อภิเษกตนเอง
พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นการแสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง แต่ละคำในพระไตรปิฎก ก็ไม่พ้นไปจากขณะนี้ ละเอียด ลึกซึ้งมากยากที่จะเข้าใจตามได้ แต่เมื่อธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง สามารถรู้ตามได้ แต่ต้องด้วยการตั้งใจฟังตั้งใจศึกษาเท่านั้นจึงจะมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ผู้ที่เข้าใจธรรม มีความเห็นถูกเข้าใจถูกจึงเป็นบัณฑิต ไม่ใช่คนเขลาที่คิดว่าพระธรรมง่าย และคิดเองว่ามีวิธีอื่นที่จะดับกิเลสได้โดยไม่ต้องศึกษาให้เข้าใจโดยละเอียด ไม่ต้องอบรมเจริญปัญญาให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังมีขณะนี้ หรือคิดธรรมเอาเอง แล้วอภิเษกคือ แต่งตั้งด้วยใจว่าตนเองเป็นบัณฑิต
ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ก็จะไม่มีคนพาลหรือคนโง่เลย แต่ตามสภาพธรรมตามความเป็นจริงแล้ว ไม่เป็นอย่างนั้นเลย เพราะไม่มีปัญญา ไม่ได้เข้าใจธรรมอย่างถูกต้อง แต่ถูกความเห็นผิดครอบงำ เดินไปสู่หนทางที่ผิดจะเป็นบัณฑิตได้อย่างไร แท้จริงแล้วเป็นคนพาลเท่านั้น ดังที่มีตัวอย่างให้เห็นกันจริงๆ ว่าในขณะนี้ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงนั้น จะอันตรธานไปเร็วแค่ไหน มีแต่ผู้ที่คิดธรรมเองโดยไม่ศึกษาพิจารณาพระธรรมโดยละเอียด มีความเห็นผิด ความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมากมายซึ่งอันตรายมาก และก็แพร่ระบาดไปเร็ว
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีพระ ๔ รูปมาที่มูลนิธิ ร่วมสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์กับชาวต่างชาติ พระที่มาสนทนาธรรมมีความเห็นว่า พระธรรมนั้นเป็นเรื่องง่าย และที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยายธรรมอยู่นี้เข้าใจยาก ทำให้ผู้ฟังไม่มีกำลังใจ พระที่มาท่านคิดว่าการจะดับโลภะเป็นสมุจเฉทนั้น ไม่ต้องศึกษาพระธรรมมากมายเหมือนที่ท่านอาจารย์สุจินต์สอนอยู่
แค่ศึกษาแล้วก็รู้ว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาก็พอแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เป็นอนัตตา ก็รู้แล้ว ไปศึกษาทำไม เห็น ได้ยิน... ก็รู้แล้วว่าเห็นเป็นอนัตตา พระคิดทางของท่านเองที่จะดับโลภะโดยไม่ใช่ทางที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงซึ่งก็คืออริยมรรคมีองค์ ๘ การอบรมเจริญความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ไม่มีวิธีอื่นจริงๆ วิธีของพระนั้นไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญา ท่านไม่ได้ฟังพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ ประมาทพระธรรมว่าง่าย ท่านเป็นผู้ที่อภิเษกตนเองว่าเป็นบัณฑิตหรือเปล่า?
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากพระไตรปิฎกได้ที่นี่ค่ะ
อภิเษกตนเองว่าเป็นบัณฑิต [จูฬวิยูหสูตร]
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่
ธรรมเป็นเรื่องละเอียด ลึกซึ้ง มีอยู่ตลอดเวลา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ.คำปั่น ที่กรุณาค้นข้อความจากพระไตรปิฎกมาให้ และรายละเอียดความลึกซึ้งของธรรม ให้เข้าใจยิ่งขึ้น ด้วยค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ
ขออนุโมทนาพี่เมตตาและอาจารย์คำปั่น ครับ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ.คำปั่น ที่กรุณาค้นข้อความจาก พระไตรปิฎกมาให้ และรายละเอียดความลึกซึ้งของธรรม ให้เข้าใจยิ่งขึ้น
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ. ผเดิม ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตาด้วยครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ด้วยความเคารพ จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี
ขอบพระคุณ คุณธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี อย่างมากค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตอย่างยิ่ง ด้วยค่ะ
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
อริยะสัจ ทั้ง 4 ลึกซึ้ง รู้ได้ยากในทุกอริยะสัจ ประมาทเพียงเล็กน้อยโมหะก็พาไปให้เข้าใจผิดที่คิดว่าการไม่ต้องรู้ความจริงที่ปรากฏขณะนี้ เหตุเพราะทุกข์พาไปให้คิดเช่นนี้ การขัดเกลากิเลสต้องเป็นไปตามขั้น ตามกำลังความเข้าใจ จนรู้โดยรอบ จึงเป็นเหตุให้ดับโดยรอบ ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมถึง 45 พรรษาเหตุเพราะธรรมมะลึกซึ้งรู้ได้ยากทุกข์อริยะสัจจะลึกซึ้งรู้ได้ยาก สมุทัยอริยะสัจจะลึกซึ้งรู้ได้ยาก นิโรธอริยสัจจะลึกซึ้งรู้ได้ยาก มรรคอริยะสัจจะลึกซึ้งรู้ได้ยาก แต่รู้ได้เมื่อคุณธรรมถึงขั้นที่รู้ได้ตามแต่เหตุ การไม่อภิเษกตัวเองก็คือ การไม่ประมาทในคำของพระศาสดา
ขออนุโมทนาครับ