วิรตีเจตสิก

 
สิริพรรณ
วันที่  2 ต.ค. 2557
หมายเลข  25591
อ่าน  6,663

อ่านในปรมัตถธรรมสังเขปหน้า 388

" ในเบื้องต้นที่โลกุตตรจิตยังไม่เกิด มรรคมีองค์ 5 (เว้นวิรตีเจตสิก เพราะวิรตีเจตสิกเกิดทีละดวง วิรตีเจตสิกทั้ง 3 ดวง จะเกิดพร้อมกันเฉพาะในโลกุตตรจิตเท่านั้น) ....." ขอความกรุณาท่านวิทยากรอธิบายเพิ่มประเด็นในวงเล็บค่ะ ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นก็เข้าใจวิรตีเจตสิกให้ละเอียดก่อนครับว่าคืออะไร
วิรตีเจตสิก วิรตี (การงด, การเว้น, การวิรัติ) + เจตสิก (สภาพที่เกิดกับจิต)

เจตสิกที่ทำให้เกิดการงดเว้นจากบาป หมายถึง โสภณเจตสิก ๓ ดวง คือ สัมมาวาจา ๑ สัมมากัมมันตะ ๑ สัมมาอาชีวะ ๑
๑. สัมมาวาจาเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากวาจาทุจริต ๔
๒. สัมมากัมมันตเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากกายทุจริต ๓
๓. สัมมาอาชีวเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากอาชีพทุจริต ที่เป็นไปทางวาจา ๔ และทางกาย ๓

ดังนั้นในขณะที่เป็นกุศลขั้นศีล วิรตีทำหน้าที่งดเว้นจากทุจริตทางกาย วาจา และอาชีพ คือจะต้องมีการงดเว้นจากบาปครับ จึงมีวิรตีเจตสิกเกิดขึ้น ดังนั้น ขณะที่เป็นกุศลจิต เช่น ให้ทาน เป็นต้น ขณะนั้นก็ไม่ได้มีการทำทุจริตทางกาย วาจา และอาชีพใช่ไหมครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีวิรตีเจตสิก เพราะขณะนั้นไม่มีการงดเว้นจากบาปทางกาย วาจาในขณะนั้นครับ เพียงแต่คิดจะให้ แต่ขณะที่เห็นและงดเว้นจะไม่ตบยุง มีเจตนางดเว้นจากบาป คือไม่ฆ่าสัตว์ ก็เป็นวิรตีเจตสิกเกิดขึ้นคือสัมมากัมมันตะในขณะนั้นครับ โดยทำนองเดียวกัน ขณะที่สติปัฏฐานเกิด เป็นกุศลจิต แต่ไมได้หมายความว่าจะต้องมีวิรตีเจตสิก แม้ขณะนั้นไม่ได้ทำบาป ไม่ได้มีการฆ่าสัตว์ เป็นต้น ก็ตามแต่ก็ไม่ได้มีการงดเว้นจากบาป จึงไม่จำเป็นจะต้องมีวิรตีเจตสิก ครับ

วิรตีเจตสิกทั้ง ๓ ดวงนี้ เกิดได้กับจิตเพียง ๑๖ ดวงเท่านั้น คือเกิดได้กับมหากุศลจิต ๘ ดวง และโลกุตตรจิต ๘ ดวง วิรตีที่เกิดกับมหากุศลจิต จะเกิดได้ทีละดวง ซึ่งเป็นไปในกุศลขั้นศีล เพราะอารมณ์ของวิรตีทั้ง ๓ นั้นต่างกัน จึงเกิดไม่พร้อมกัน ส่วนวิรตีที่เกิดกับโลกุตตรจิตจะต้องเกิดพร้อมกันทั้ง ๓ ดวง เพราะเป็นองค์ของอธิศีลสิกขา ซึ่งทำกิจประหารกิเลสเป็นสมุจเฉท และเพราะมีอารมณ์คือ พระนิพพาน อย่างเดียวกัน
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
วิรตีเจตสิกเกิดกับมหากุศล ๘ และโลกุตตรจิต ๘
วิรตีเจตสิก ๓ ดวง
วิรตีเจตสิก
มรรคสมังคี
ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 2 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ไม่ว่าจะกล่าวถึงอะไรก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงเลย รวมถึงวิรตีเจตสิก ๓ ประเภทด้วย ก็เป็นธรรมที่มีจริง คือสัมมาวาจาเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่วิรัติงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ สัมมากัมมันตเจตสิกเป็นเจตสิกที่ดีงามที่งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ และประพฤติผิดในกามและสัมมาอาชีวเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่งดเว้นจากวจีทุจริตและกายทุจริตที่เกี่ยวเนื่องด้วยอาชีพ ธรรมเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไปได้
ถ้าไม่ได้มีการวิรัติงดเว้นอะไร วิรตีเจตสิกแต่ละหนึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับมหากุศลหรือเกิดร่วมกับมัคคจิต สภาพธรรมเหล่านี้ก็ไม่เปลี่ยน เป็นเจตสิกแต่ละประเภทๆ เพียงแต่ว่าถ้าเกิดร่วมกับมหากุศลจิต เกิดเพียงวิรตีหนึ่งเท่านั้นจะไม่เกิดพร้อมกัน เนื่องจากอารมณ์ต่างกัน แต่ถ้าเกิดร่วมกับมัคคจิต (และผลจิต) ต้องเกิดพร้อมกันทั้ง ๓ เจตสิก ทำกิจดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น และรู้อารมณ์เดียวกันคือพระนิพพาน นอกจากนั้นแล้ว ก็จะต้องเกิดร่วมกับองค์มรรคอื่นๆ อีก ๕ องค์ด้วย คือสัมมาทิฏฐิ (ปัญญาเจตสิก) , สัมมาสังกัปปะ (วิตักกเจตสิก) , สัมมาวายามะ (วิริยเจตสิก) , สัมมาสติ (สติเจตสิก) , สัมมาสมาธิ (เอกัคคตาเจตสิก) รวมเป็นองค์มรรคทั้ง ๘ องค์ที่ประชุมพร้อมกันในขณะที่มัคคจิตและผลจิตเกิดขึ้นครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วิริยะ
วันที่ 2 ต.ค. 2557

เรียนถามความเห็นที่ 1

ในขณะที่มหากุศลจิตดวงใดดวงหนึ่งเกิดขึ้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีวิรตีเจตสิกเกิดขึ้นเสมอไปแต่ถ้าวิรตีเจตสิกดวงใดดวงหนึ่งเกิดขึ้น ก็ต้องเกิดกับมหากุศลจิต 8 ดวงนี้ ยกตัวอย่าง เช่นเห็นกระเป๋าสตางค์ของผู้อื่นลืมทิ้งไว้ แต่ไม่นำมาเป็นของตัว ทั้งๆ ที่สามารถทำได้และรู้ด้วยว่าใครเป็นเจ้าของกระเป๋า เช่นนี้เรียกว่าเป็นการไม่ขโมย มีวิรตีเจตสิก เข้าใจถูกหรือไม่คะ

ขอบพระคุณอย่างสูง

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 2 ต.ค. 2557

เรียนความเห็นที่ 3 ครับ

ถูกต้องครับ ซึ่งขณะที่งดเว้นไม่ขโมยของคนอื่น ก็เป็นการงดเว้นที่จะไม่ทำบาปทางกาย คืองดเว้นจากการลักขโมย ก็มีสัมมากัมมันตะเจตสิกเกิดในขณะนั้นครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วิริยะ
วันที่ 2 ต.ค. 2557

เรียนถาม

วิรตีเจตสิกเกี่ยวข้องกับศีลโดยตรง และไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา เกิดขึ้นเมื่อมีการกระทำที่จะไม่ล่วงศีล เมื่อเป็นเช่นนี้ เมื่อบุคคลใดกล่าวว่าตนเป็นผู้มีศีล ไม่ล่วงศีล 5 ก็ยังไม่สามารถเชื่อได้ เพราะในขณะนั้นยังไม่มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงการที่จะไม่ล่วงศีล ขณะนั้นไม่มีวิรตีเจตสิกเกิดขึ้น เป็นเช่นนั้นหรือไม่คะ
ขอบพระคุณอย่างสูง

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 2 ต.ค. 2557

เรียนความเห็นที่ 5 ครับ

ถูกต้องครับ ไม่ได้หมายความว่าคนที่อยู่เฉยๆ จะมีศีลที่เป็นกุศลศีล เพราะขณะที่เป็น
อกุศล ก็ไม่ได้มีศีลที่เป็นกุศลศีล ไม่ได้มีวิรตีเจตสิกครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
orawan.c
วันที่ 2 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
วิริยะ
วันที่ 2 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
tanrat
วันที่ 3 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Raphassit
วันที่ 8 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
peem
วันที่ 10 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Witt
วันที่ 18 มิ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ