จิตตชรูปอยู่ที่ไหนคะ

 
สิริพรรณ
วันที่  5 พ.ย. 2556
หมายเลข  23971
อ่าน  3,775

ที่กล่าวว่า "....จิตและเจตสิกเป็นสหชาตปัจจัยให้รูปเกิดพร้อมกับจิตทันทีที่จิตเกิดขึ้นในอุปาทขณะ จิตทุกดวงมี ๓ อนุขณะ (ขณะย่อย) คืออุปาทขณะ (ขณะเกิดขึ้น) ฐีติขณะ (ขณะยังไม่ดับ) ภังคขณะ (ขณะดับ) จิตไม่ได้สั่งให้รูปเกิด จิตตชรูป คือ รูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัยนั้น เกิดพร้อมกับจิตทันทีที่จิตเกิดขึ้นในอุปาทขณะนั้นเอง แต่ทั้งนี้ต้องเว้นปฏิสนธิจิต เพราะในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นนั้นมีแต่กัมมชรูป คือ รูปที่เกิดเพราะกรรมเกิดร่วมด้วย ไม่มีจิตตชรูป เมื่อปฏิสนธิจิตดับไปแล้วจิตจึงเป็นปัจจัยให้รูปเกิดขึ้นพร้อมกับจิต ตั้งแต่ปฐมภวังค์ คือ ภวังค์ดวงแรกเป็นต้นไป" ขอเรียนถามว่า

1. การจิตที่เป็นกุศล ส่งผลให้เซลในร่างกายดีด้วยหรือไม่คะ ถ้าไม่รวมถึงกรรมเก่า

2. คำว่าจิตไม่ได้สั่งให้รูปเกิดหมายความว่าอย่างไรคะ แล้วที่กล่าวว่า จิตตชรูป คือรูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัย คืออะไร แล้วจิตตชรูปอยู่ตรงไหน ในหทัยวัตถุหรือไม่คะ

ขอความกรุณาท่านผู้รู้ให้ความกระจ่างด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 5 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1. การจิตที่เป็นกุศล ส่งผลให้เซลในร่างกายดีด้วยหรือไม่คะ ถ้าไม่รวมถึงกรรมเก่า

ซึ่งขณะที่กุศลจิตเกิด ก็ต้องมี จิตตชรูป รูปที่ดีเกิดขึ้นร่วมด้วยในขณะนั้น ทำให้มีเซลล์ร่างกายที่ดีด้วย ซึ่งเมื่อคราวที่ท่านพระมหากัสสปะท่านป่วยหนัก พระพุทธเจ้าทรงแสดง โพชฌงค์ ท่านพิจารณาเกิดปิติอย่างยิ่งเพราะเข้าใจธรรม เกิดจิตที่ดี รูปที่ดีก็เกิดขึ้น ทำให้โลหิตท่านผ่องใส และหายขาดจากโรค ครับ นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง

2. คำว่า จิตไม่ได้สั่งให้รูปเกิด หมายความว่าอย่างไรคะ แล้วที่กล่าวว่า จิตตชรูป คือรูปที่เกิดเพราะจิตเป็นปัจจัย คืออะไร แล้วจิตตชรูปอยู่ตรงไหน ในหทัยวัตถุหรือไม่คะ

- จิตตชรูป คือ รูปที่เกิดจากจิต หมายถึง รูป ๑๕ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ วิการรูป ๓ วิญญัติรูป ๒ สัททรูป ๑ ปริจเฉทรูป ๑ ซึ่งเกิดจากจิตเป็นปัจจัย จิตที่เป็นปัจจัยให้เกิดรูปได้มี ๗๕ ดวงเท่านั้น เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ อรูปวิบาก ๔ (จิตที่ทำกิจปฏิสนธิ ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูป เพราะจิตในขณะปฏิสนธิกาลมีกำลังอ่อน จุติจิตของพระอรหันต์ก็ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูป เพราะเป็นความสิ้นสุดของสังสารวัฏฏ์ หมดความสืบต่อของนามและรูปทั้งปวง)

จิตไม่มีหน้าที่สั่ง แต่มีหน้าที่รู้อารมณ์เท่านั้นครับ การเคลื่อนไหวได้ เช่น ต้องการไปหยิบอะไรซักอย่าง เพราะอาศัยจิต เกิดธาตุลมไหวไป แต่จิตไม่ได้สั่งอะไร และที่สำคัญ รูปจะรับรู้คำสั่งของจิตได้ไหม เพราะรูปเป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร ใครจะสั่งรูปได้ เพราะรูปไม่รู้อะไรเลยครับ เพราะฉะนั้น จิตทำหน้าที่รู้อารมณ์เท่านั้น และที่มีการเคลื่อนไหวไปเพราะอาศัยเหตุปัจจัยต่างๆ ประชุมรวมกัน จึงมีการเคลื่อนไหว ไม่มีใคร ไม่มีจิตที่จะสั่งครับ ขณะที่เกิด ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น รูปเกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิต แล้ว สั่งทันไหม เพราะเกิดพร้อมกับจิตในขณะอุปาทขณะแล้วครับ ส่วนรูปเกิดเพราะจิตได้ ด้วยความเป็นจิตชชรูปเพราะอาศัยจิตเป็นสมุฏฐาน แต่ไม่ใช่จิตสั่งครับ

เชิญคลิกอ่านทีนี่ในเรื่องจิตสั่งครับ

สมองกับจิต

สติสั่งสมองหรือจิตสั่งสมองได้หรือไม่

ส่วน จิตตชรูป ก็เกิด ตามสมุฏฐาน คือ จิต แต่ ไม่ใช่ หทยวัตถุรูป เพราะเป็นคนละรูป

ส่วนนาม ที่เป็นกุศลจิต อกุศลจิต อาศัยที่เกิด คือ หทยรูป ครับ ส่วน จิตตชรูป ไม่ได้อยู่ที่ไหน ก็แล้วแต่ว่า จะมีเหตุปัจจัยให้เกิดรูปที่ส่วนใดของร่างกาย ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 พ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากการที่เริ่มได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเมื่อกล่าวถึงสภาพธรรมแล้ว มีมากมาย และไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันเลย ทั้งที่เป็นนามธรรม และ รูปธรรม ถ้าไม่ศึกษาก็จะไม่มีทางเข้าใจถูกเห็นถูกได้เลย มีแต่ธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนเลย แม้จะกล่าวถึงรูปธรรม ก็มีสมุฏฐานให้รูปเกิดขึ้น ตามควรแก่รูปธรรมนั้นๆ และไม่ได้เกิดขึ้นเพียงรูปเดียว แต่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มมีรูปหลายรูปเกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้น แม้แต่รูปที่เกิดจากจิต ก็เกิดเพราะมีจิตเป็นสมุฏฐาน ซึ่งต้องมีจิตอย่างแน่นอนเกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้น แต่จิตที่ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูปก็มี ตามความเป็นจริงของธรรม คือ ทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ อรูปวิบาก ๔ จิตที่ทำกิจปฏิสนธิ ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูป เพราะจิตในขณะปฏิสนธิกาลมีกำลังอ่อน และ จุติจิตของพระอรหันต์ก็ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูป เพราะเป็นความสิ้นสุดของสังสารวัฏฏ์ หมดความสืบต่อของนามและรูปทั้งปวง เพราะฉะนั้นกุศลจิต และ อกุศลจิต ที่เกิดขึ้นเป็นไป ก็เป็นเหตุให้เกิดรูปที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างขณะที่เกิดกุศล มีความเข้าใจถูกเห็นถูก ตลอดจนถึงมีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่นเป็นต้น กับ ขณะที่โกรธขุ่นเคืองใจผู้อื่น ความเป็นไปของรูปที่เกิดจากจิต ย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ทั้งสิ้น และขึ้นชื่อว่าเป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้ว ไม่มีแม้แต่อย่างเดียวที่เกิดแล้วจะเที่ยงแท้ยั่งยืนไม่ดับ เพราะเหตุว่า ล้วนต้องดับไปเป็นธรรมดาด้วยกันทั้งนั้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 5 พ.ย. 2556

จิตตชรูป คือ รูปที่เกิดจากจิต เช่น ขณะที่โกรธ ขณะที่เสียใจก็มีรูปที่ไม่ดีเกิดขึ้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
สิริพรรณ
วันที่ 5 พ.ย. 2556

กราบขอบพระคุณยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 12 พ.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ