้กล่าวอย่างนั้นว่า ดูกรมาร ผู้

มีบาป ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของคนประมาท ท่าน

มาในที่นี้ด้วยความต้องการอันใด ความต้อง

การอันนั้น ด้วยบุญ แม้มีประมาณน้อย ก็

ไม่มีแก่เรา ส่วนผู้ใด ยังมีความต้องการบุญ

มารควรจะกล่าวกะผู้นั้น

เรามีศรัทธา ตบะ วิริยะ และปัญญา

ท่านถามเราแม้ผู้มีตนส่งไปแล้ว ผู้เป็นอยู่

อย่างนี้เพราะเหตุไร ลมนี้พึงพัดกระแสแม่-

น้ำทั้งหลายให้เหือดแห่งไปได้ เลือดน้อย

หนึ่งของเราผู้มีใจเด็ดเดี่ยว ไม่พึงเหือดแห้ง

เมื่อโลหิตเหือดแห้งไปอยู่ ดี และเสลด

ย่อมเหือดแห้งไป เมื่อเนื้อสิ้นไปอยู่ จิตย่อม

เลื่อมใสโดยยิ่ง

สติ ปัญญา และสมาธิของเรา ย่อม

ตั้งมั่นโดยยิ่ง เรานั้นพึงจะได้รับเวทนาอัน

แรงกล้าอยู่อย่างนี้ จิตย่อมไม่เพ่งเล็งกาม

ทั้งหลาย ท่านจงดูความที่สัตว์เป็นผู้บริสุทธิ์

กามทั้งหลาย เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๑

ของท่าน ความไม่ยินดี เรากล่าวว่า เป็น

เสนาที่ ๒ ของท่าน ความหิวและความกระหาย

เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๓ ของท่าน, ตัณหา

เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๔ ของท่าน, ถีนมิทธะ

เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๕ ของท่าน , ความ

ขลาดกลัว เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๖ ของ

ท่าน, ความสงสัย เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๗

ของท่าน, ความลบหลู่ ความหัวดื้อ เรากล่าว

ว่าเป็นเสนาที่ ๘ ของท่าน, ลาภ สรรเสริญ

สักการะ เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๙ ของท่าน

และยศที่ได้มาผิดซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลยกตน

และดูหมิ่นผู้อื่น เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๑๐

ของท่าน ดูกร มาร เสนาของท่านนี้มีปกติ

กำจัดซึ่งคนผู้มีธรรมดำ คนผู้ไม่กล้าย่อมไม่

ชนะซึ่งเสนาของท่านนั้น ส่วนคนผู้กล้าย่อม

ชนะได้ ครั้นชนะแล้วย่อมได้ความสุข

ก็เพราะเหตุที่ได้ความสุขนั้น แม้เรา

นี้ก็พึงรักษาหญ้ามุงกระต่ายไว้ น่าติเตียน

ชีวิตของเรา เราตายเสียในสงครามประเสริฐ

กว่า แพ้แล้วเป็นอยู่จะประเสริฐอะไร.

สมณพราหมณ์บางพวก หยั่งลงแล้ว

ในเสนาของท่านี้ ย่อมไม่ปรากฏ ส่วนผู้ที่มี

วัตรงาม ย่อมไปโดยหนทางที่ชนทั้งหลาย

ไม่รู้

เราเห็นมารพร้อมด้วยพาหนะ ยกออก

แล้วโดยรอบ จึงมุ่งหน้าไปเพื่อรบ มารอย่า

ได้ยังเราให้เคลื่อนจากที่

โลกพร้อมด้วยเทวโลก ย่อมครอบงำ

เสนาของท่านไม่ได้ เราจะทำลายเสนาของ

ท่านเสียด้วยปัญญา เหมือนบุคคลทำลาย

ภาชนะดินทั้งดิบทั้งสุก ด้วยก้อนหิน ฉะนั้น

เรา จักกระทำสัมมาสังกัปปะให้ชำ-

นาญและดำรงสติให้ตั้งมั่นเป็นอันดีแล้ว จัก

เที่ยวจากแคว้นนี้ไปยังแคว้นโน้น แนะนำ

สาวกเป็นอันมาก

สาวก ผู้ไม่ประมาทเหล่านั้นมีใจเด็ด-

เดี่ยว กระทำตามคำสั่งสอนของเรา จักถึงที่

ซึ่งไม่มีความใคร่ ที่ชนทั้งหลายไปถึงแล้ว

ย่อมไม่เศร้าโศก

มาร กล่าวคาถาว่า

เราได้ติดตามรอยพระบาทของพระ-

ผู้มีพระภาคเจ้าสิ้น ๗ ปี ไม่ได้ประสบช่อง

ของพระสัมพุทธเจ้าผู้มีสิริ

มารได้ไปตามลมรอบๆ ก้อนหินซึ่ง

มีสีคล้ายก้อนมันข้น ด้วยคิดว่า เราจะประ-

สบความอ่อนแอในพระโคดมนี้บ้าง ความ

สำเร็จประโยชน์พึงมีบ้าง

กาตัวหนึ่ง บินอยู่รอบๆ แท่นศิลา

อันมีสีคล้ายสีมันข้น ด้วยคิดว่า “เรากำลังจะ

ได้ของอ่อนนุ่มในสิ่งนี้ ความยินดีพอใจ

ก็จะมีแก่เรา” แต่เมื่อไม่ได้ความพอใจ เพราะ

มารู้ว่า นี้คือแท่นศิลา จึงหลีกไป เราก็เป็นเช่นนั้น

ตั้งใจว่า จะมารบกวนก่อความรำคาญพระทัยให้

พระสมณโคดมเบื่อ เสด็จลุกหนีไป แต่เรากลับ

ไม่ได้ความพอใจในที่นั้น เกิดความท้อใจแล้ว

จึงหลีกไป

พิณ ของมารผู้ถูกความโศกครอบงำ

แล้ว ได้ตกจากรักแร้ ลำดับนั้น มารนั้น

เสียใจ ได้หายไปในที่นั่นแล.

จบปธานสูตรที่ ๒.

ข้อความจากอรรกถา ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่นี่

อรรถกถา ปธานสูตร [ขุททกนิกาย สุตตนิบาต]


ขอความเจริญมั่นคงในกุศลธรรมจงมีแด่ทุกๆ ท่าน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 24 ก.พ. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

ปธานสูตร

(ว่าด้วยความเพียรใหญ่)

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทรงบำเพ็ญเพียรที่ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา

แก่ภิกษุทั้งหลาย ว่า เมื่อมีมารมากราบทูลพระองค์เป็นเชิงห่วงใยว่า ร่างกาย

ของพระองค์ก็ผ่ายผอม ซูบซีด ผิวพรรณเศร้าหมอง ใกล้จะตายอยู่แล้ว หมดโอกาส

ที่จะได้ตรัสรู้ โปรดกลับใจหันกลับไปบำเพ็ญกุศลอย่างอื่นเถิด

ทรงชี้ให้มารเห็นถึงความเพียรอันเด็ดเดี่ยวของพระองค์ ว่า กระแสแม่น้ำทุกสาย

อาจจะแห้งไปเพราะสายลมได้ แต่เลือดแห่งความมีจิตมุ่งมั่นของพระองค์ไม่มีวัน

เหือดแห้งไปได้ แม้เลือด ดี เสลด จะเหือดแห้งไป แต่จิต สติ และปัญญาของ

พระองค์ยิ่งผ่องใส จากนั้นพระองค์ทรงแสดงถึงความมั่นพระทัยว่า จะกำจัดมารและ

เสนามาร ด้วยปัญญา.

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

กิเลส๔๙ และมารทั้ง๕คืออะไร พระพุทธเจ้าปราบกิเลสและมารได้อย่างไร

การปราบกิเลส มาร ตัณหาของพระพุทธเจ้า

การตรัสรู้ตามพระพุทธองค์

พระธรรมที่ทรงแสดงไม่ใช่โดยคาดคะเน แต่โดยการตรัสรู้

เป็นนักรบ มีอาวุธหรือยัง?

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 24 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nong
วันที่ 25 ก.พ. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 26 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tusaneenui
วันที่ 26 ก.พ. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ฐาณิญา
วันที่ 28 ก.พ. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nopwong
วันที่ 1 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ