สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 2 ถึงไซ่ง่อนแล้วค่ะ
ถึงไซ่ง่อนแล้วค่ะ
29 ธ.ค. 57
ก่อนเดินทาง 1 วัน มีข่าวเครื่องบินแอร์เอเซียตก มีผู้โดยสาร 160 กว่าคน คาดว่าเสียชีวิต ทั้งหมด เป็นเครื่องทดสอบว่า มั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรมแค่ไหน ผลทดสอบคือไม่ ผ่านเพราะยังหวั่นไหว นึกหวาดเสียวอยู่หน่อยๆ ว่า เครื่องบินอาจจะตก แต่ก็ปลอบใจตัวเอง ว่าคงไม่เป็นไร เพราะเดินทางไปกับท่านอาจารย์ อาศัยบุญของท่านคุ้มครอง ท่านเดินทาง ไปไซ่ง่อนครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่พระธรรมอันประเสริฐแก่ผู้มีศรัทธา สะสมความเข้าใจมาก่อน ให้ได้เข้าใจเพิ่มขึ้น ผลของกุศลต้องคุ้มครองให้ปลอดภัย คิดอย่างนี้ ก็ยิ่งแสดงความไม่เข้า ใจขึ้นไปอีกว่า แต่ละคนก็แต่ละหนึ่ง ทุกคนมีกรรมเป็นของของตน ใครทำกรรมอันใดไว้ดีหรือ ชั่วก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น ถ้าบุญของใครสามารถคุ้มครองคนอื่นๆ ได้ อย่างนั้นพระอรหัน- ตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระมหากรุณาคุณอย่างที่สุด ก็ทรงสามารถทำให้โลกปราศจาก สงคราม ปราศการประหัตประหาร ทำร้ายกันได้ แต่เพราะทรงทราบว่า เมื่อยังมีกิเลส เป็นเหตุ ให้ทำอกุศลกรรม จึงต้องได้รับผลของอกุศลกรรมนั้น เป็นภัยพิบัติร้ายแรงระดับต่างๆ มากที่ สุดในภพนี้ คือหมดสภาพความเป็นบุคคลนี้ ไม่สามารถทำกุศลใดๆ ได้อีกต่อไป ไม่มีใคร สามารถ ช่วยใครให้พ้นจากการได้รับผลของกรรมได้
จึงทรงแสดงความจริงของทุกสรรพสิ่งว่า ทุกอย่างเป็นเพียงธาตุ คือสิ่งที่มีจริง เกิดขึ้นเพียง ขณะเดียวแล้วก็กับไปทันที ไม่กลับมาอีก แล้วจะหาความเป็นสัตว์ บุคคล ได้จาก สิ่งที่หมดไป แล้ว ไม่มีอะไรเหลือเลยจากที่ไหน จึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล
เครื่องบินแอร์เอเซีย (สาเหตุของความหวาดเสียวใจ ที่จริงก็เป็นเพียงชื่อที่สมมติขึ้น แต่ถ้า เปลี่ยนเป็นชื่อการบินไทย ก็จะหวาดเสียวน้อยลง) ออกเดินทางเวลา บ่ายสี่โมงเย็น ทุกคนกลัว รถติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงพากันไปก่อนเวลา รวมทั้งคุณแก้วตา เอนกพุฒิ ที่เป็นคนดูแล ท่านอาจารย์และพี่จี๊ดด้วย (ขออนุโมทนาค่ะ ที่ดูแลท่านอย่างดีเยี่ยม แล้วสั่งเสียให้เราดูแลต่อ แต่มือไม่ถึง น้องเมตตา ชัยศรีโสภณกิจ และ คุณกฤษณา วงศ์วิภาส จึงรับทำหน้าที่ต่อไป ขออนุโมทนาค่ะ หน้าที่อนุโมทนาไม่เคยลืม อย่างนี้จะเรียกว่า ชุบมือเปิบหรือเปล่าคะ?) แล้ว การจราจรก็ไม่ติดขัดเลย แต่ก็ดีแล้ว เพราะคนที่สนามดอนเมืองแน่นมาก พวกเราจึงได้ นั่งพักสบายๆ และเครื่องก็ดีเลย์ ท่านอาจารย์ได้สนทนาธรรมให้ผู้สนใจฟังอีกตามเคย เวลา ของท่านคุ้มค่าจริงๆ เดินผ่านผู้โดยสารท่านหนึ่ง ถามว่าท่านนี้เป็นใคร เห็นคนมานั่งล้อม ฟังท่านพูด ก็ตอบว่า ไม่รู้จักหรือคะ ท่านคือ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานมูล- นิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาไงคะ เขาบอกว่าไม่รู้จัก ลืมไปอีกแล้วว่า ธรรมะไม่ สาธารณะ สำหรับทุกคน ต้องสำหรับคนที่ทำบุญไว้แล้ว ที่จะมีศรัทธา อยากรู้ความจริงแท้ ของชีวิต
นั่งเครื่องไปไซ่ง่อน ใช้เวลา 1:30 ชั่วโมงก็ถึง (เฮ้อ ถึงแล้วจริงๆ หวาดเสียวไป เพราะความ ไม่รู้ จึงเกิดมาในหล้าโลก เพราะไม่รู้จึงหวาดเสียวกลัวภัย ขอยืมสำนวนอาจารย์อรรณพ ที่ น่าอัศจรรย์นะคะ) แต่กว่าจะออกจากสนามบินได้ เพราะต้องรอสหายธรรมที่ไม่ใช้พาสพอร์ต ไทยทำวีซ่าที่สนามบินก็มืดแล้ว สหายธรรมเวียดนาม มาคอยต้อนรับนานเป็นชั่วโมง ลูก หลานเวียดนามทั้งหลายยิ้มแย้มดีใจ ที่จะได้ฟังธรรมจากท่านอาจารย์ น่าปลื้มปีติจริงๆ ที่ ได้มาอยู่ท่ามกลางมิตรที่สนใจในการอบรมเจริญปัญญา โดยมีท่านอาจารย์เป็นกัลยาณมิตร มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะเช่นนี้
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
... อ่านตอนต่อไป ...
... อ่านย้อนหลัง ...
หากกรรมยังไม่ให้ผล กระโดดตึกตั้ง28 ชั้น ตกลงมาก็แค่พิการ แต่ไม่ตาย
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ