สังขารธรรมและสังขตธรรม
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
สังขารธรรมและสังขตธรรมหมายความว่าอย่างไรครับและมีความแตกต่างกันอย่างไร ขอความอนุเคราะห์ด้วย ครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สังขารธรรม คือ ธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่ง หมายถึง สภาพธรรมที่ต้องอาศัยสภาพธรรมอื่นจึงเกิดขึ้นได้แก่ จิต เจตสิก และรูปทั้งหมด เป็นสังขารธรรม เพราะต้องอาศัยสภาพธรรมอื่นๆ เป็นปัจจัย
สังขตธรรม คือ ธรรมอันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว หมายถึง สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย เป็นเหตุทำให้เกิด เมื่อหมดเหตุปัจจัย สภาพธรรมนั้นๆ ก็ดับ สังขตธรรมจึงหมายถึง สภาพธรรมที่มีการเกิดดับ ได้แก่ จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘
ซึ่งสังขารธรรม และสังขตธรรม หมายถึง สภาพธรรมอย่างเดียวกัน แต่ทรงใช้ศัพท์คนละคำ เพื่ออธิบายความหมายให้ชัดเจนขึ้น คือ สังขารธรรม เป็นธรรม ที่มีปัจจัยปรุงแต่ง แต่สังขตธรรม นอกจากเป็นธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่งแล้ว ยังเป็นสภาพธรรมที่เกิดดับด้วย ครับ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ
ความละเอียดของสังขารธรรมและสังขตธรรม
เชิญคลิกฟังคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ที่นี่ ครับ
สังขารธรรม - สังขตธรรม สองคำสองความหมาย
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่พ้นจากชีวิตประจำวันเลย เมื่อกล่าวสังขารธรรม หรือ สังขตธรรม เพราะกล่าวถึงสภาพธรรมที่มีจริง ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับให้สภาพธรรมหนึ่ง สภาพธรรมใดเกิดขึ้นเป็นไปได้ ไม่มีสภาพธรรมอย่างหนึ่งอย่างใดที่เกิดขึ้นเองลอยๆ แต่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อประมวลแล้ว ก็คือ จิตทั้งหมดเจตสิกทั้งหมดและรูป ทั้งหมด เป็นสังขารธรรม เป็นสังขตธรรม เช่น เห็นในขณะนี้ เกิดเพราะปัจจัยหลายอย่างกล่าวคือ มีอารมณ์ของจิตเห็น มีเจตสิกเกิดร่วมกับจิตเห็น มีที่เกิดของจิตเห็น มีกรรมเป็นปัจจัยให้จิตเห็นเกิดขึ้น แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่มีเราแทรกอยู่ในสภาพธรรมนั้นๆ เลย ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ