ทำไมเราจึงเกิด เราเกิดมาทำไม !!!

 
wkedkaew
วันที่  16 พ.ค. 2556
หมายเลข  22913
อ่าน  2,912

ทำไมเราจึงเกิด เราเกิดมาทำไม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทำไมต้องเกิด คำถามนี้ เหมือนจะง่ายแต่ลึกซึ้ง ดังนั้นก็จะต้องรู้จัก ความเกิดและเหตุ ให้มีการเกิดครับ จึงจะเข้าใจว่า ทำไมต้องเกิดนั่นเองครับ

การเกิด ในพระพุทธศาสนา เช่น เกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เป็นสัตว์เดรัจฉานนี่คือ การเกิดเป็นบุคคลต่างๆ ประเภทต่างๆ ซึ่งในความจริงที่เป็นสัจจะในพระพุทธศาสนาที่ พระพุทธเจ้าแสดงไว้ว่า การเกิด คือ การเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมและรูป ธรรม คือ จิตและเจตสิก รวมทั้งรูป เพราะมีจิต มีรูป เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย เพราะมี สภาพธรรมเหล่านี้เกิดขึ้น จึงมีการเกิด และบัญญัติเรียกว่า เป็นการเกิดของมนุษย์ ของ สัตว์เดรัจฉาน หากไม่มีสภาพธรรม ไม่มีจิต และรูปแล้วจะไม่มีการบัญญัติ สมมติเรียก เลยว่าเป็นคน เป็นสัตว์ครับ ดังนั้น สรุปได้ว่า การเกิดของมนุษย์หรือสัตว์ต่างๆ คือ การ เกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็นจิต เจตสิก รูป จึงบัญญัติ สมมติเรียกว่การเกิดนั่นเองครับ เพราะฉะนั้นที่เราเกิดมา ก็คือการเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก รูปครับ

เหตุให้มีการเกิด ดังที่กล่าวแล้ว การเกิด คือ การเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก รูป ซึ่งการเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เป็นสัตว์ก็ต้องมีเหตุให้เกิดนั่นเองครับ ดังนั้นการเกิดเป็นผลของกรรม ทางธรรมเรียกว่า ปฏิสนธิจิตคือ ขณะที่เกิดนั่นเองครับ ปฏิสนธิจิต หรือการเกิดเป็นผลของกรรม ดังนั้นต้องมีเหตุให้เกิดผล คือ การทำกรรมดี หรือกรรมไม่ดีในอดีต อันเป็นเหตุ จึงทำให้ มีการให้ผลของกรรมคือการเกิดครับ เมื่อ กรรมดีที่เคยทำไว้ในอดีตให้ผล เช่น กรรมดีในชาติก่อนๆ ก็ทำให้เป็นปัจจัยให้มีการ เกิดในชาตินี้ เพราะการเกิดในชาตินี้ ขณะที่เกิด เป็นผลของกรรมครับ อันมีเหตุมาจาก การทำกรรมดีในอดีตให้ผล เมื่อกรรมดีในอดีตให้ผล ผลคือการเกิดในชาตินี้ เมื่อเป็น ผลของกรรมดี ก็ย่อมเกิดในที่ที่ดี เรียกว่า สุคติภูมิ อันเป็นภูมิที่ดี มี มนุษย์ เทวดา เป็นต้นครับ เพราะเป็นผลของกรรมดี ดังนั้น ในชาตินี้ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นผลของ กรรมดีในอดีตที่ให้ผลครับ ส่วนถ้ากรรมชั่วในอดีตให้ผล ก็เป็นปัจจัยให้มีการเกิดในภพ ภูมิที่ไม่ดีที่เรียกว่า ทุคติภูมิ มี นรกและสัตว์เดรัจฉาน เป็นต้นครับ

จะเห็นนะครับว่า เหตุของการเกิดเพราะมีการทำกรรมไว้ในอดีตเป็นปัจจัยจึงทำให้มี การให้ผลของกรรมคือมีการเกิดอยู่ ดังนั้นจะห้ามการเกิดไม่ได้เลยครับ ที่สำคัญที่สุด ควรเข้าใจความจริงว่า ที่มีการทำกรรมดี กรรมไม่ดี อยู่ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ อันเป็นเหตุให้เกิดในภพูมิต่างๆ การทำกรรมดี ไม่ดี มีสาเหตุจากเพราะมีความไม่รู้ มี อวิชชาและมีกิเลส จึงมีการทำกรรม และเมื่อมีการทำกรรมก็ย่อมเป็นปัจจัยให้มีการเกิด ต่อไปไม่สิ้นสุด เพราะฉะนั้น สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดคือ กิเลสที่ยังมีอยู่และความ ไม่รู้ อวิชชาที่ยังมีอยู่นั่นเองครับ ดังนั้น จะอยากหรือไม่อยากเกิด ก็ต้องเกิดแน่นอนครับ หากยังมีกิเลสครับ ทำไมต้องเกิดเพราะมีกิเลสจึงยังต้องเกิดครับ

เมื่อได้ศึกษาธรรมโดยละเอียดจะรู้ว่า การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยากมากครับ เมื่อ ได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ได้มีโอกาสพบพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็เป็นสิ่งที่ยาก มากเข้าไปอีก และเมื่อได้พบพระธรรมแล้ว เป็นผู้สนใจในหนทางที่ถูกต้องและมีศรัทธา ในพระธรรมที่ถูกต้องยิ่งยากขึ้นไปกว่านั้น แต่ขณะนี้ก็ถึงพร้อมแล้วในสิ่งที่กล่าวมา พระพุทธองค์ตรัสว่า ขณะอย่าล่วงเลยพวกท่านไปเสีย เพราะบุคคลที่ล่วงเลยขณะไป ย่อมพากันยัดเยียดกันในนรกครับ ดังนั้นขณะอย่าล่วงเลยไป คือ ขณะที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมและขณะที่ปัญญาเจริญขึ้นนั่นเองครับ

เพราะฉะนั้น เกิดมาทำไม เกิดมา เพราะ มีกิเลส และ ต้องได้รับกรรม และ ผลของ กรรมที่ทำไว้ และ ยังจะต้องเกิดอยู่ร่ำไป การเกิดก็เพราะเป็นทุกข์ เพราะต้องได้รับ ทุกข์กาย และ ทุกข์ใจ ดังนั้น เมื่อเกิดมาแล้ว ควรแสวงหา หนทางพ้นทุกข์ ดังเช่น พระพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ และ ทรงแสดงธรรม ควรที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ที่จะอบรมปัญญาเพื่อละกิเลส ไม่ต้องเกิดอีก และ สะสมกุศลทุกๆ ประการ ที่จะเป็น เสบียงในการเดินทางไกลในสังสารวัฏฏ์ที่จะต้องเกิดอีกมากมาย จนกว่าจะไม่เกิดอีก เมื่อดับกิเลสหมดสิ้น ด้วยการศึกษาพระธรรม

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 266

[๖๘๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ... คนเขลาย่อมเข้า ถึงครรภ์บ่อยๆ สัตว์ย่อมเกิดและตายบ่อยๆ บุคคลทั้งหลายย่อมนำซากศพไปป่าช้า บ่อยๆ ส่วนผู้มีปัญญาถึงจะเกิดบ่อยๆ ก็ เพื่อได้มรรคแล้วไม่เกิดอีก ดังนี้


เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับมีประโยชน์มาก

...คำตอบของชีวิต ๐๑ _ คนเราเกิดมาทำไม

ชีวิตเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เท่านั้นหรือ

อักขณสูตร .. ผู้ปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

การได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นไปได้ยากแสนยากจริงๆ

ได้ทราบมาว่า .. การได้อัตภาพเป็นมนุษย์นี้แสนยาก

เหมือนฝุ่นติดปลายเล็บ [นขสิขสูตร]

ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 16 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จะคิดหรือไม่คิดก็ตามว่า ทำไมเราถึงเกิดมา เราเกิดมาทำไม แต่ก็ได้เกิดมาแล้วและไม่ใช่เฉพาะในชาตินี้เท่านั้น ในชาติที่แล้วๆ มา ก็เคยเกิดมาแล้ว นับชาติไม่ถ้วน และ ยังจะต้องเกิดต่อไปอีก ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ยังไม่ได้ดับเหตุที่จะทำให้มีการเกิด คือ กิเลส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ อวิชชา และ ตัณหาซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้สังสารวัฏฏ์ยืดยาว ต่อไปอีก

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่ได้แสนยาก เพราะจะ ต้องได้ด้วยผลของกุศล ไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นผลของกุศลประเภทใด ขึ้นอยู่กับว่ากุศล ประเภทใดจะให้ผล ซึ่งไม่พ้นไปจากความดีในชีวิตประจำวัน ทั้งทาน ศีล และการอบรม เจริญปัญญา [ซึ่งต้องไม่ใช่ผลของฌานขั้น ต่างๆ อย่างแน่นอน เพราะผลของฌานขั้นต่างๆ ทำให้เกิดในพรหมโลก ตามระดับขั้นของฌาน] ถ้าเทียบกันระหว่างสุคติภูมิ กับ อบายภูมิแล้ว การไปเกิดในอบายภูมิ ไปได้ง่ายกว่าสุคติภูมิจริงๆ ซึ่งพระองค์ทรงแสดงเปรียบเทียบไว้ด้วยข้ออุปมาฝุ่นที่ปลายพระนขา (เล็บ) ที่พระองค์ทรงช้อนขึ้นมา กับ ฝุ่นที่ผืนแผ่นดิน ว่า ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ มีเป็นส่วนน้อย เหมือนกับฝุ่นที่อยู่ปลาย พระนขาของพระองค์ ส่วน ผู้ที่ไปเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ มีมาก เหมือนกับฝุ่นที่ผืน แผ่นดิน ซึ่งควรจะได้พิจารณาเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ก็จะเป็น ผู้ไม่รู้ต่อไป ไม่คุ้มค่าเลยกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งได้ยากแสนยากแต่ไม่ได้ สะสมปัญญา ก็จะทำให้ตายไปพร้อมกับความไม่รู้ และจะไม่รู้อีกต่อไปนานแสนนาน ในสังสารวัฏฏ์ ยากที่จะพ้นไปได้

การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ สะสม ความเข้าใจที่ถูกต้องไปตามลำดับ ได้สะสมความดี และ สะสมปัญญา ย่อมเป็นชีวิต ที่คุ้มค่า คุ้มค่าแล้วกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีอวัยวะครบถ้วน[พร้อมที่จะรองรับพระ ธรรม] และได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังพระธรรมซึ่งหาฟังได้ยากเป็นอย่างยิ่งจากบุคคล ผู้มีปัญญา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ ก็ควรที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญ ปัญญา เพื่อรู้สภาพธรรม คือ นามธรรมและรูปธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ต่อไป เวลาของแต่ละบุคคล เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ถ้าไม่เริ่มฟัง ไม่เริ่มศึกษาตั้งแต่ในขณะนี้ การที่จะฟัง การที่จะศึกษาในขณะต่อๆ ไป ก็จะมีไม่ได้ เริ่มต้นตั้งแต่ในขณะนี้ เป็นการ ดีอย่างยิ่ง ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ความเข้าใจพระธรรมเป็นสาระสำคัญที่สุดในชีวิต

มีมือเท้าไว้ทำอะไร

ที่พักและเสบียงในการเดินทางไกล

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 16 พ.ค. 2556

เกิดมาใช้ผลของกรรม และ สร้างกรรมใหม่ที่ดี และ ไม่ดี ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 16 พ.ค. 2556
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
mild
วันที่ 16 พ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทำไมเราจึงเกิด กิเลสสวะ เป็นปัจจัย ให้เกิด กรรมวัฏฏ์ กรรมวัฏฏ์ เป็นปัจจัยแก่ วิปากวัฏฏ์ เพราะมีเหตุที่สร้างไว้แล้ว คือกิเลส และกุศลต่างๆ วิบากจึงให้ผลด้วยการเกิดเพื่อรับผล ทางทวาร ต่างๆ ในภูมิที่ต่างไป

เราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่อรับผลที่สร้างไว้ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ถ้าไม่มีกิเลสอันเป็นเหตุ ก็ไม่เกิดผลคือการเกิด ถ้าเหตุมี ผลจึงมี ถ้าเหตุดับ ผลก็ไม่ต้องเกิดอีก

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ..

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ทำไมเราจึงเกิด..เราเกิดมาทำไม..เป็นคำถามที่น่าสนใจคะ

ทำไมเราถึงเกิด ขณะนี้ถึงอยากเกิดหรือไม่อยากเกิดความจริงคือเกิดมาแล้ว บังคับบัญชาไม่ได้แต่พระธรรมมีคำตอบ เกิดหรือไม่เกิดเพราะผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว เราเกิดมาทำไม พระธรรมก็มีคำตอบเช่นกันเกิดมาเพื่อรับผลของกรรมที่ได้กระทำไว้แล้วประการหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นอาจจะคิดว่า.ถ้าไม่ทำอะไรก็ไม่ต้องรับผลของกรรม เป็นไปได้ไหมตราบใดที่ยังมี จิต เจตสิก รูป ที่คิดและทำเรื่องต่างๆ ทางกายวาจาและ ใจเป็นสิ่งที่เรียกว่า ทำดีหรือทำไม่ดีหรือคิดดีหรือคิดไม่ดีที่ออกมาเป็นการกระทำที่ เรียกทั่วไปว่ากรรมและกรรมที่ได้กระทำแล้วให้ผลเป็นผลของกรรม (รับกรรม) แต่ถ้าถามว่าผลของกรรมที่ไม่ให้ผลมีหรือไม่มี ในพระธรรม มีคะและมีกรรมที่ไม่ทำ ให้เกิดอีกเลยด้วย ถ้าไม่ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และ บอกทางที่เรียกว่าอริยมรรคหรือสัมมาปฏิปทาจนดับกิเลสได้หมดสิ้นก็ยังต้องเกิดอีก และอาจมีคำถามว่าทำไมเราถึงเกิด และเกิดมาทำไม สงสัยไหมคะว่าทำไมชมรมบ้านธัมมะถึงใช้คำว่า ทำดีและศึกษาพระธรรม .. ถ้าศึกษาพระธรรมจะรู้สึกว่าคำนี้เหมาะสมแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wkedkaew
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ขอขอบพระคุณทุกท่าน ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
rrebs10576
วันที่ 18 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
peem
วันที่ 18 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
nong
วันที่ 18 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
daris
วันที่ 19 พ.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
jirat wen
วันที่ 12 มิ.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ