มาฆสูตร ... วันเสาร์ที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๖

 
มศพ.
วันที่  10 มี.ค. 2556
หมายเลข  22597
อ่าน  1,753

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺสพุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ

ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ

มาฆสูตร

(ว่าด้วยผู้ที่บูชาประสบบุญมาก)

...จาก...

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ หน้า ๔๕๔


(ภาพแสดงบรรยากาศการสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ ในวันมาฆบูชา

วันจันทร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖)

...นำสนทนาโดย...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะวิทยากร

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ หน้า ๔๕๔

มาฆสูตร

(ว่าด้วยผู้ที่บูชาประสบบุญมาก)

[๓๖๑] ข้าพเจ้า ได้สดับมาแล้วอย่างนี้

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้กรุง

ราชคฤห์ ครั้งนั้นแล มาฆมาณพ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้

ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว

นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่

พระโคดมผู้เจริญ ก็ข้าพระองค์เป็นทายก เป็นทานบดี ผู้รู้ความประสงค์ของ

ผู้ขอ ควรแก่การขอ ย่อมแสวงหาโภคทรัพย์โดยธรรม ครั้นแสวงหาได้แล้ว

ย่อมนำโภคทรัพย์ที่ตนได้มาโดยธรรมถวายแก่ปฏิคาหก ๑ องค์บ้าง ๒ องค์บ้าง

๓ องค์บ้าง ๔ องค์บ้าง ๕ องค์บ้าง ๖ องค์บ้าง ๗ องค์บ้าง ๘ องค์บ้าง

๙ องค์บ้าง ๑๐ องค์บ้าง ๒๐ องค์บ้าง ๓๐ องค์บ้าง ๔๐ องค์บ้าง ๕๐ องค์

บ้าง ๑๐๐ องค์บ้าง ยิ่งกว่านั้นบ้าง. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ เมื่อข้าพระองค์

ถวายทานอย่างนี้ บูชาอย่างนี้ จะประสบบุญมากแลหรือ.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูกร มาณพ เมื่อท่านให้อยู่อย่างนั้น

บูชาอยู่อย่างนั้น ย่อมประสบบุญมากแท้ ดูกร มาณพ ผู้ใดแล เป็นทายก

เป็นทานบดี รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ควรแก่การขอ ย่อมแสวงหาโภคทรัพย์

โดยธรรม ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมนำโภคทรัพย์ที่ตนได้มาโดยธรรม ถวาย

แก่ปฏิคาหก ๑ องค์บ้าง ฯลฯ ๑๐๐ องค์บ้าง ยิ่งกว่านั้นบ้าง ผู้นั้นย่อม

ประสบบุญมาก.

ครั้งนั้นแล มาฆมาณพได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า

[๓๖๒] ข้าพระองค์ ขอถามพระโคดม

ผู้ทรงรู้ถ้อยคำ ผู้ทรงผ้ากาสายะ ไม่ยึดถือ

อะไรเที่ยวไป ผู้ใดเป็นคฤหัสถ์ ควรแก่การ

ขอ เป็นทานบดี มีความต้องการบุญ มุ่งบุญ

ให้ข้าวน้ำ บูชาแก่ชนเหล่าอื่นในโลกนี้ การ

บูชาของผู้บูชาอยู่อย่างนี้ จะพึงบริสุทธิ์ได้

อย่างไร

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า

ดูกร มาฆมาณพ ผู้ใด เป็นคฤหัสถ์

ควรแก่การขอ เป็นทานบดี มีความ

ต้องการบุญ มุ่งบุญ ให้ข้าวน้ำบูชาแก่ชน

เหล่าอื่นในโลกนี้ ผู้เช่นนั้น พึงให้ทักขิไณย-

บุคคลยินดีได้

มาฆมาณพ กราบทูลว่า

ผู้ใด เป็นคฤหัสถ์ ควรแก่การขอ

เป็นทานบดี มีความต้องการบุญ มุ่งบุญ

ให้ข้าวน้ำบูชาแก่ตนเหล่าอื่นในโลกนี้ ข้าแต่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์ทรงบอก

ทักขิไณยบุคคลแก่ข้าพระองค์เถิด

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า

ชนเหล่าใดแล ไม่เกี่ยวข้อง หา

เครื่องกังวลมิได้ สำเร็จกิจแล้ว มีจิตคุ้ม-

ครองแล้ว เที่ยวไปในโลก พราหมณ์ผู้มุ่งบุญ

พึงหลั่งไทยธรรม บูชาในชนเหล่านั้น

ตามกาล

ชนเหล่าใด ตัดกิเลสเครื่องผูกพันคือ

สังโยชน์ได้ทั้งหมด ฝึกตนแล้ว เป็นผู้พ้น

เด็ดขาด ไม่มีทุกข์ ไม่มีความหวัง พราหมณ์

ผู้มุ่งบุญ พึงหลั่งไทยธรรม บูชาในชน

เหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด พ้นเด็ดขาดจากสังโยชน์

ทั้งหมด ฝึกตนแล้ว เป็นผู้หลุดพ้นแล้ว

ไม่มีทุกข์ ไม่มีความหวัง พราหมณ์พึงหลั่ง

ไทยธรรม บูชาในชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด ละราคะ โทสะ และ

โมหะได้แล้ว มีอาสวะสิ้นแล้ว อยู่จบ-

พรหมจรรย์ พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรม

บูชาในชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด ไม่มีมายา ไม่มีความ

ถือตัว มีอาสวะสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์

พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมในชนเหล่านั้น

ตามกาล

ชนเหล่าใด ปราศจากความโลภ ไม่

ยึดถืออะไรๆ ว่าเป็นของเรา ไม่มีความหวัง

มีอาสวะสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์ พราหมณ์

พึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใดแล ไม่น้อมไปในตัณหา

ทั้งหลาย ข้ามโอฆะได้แล้ว ไม่ยึดถืออะไรๆ

ว่าเป็นของเรา เที่ยวไปอยู่ พราหมณ์พึงหลั่ง

ไทยธรรมบูชา ในชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด ไม่มีตัณหาเพื่อเกิดในภพ

ใหม่ ในโลกไหนๆ คือ ในโลกนี้หรือใน

โลกอื่น พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมบูชาใน

ชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด ละกามทั้งหลายได้แล้ว

ไม่ยึดถืออะไรเที่ยวไป มีตนสำรวมดีแล้ว

เหมือนกระสวยที่ตรงไป ฉะนั้น พราหมณ์

พึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด ปราศจากความกำหนัด

มีอินทรีย์ตั้งมั่นดีแล้ว พ้นจาการจับแห่ง

กิเลส เปล่งปลั่งอยู่ เหมือนพระจันทร์

พ้นแล้วจากราหูจับ สว่างไสวอยู่ฉะนั้น

พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่า-

นั้นตามกาล

ชนเหล่าใด มีกิเลสสงบแล้ว ปราศ-

จากความกำหนัด เป็นผู้ไม่โกรธ ไม่มีคติ

เพราะละขันธ์อันเป็นไปในโลกนี้ได้เด็ดขาด

พราหมณ์ พึงหลั่งไทยธรรม บูชาในชน

เหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด ละชาติและมรณะ ไม่มี-

ส่วนเหลือ ล่วงพ้นความสงสัยได้ทั้งปวง

พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่า

นั้นตามกาล

ชนเหล่าใด มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีเครื่อง

กังวล หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง เที่ยวไป

อยู่ในโลก พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมบูชา

ในชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใดแล ย่อมรู้ในขันธ์และ

อายตนะเป็นต้นตามความเป็นจริงว่า ชาตินี้

เป็นชาติสุดท้าย ภพใหม่ไม่มี ดังนี้ พราหมณ์

พึงหลั่งไทยธรรม บูชาในชนเหล่านั้นตามกาล

ชนเหล่าใด เป็นผู้ถึงเวท ยินดีในฌาน

มีสติ บรรลุธรรมเครื่องตรัสรู้ดี

เป็นที่พึ่งของเทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก

พราหมณ์ผู้มุ่งบุญพึงหลั่งไทยธรรมบูชาใน

ชนเหล่านั้นตามกาล

มาฆมาณพ กราบทูลว่า

คำถามของข้าพระองค์ ไม่เปล่า

ประโยชน์แน่นอน ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า

พระองค์ ตรัสบอกทักขิไณยบุคคลแก่ข้า-

พระองค์แล้ว ก็พระองค์ย่อมทรงทราบ

ไญยธรรมนี้ ในโลกนี้โดยถ่องแท้ จริงอย่าง

นั้น ธรรมนี้พระองค์ทรงทราบแจ่มแจ้งแล้ว

ผู้ใดเป็นคฤหัสถ์ เป็นผู้ควรแก่การขอ เป็น

ทานบดี มีความต้องการบุญ มุ่งบุญ ให้

ข้าวน้ำบูชาแก่ชนเหล่าอื่นในโลกนี้ ข้าแต่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์ตรัสบอก

ความถึงพร้อมแห่งยัญแก่ข้าพระองค์

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า

ดูกร มาฆะ เมื่อท่านจะบูชา

ก็จงบูชาเถิด และจงทำจิตให้ผ่องใสในกาล

ทั้งปวง เพราะยัญย่อมเป็นอารมณ์ของบุคคล

ผู้บูชายัญ บุคคลตั้งมั่นในยัญนี้แล้ว ย่อม

ละโทสะเสียได้

อนึ่ง บุคคลผู้นั้น ปราศจากความ

กำหนัดแล้ว พึงกำจัดโทสะ เจริญเมตตาจิต

อันประมาณมิได้ ไม่ประมาทแล้วเนืองๆ

ทั้งกลางคืนกลางวัน ย่อมแผ่อัปปมัญญา

ภาวนาไปทั่วทิศ

มาฆมาณพ กราบทูลว่า

ใครย่อมบริสุทธิ์ ใครย่อมหลุดพ้น

และใครยังติดอยู่ บุคคลจะไปพรหมโลกได้

ด้วยอะไร ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมุนี ข้า-

พระองค์ทูลถามแล้ว ขอพระองค์โปรด

ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ผู้ไม่รู้ ก็พระผู้มี

พระภาคเจ้าผู้เป็นพรหม ข้าพระองค์ขออ้าง

เป็นพยานในวันนี้ เพราะพระองค์เป็นผู้

เสมอด้วยพรหมของข้าพระองค์จริงๆ (ข้าแต่

พระองค์ผู้มีความรุ่งเรือง) บุคคลจะเข้าถึง

พรหมโลกได้อย่างไร

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า

ดูกร มาฆะ ผู้ใดย่อมบูชายัญ

ครบทั้ง ๓ อย่าง ผู้เช่นนั้นพึงให้ทักขิไณย-

บุคคลทั้งหลายยินดีได้ เราย่อมกล่าวผู้นั้นว่า

เป็นผู้ควรแก่การขอ ครั้นบูชาโดยชอบอย่าง

นั้นแล้ว ย่อมเข้าถึงพรหมโลก

[๓๖๓] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว มาฆมาณพ ได้กราบ

ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก

ท่านพระโคดม ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ

เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า ผู้มีจักษุจัก

เห็นรูป ฉะนั้น ข้าพระองค์นี้ขอถึงท่านพระโคดม กับทั้งพระธรรมและภิกษุสงฆ์ เป็น

สรณะ ขอท่านพระโคดมโปรดจงทรงจำข้าพระองค์ ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอด

ชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.

จบมาฆสูตรที่ ๕ .

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากอรรถกถาได้ที่นี่

อรรถกถา มาฆสูตร [ขุททกนิกาย สุตตนิบาต]

...ขอความเจริญมั่นคงในกุศลธรรมจงมีแด่ทุกท่าน...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 10 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

มาฆสูตร

(่ว่าด้วยผู้ที่บูชาประสบบุญมาก)

เมื่อครั้งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์

มาฆมาณพ ได้เข้าไปเฝ้าและกราบทูลถามพระองค์ว่า ตนเองเป็นคฤหัสถ์ เมื่อ

แสวงหาโภคทรัพย์มาโดยชอบธรรมแล้ว ก็ได้มีการถวายทานแด่ปฏิคาหก (ผู้รับ)

๑ องค์ บ้าง ๒ องค์บ้าง ๓ องค์บ้าง เป็นต้น เมื่อถวายอยู่อย่างนี้ บูชาอยู่

อย่างนี้ จะประสบบุญมาก หรือไม่

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เมื่อมีความประพฤติเป็นไปอย่างนั้น ย่อมประสบบุญ

มาก ต่อจากนั้น มาฆมาณพ ได้กราบทูลถามพระองค์ต่อไปว่า คฤหัสถ์ ผู้ต้องการ

บุญ ผู้มุ่งบุญ ให้ข้าวน้ำ บูชาแก่ชนเหล่าอื่นในโลกนี้ การบูชาจะพึงบริสุทธิ์

ได้อย่างไร

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า คฤหัสถ์ ผู้ต้องการบุญ ผู้มุ่งบุญ ให้ข้าวน้ำ บูชาแก่

ชนเหล่าอื่นในโลกนี้ ก็พึงบูชาพระทักขิเณยบุคคล ผู้ละกิเลสทั้งหลายได้แล้ว

(ตามข้อความที่ปรากฏในพระสูตร)

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ ครับ

ยัญ

ยัญ [อุชชยสูตร]

ทักขิไณยบุคคล ๒ จำพวก [ทกฺขิเณยฺยา]

เรื่องทานกับจาคะ

บูชาด้วยอะไร

การบูชาผู้ที่ ควรบูชาเป็นมงคล.

บุญและบาป

สังโยชน์

เญยยธรรม ๕

ไทยธรรมที่เป็นทานบารมี [จริยาปิฎก]

เวท ... เวทคู

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Noparat
วันที่ 10 มี.ค. 2556

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 10 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nong
วันที่ 12 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chamaikorn
วันที่ 12 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
sumano
วันที่ 12 มี.ค. 2556

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 15 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ฐาณิญา
วันที่ 16 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nopwong
วันที่ 16 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ch.
วันที่ 16 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ